ลำดับ6ชม.หาดใหญ่จม มหาศาล แรง เร็ว เกินป้องกันทัน

18.00 น. (1 พฤศจิกายน 2553) หลังเกิดฝนตกต่อเนื่อง 2 วัน ทำให้ระดับน้ำในคลองอู่ตะเภา และคลองระบายน้ำที่ 1 เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครหาดใหญ่ตัดสินใจยกระดับการเตือนภัยเป็น "ธงแดง" หมายถึงน้ำจะท่วมภายใน 6-30 ชั่วโมง ให้เตรียมย้ายทรัพย์สินและอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ภายหลังจากเพิ่งสั่งปรับเปลี่ยนจาก "ธงเขียว" เป็น "ธงเหลือง" ให้เฝ้าระวังเมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน

22.00 น. ระดับน้ำเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องตัดสินยกระดับการเตือนภัยสูงสุดเป็น "ธงแดง" เปิดสัญญาณ "ไซเรน" หมายถึง "น้ำจะท่วมภายใน 2 ชั่วโมง ให้ประชาชนอพยพทันที"

22.10 น. พายุดีเปรสชั่นพัดเข้าถล่มพื้นที่ชายฝั่งด้านอ่าวไทย ทำให้พื้นที่เทศบาลนครสงขลา ต.เกาะยอ อ.เมืองสงขลา พื้นที่ชายฝั่ง อ.สิงหนคร อ.สทิงพระ ได้รับความเสียหาย ต้นไม้ริมชายฝั่งล้มระเนระนาด เรือที่จอดหลบคลื่นที่เกาะหนู เกาะแมว ถูกพายุพัดเกยชายหาด

22.30 น. น้ำทั้งสองคลองเริ่มทะลักจากพนังกั้นน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เริ่มตั้งแต่บริเวณชุมชนเทศาพัฒนา เทศบาลนครหาดใหญ่ ก่อนหน้านั้นน้ำเข้าท่วมหมู่บ้านลัดดานิเวศน์ เขตเทศบาลตำบลควนลัง และท่วมฝั่งตรงข้าม ตั้งแต่หน้าที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ ขณะเดียวกันมีการตัดระบบไฟฟ้าในพื้นที่น้ำท่วม

23.30 น. ระบบการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์เริ่มติดขัด โดยเฉพาะโทรศัพท์พื้นฐาน

24.00 น. น้ำเริ่มไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชั้นในย่านเศรษฐกิจ ถนนนิพัทธ์อุทิศ 1, 2 และ 3 ถนนเสน่หานุสรณ์ ระดับน้ำท่วมสูง 1 เมตรเศษ ขณะที่ริมคลองอู่ตะเภา น้ำท่วมสูง 3 เมตร หลังน้ำเริ่มเอ่อได้มีการเตือนภัยผ่านวิทยุชุมชน วิทยุท้องถิ่น ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บ้านชั้นเดียวอพยพออกนอกพื้นที่เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูงเพิ่มขึ้น และน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็ว ทำให้ประชาชนบางส่วนขนย้ายข้าวของไม่ทัน ขณะที่พื้นที่ท่วมซ้ำซาก แม้ขนย้ายข้าวของขึ้นอยู่ที่สูง แต่น้ำเกินความคาดหมาย ทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหายเช่นกัน

เจ้าของรถหลายร้อยคันสามารถขับรถขึ้นไปจอดบนที่สูง และบนสะพานได้ทัน แต่อีกหลายพันคันหนีไม่ทันก็จมอยู่ในน้ำเช่นเดียวกับรถของนักท่องเที่ยวที่จอดในชั้นใต้ดินตามโรงแรมต่างๆ

07.30 น. (2 พฤศจิกายน 2553) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมายังศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ เปิดศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อำนวยการแก้ไขปัญหา

ตลอดช่วงเช้าได้ระดมเรือท้องแบน รถบรรทุกออกให้ความช่วยเหลือประชาชน ที่พยายามใช้โทรศัพท์มือถือโทรแจ้งตามสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 และสถานีวิทยุท้องถิ่น รวมถึงสายด่วนกู้ภัย 1784 แต่การช่วยเหลือยังไม่ครอบคลุม เนื่องจากไม่สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่นำเรือพร้อมอุปกรณ์กู้ภัยที่ออกไปช่วยเหลือแล้วได้

11.30 น. มีการเปิดโรงครัวชั่วคราว ปรุงอาหารสำเร็จรูปออกแจกจ่ายประชาชนที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา

12.30 น. นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา ทำข้าวกล่องสำเร็จรูป กว่า 500 ชุด ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ นำไปหย่อนให้ผู้ประสบภัยที่การช่วยเหลือเข้าไปไม่ถึง

15.30 น. น้ำจากพื้นที่ อ.สะเดาเริ่มไหลเข้าสู่ตัวเมืองหาดใหญ่ ทำให้น้ำบริเวณถนนลพบุรีราเมศวร์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แม้น้ำในคลองอู่ตะเภา และคลองระบายน้ำที่ 1 ไหลระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลา แต่ก็ไม่ช่วยให้น้ำในตัวเมืองลดลงมากนัก เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในภาคใต้ตอนล่างมากกว่าที่เคยตกจนท่วมหาดใหญ่ในปี 2543



16.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาประชุมรับทราบสถานการณ์ที่ มณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่

17.00 น. คณะของนายกรัฐมนตรีนั่งรถไปแจกของ แต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึงแยกคอหงส์พบว่าระดับน้ำท่วมสูงจนรถไม่สามารถผ่านได้ จึงแจกถุงยังชีพให้ประชาชนในละแวกดังกล่าวเสร็จขึ้นรถและเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ พร้อมมอบหมายให้นายถาวร เสนเนียม บัญชาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ตอนล่าง


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์