วอนหญิงไทยอย่าอายหมอ รีบไปตรวจมะเร็งปากมดลูกดีกว่า

วอนหญิงไทยอย่าอายหมอ รีบไปตรวจมะเร็งปากมดลูกดีกว่า

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 เมษายน 2549 12:16 น.

สปสช.วอนหญิงไทยอายุ 35 ปีขึ้นไป ให้ตรวจมะเร็งปากมดลูก ตั้งงบประมาณ 200 ล้านบาท ประสานโรงพยาบาลสังกัด สธ.ค้นหาหญิงไทยกลุ่มเสี่ยง 1.5 ล้านรายทั่วประเทศ เข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูก หากพบอาการในระยะเริ่มต้นสามารถรักษาได้

นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า จากสถิติจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งในปี พ.ศ.2542 พบว่า มีจำนวนผู้ป่วยใหม่ 87,060 ราย โดยโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ มะเร็งตับ รองลงมา คือ มะเร็งปอด มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งในช่องปาก สำหรับผู้หญิงไทยที่พบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งมากในประเทศไทยคือ มะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของสตรี ทั้งนี้ พบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ประมาณปีละ 6,300 ราย และกลุ่มที่พบมากที่สุดในกลุ่มอายุระหว่าง 45-50 ปี ระยะที่พบส่วนใหญ่อยู่ในระยะลุกลาม มีอัตราการอยู่รอด 5 ปี หรือประมาณร้อยละ 60 ประมาณการว่าจะมีผู้ป่วยรายใหม่และผู้ป่วยเก่าที่ต้องติดตามให้การดูแลรักษาไม่น้อยกว่า 60,000 คนทั่วประเทศ

นพ.สงวน กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตของประชาชนและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเป็นจำนวนมาก โดยในปีที่ผ่านมามีหญิงไทยเข้ารับการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกใน รพ.ทั่วประเทศ เพียง 450,000 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 64.7 จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 700,000 ราย ของการคัดการคัดกรองหญิงไทย และมีจังหวัดที่มีหญิงไทยใส่ใจสุขภาพมากที่สุด คือ กระบี่ นครราชสีมา เป็นต้น แสดงให้เห็นว่าหญิงไทยยังไม่กล้าไปตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจำนวนมาก

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณปี 2549 สปสช.ได้จัดให้สตรีไทยได้รับการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เร่งรณรงค์ให้สตรีไทยตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกโดยเฉพาะสตรีที่อายุ 35-60 ปี โดยตั้งงบประมาณไว้กว่า 200 ล้าน ภายใต้โครงการ โครงการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งปากมดลูก 75 จังหวัด มีเป้าหมายที่จะคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในสตรีไทยจำนวน 1.5 ล้านคนต่อปี ซึ่งคาดว่าจะช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก ในสตรีไทยได้

ปัจจุบันโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของประเทศไทย และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น โรคมะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที่รักษาให้หายได้ ถ้าสามารถตรวจพบตั้งแต่ในระยะแรก ๆ ก่อนเป็นมะเร็ง

อย่างไรก็ตาม จากผลการศึกษาในหลายประเทศ ชี้ให้เห็นว่า การตรวจคัดกรองด้วยการทำ Pap Smear ซึ่งเป็นวิธีการตรวจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเป็นวิธีการที่มีความแม่นยำที่สุดและยังมีความสำคัญต่อการลดอัตราการเกิดและอัตราตายจากโรคมะเร็งปากมดลูกด้วย นพ.สงวนกล่าวและว่าจากผลการศึกษาวิจัยของ International Agency for Research on Cancer (IARC/WHO) พบว่า หากทำ Pap Smear 1 ครั้งทุกปี 1 ครั้งทุก 2 ปี หรือ 1 ครั้งทุก 3 ปี จะพบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกลดลงร้อยละ 9193 เนื่องจากค้นพบอาการตั้งแต่เริ่มต้น สามารถรักษาได้ และการทำ Pap smear 1 ครั้งทุก 5 ปี จะพบผู้ป่วยลดลงร้อยละ 84

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์