วอนช่วยค่าปลูกถ่ายตับหนูน้อย2ขวบ

เมื่อวันที่  14 ธ.ค. นายสมชาย  คนพิทักษ์   นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเกษไชโย  อ.ไชโย  จ.อ่างทอง 

เปิดเผยว่า   เทศบาลได้ให้ความช่วยเหลือครอบครัว ด.ญ.ชาริสา  ขุนวงษ์  หรือน้องอี๊ด   อายุ 2 ขวบ 3 เดือน  อยู่บ้านเลขที่  39 หมู่ 6  ต.ไชโย   หนูน้อยน่าสงสารที่ป่วยด้วยโรคตับแข็งระยะสุดท้าย  อาจมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนัก  การรักษาที่จะให้มีชีวิตรอดได้คือการปลูกถ่ายตับซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายนับล้านบาท แต่ว่าฐานะครอบครัวยากจน

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านพักเลขที่ดังกล่าวพบนายจักรินทร์  ขุนวงษ์   อายุ 33 ปี  กำลังดูแล ด.ญ.ชาริสา หรือน้องอี๊ค  ลูกสาว

โดยนายจักรินทร์   เปิดเผยว่า   น้องอี๊ดมีอาการตัวเหลืองผิดปกติตั้งแต่อายุ  1 เดือน  จึงเข้ารับการรักษาที่ ร.พ.อ่างทอง  แพทย์วินิจฉัยว่าสาเหตุจากโรคท่อน้ำดีตีบตัน  ต่อมาได้เข้ารักษาและผ่าตัดที่ ร.พ.เด็ก   แต่อาการไม่ดีขึ้น มีภาวะตับแข็งอย่างต่อเนื่อง  แพทย์จึงส่งตัวไปยัง ร.พ.รามาธิบดี และแนะนำให้รักษาโดยการผ่าตัดปลูกถ่ายตับ  ซึ่งเป็นทางเดียวที่จะรอดชีวิตได้   ไม่เช่นนั้นจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่กี่เดือน 

“ค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงมากกว่าล้านบาท  ในขณะที่ครอบครัวยากจน  ตนและภรรยาถูกโรงงานให้ออกเนื่องจากลาหยุดบ่อยครั้งเพราะจำเป็นต้องนำลูกไปตรวจรักษาเดือนละ 2-3 ครั้ง  ซึ่งในขณะนี้ครอบครัวมีรายได้จากภรรยาที่มีอาชีพรับจ้างวันละ 150 บาทเท่านั้น   ค่านมฉพาะโรค  ขนาด 400 กรัม ราคา 250 บาท ลูกกินได้ 2 วัน 

น.ส.ชาลิสา  บานเย็น   แม่ของน้องอี๊ค  ให้สัมภาษณ์ว่า  ตนได้ปรึกษากับแพทย์ว่า ให้ผ่าตัดตับของตนไปปลูกถ่ายให้ลูกเพื่อให้เขามีชีวิตรอดจะได้หรือไม่

หรือหากมีวิธีใดแม้จะให้ตนสละชีวิตก็ยินยอม   เพราะขณะนี้ลูกมีอาการตัวเหลือง  ท้องบวบ ขาลีบเล็ก และมีอาการคันตามร่างกายซึ่งเป็นที่ทรมานจนสงสารลูกมากจึงไม่อยากให้อาการทรุดมากไปกว่านี้เพราะอยู่ในระยะสุดท้าย   แพทย์ได้นัดผ่าตัดปลูกถ่ายตับในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้  แต่ต้องเสียค่าผ่าตัด  7-8 แสนบาท  จากนั้นต้องฟื้นฟูภาวะโภชนาการกินยากดภูมิคุ้มกันและเจาะเลือดเดือนละ 1,0000 บาท เป็นเวลาประมาณ 10 ปี  เราจึงพยายามดิ้นรนขอความช่วยเหลือ”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  รองศาสตราจารย์สุพร  ตรีพงษ์กรุณา  กุมารแพทย์โรคทางเดินอาหารและตับในเด็ก ร.พ.รามาธิบดี  ได้ทำหนังสือถึงผู้มีจิตศรัทธา 

ขอความอนุเคราะห์สนับสนุนค่ารักษาพยาบาล  เนื่องจากผู้ป่วยที่มีตับแข็งระยะสุดท้าย  การรักษาที่ทำให้ผู้ป่วยรอดชีวิตได้คือการปลูกถ่ายตับ  โดยมีค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดและดูแลรักษาระยะแรกประมาณ 5-6 แสนบาท  หลังจากนั้นระยาวต้องกินยากดภูมิคุ้มกัน  ต้องเสียค่ายาและค่าเจาะเลือดเดือนละประมาณ 10,000 บาท    ทั้งนี้  ร.พ.รามาธิบดียินดีให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในระยะแรก  แต่ยังขาดเงินทุนสนับสนุนระยะยาว หากผู้ป่วยรายนี้ได้รับเงินทุนสนับสนุนก็จะสามารถทำการปลูกถ่ายตับได้  มิเช่นนั้นผู้ป่วยโรคตับแข็งก็มักเสียชีวิตจากภาวะตับวายรื้อรังและภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
 


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์