ลั่นคุมไทยเป็นที่สุดท้าย โค้ชเช’ขอโทษ ทำคนทั้งประเทศให้วุ่นวาย

“โค้ชเช” เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย แถลงข่าวเปิดใจกรณีมีปัญหากับ “น้องก้อย” รุ่งระวี ขุระสะ จอมเตะสาวทีมชาติไทย

โดยการแถลงข่าวของโค้ชเชมีขึ้นเวลา14.10 น. ของวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย โดยโค้ชเช กล่าวขอโทษประชาชนชาวไทยทุกคน และเผยเหตุที่ทำลงไปเนื่องจากเป็นห่วงวินัยของนักกีฬา แม้ว่าการแข่งขัน “โคเรีย โอเพน” ครั้งที่ผ่านมาจะเป็นรายการเล็ก แต่หากปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ที่เอเชียนเกมส์อีก ก็จะเกิดความเสียหายและอาจถูกปรับแพ้ได้ และพร้อมต้อนรับ “น้องก้อย” กลับทีมชาติเสมอ ตนไม่เคยโกรธเลย

“ผมไม่คิดว่าเรื่องนี่จะเกิดขึ้น แล้วก็อยากให้จบเร็วๆครับ แต่เนื่องจากผมเป็นห่วงเรื่องวินัยของนักกีฬา แม้ว่ารายการ โคเรีย โอเพน จะเป็นรายการเล็กๆ ไม่สำคัญอะไรมากนัก แต่หากเราปล่อยไปให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ที่ เอเชียนเกมส์ และนักกีฬาลืมไอดีการ์ด เขาก็จะเข้าสนามไม่ได้ ต่อจากนี้หากน้องก้อยอยากจะเข้ามาพูดคุยเป็นการส่นตัววกับผมก็ยินดีครับ และถ้าอยากกลับมาเป็นทีมชาติอีกครั้งผมยินดีต้อนรับเสมอ”

หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย กล่าวต่อว่า จะไม่เปลี่ยนวิธีลงโทษแน่นอน

แต่คงจะต้องเป็นการปรับวินัยใหม่ทั้งหมด พร้อมกับย้ำว่า การแข่งขันผลแพ้ชนะนั้นไม่สำคัญ เพราะฝีมือมันสามารถฝึกกันได้เสมอ แต่การที่จะเข้ามาเป็นนักกีฬาทีมชาติได้ต้องมีความรับผิดชอบ

“ต่อจากนี้ไปผมคงจะไม่เปลี่ยนวิธีการลงโทษแน่นอน เนื่องจากนี่เป็นกีฬาต่อสู้ ผลแพ้ชนะไม่สำคัญ ฝีมือมันฝึกกันได้เสมอ แต่คุณเป็นนักกีฬาทีมชาติ คุณต้องมีความรับผิดชอบ ผมคิดว่าเรื่องระเบียบวินัยสำคัญที่สุด “ เกี่ยวกับประเด็นนี้ นาย ปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโดเสริมว่า “จะมีการปฐมนิเทศนักกีฬาใหม่ทั้งหมดและพูดคุยกับผู้ปกครองว่าเรามีการทำโทษ เป็นอย่างไร”

พร้อมกันนี้ เช ยอง ซอก กล่าวต่อว่าตนเองเป็น โค้ชให้กับทีมชาติไทยมาตั้งแต่ปี 2002 ทำให้รู้สึกรักประเทศไทยมาก

แม้ว่าจะเป็นคนเกาหลีก็ตาม อีกทั้งที่ผ่านมาไม่เคยมีสัญญากับทางสมาคม เนื่องจากการทำงานที่นี่เหมือนครอบครัวนักกีฬาเหมือนลูก อย่างไรก็ตามไม่รู้ว่าจะเป็นโค้ชไทยอีกเมื่อไหร่ แต่คิดว่าที่นี่จะเป็นที่สุดท้าย

“ประเทศไทยเหมือนบ้านหลังที่สองการทำงานที่นี่ทุกอย่างคือครอบครัวนักกีฬาคือลูกสาวและลูกชาย”โค้ชเช ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากได้เจอนักกีฬาเทควันโดครบทีมเป็นครั้งแรกจะบอกนักกีฬาทุกคนว่าอย่างไร โค้ชเช กล่าวว่า

ทุกคนเป็นนักกีฬาทีมชาติ ก็ต้องคิดทำหน้าที่นักกีฬาและไม่ต้องคิดมาก เรามียูธโอลิมปิคกับเอเชียนเกมส์ที่รออยู่ ก็ต้องตั้งใจซ้อม ไม่ต้องคิดเรื่องสังคม เป็นนนักกีฬาก็ตั้งใจซ้อมก็พอ ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า”โค้ชเช”ออกรายการสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ระบุว่าถ้าไม่หวังดี ก็คงไม่ลงโทษ ตักเตือนน้องก้อย และน้องก้อยเป็นนักกีฬาที่เป็นความหวังของไทย เพราะมีฝีมือดี กระนั้นก็ตาม

ไม่ได้ต่อยไปเป็นสิบๆหมัดตามที่น้องก้อยกล่าวอ้างที่ทำไปไม่ได้ทำร้าย

เพราะรู้ดีว่าน้องก้อยเป็นผู้หญิง ไม่ได้โกรธจนควบคุมอารมณ์ไม่ได้ และบอกด้วยว่าตอนซ้อมฝึกหนักกว่านี้ และไม่เข้าใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะดังขนาดนี้ เพราะวันที่เกิดเรื่องก็ได้ปรับความเข้าใจ พูดคุยกันในห้อง อธิบายกว่า 30 นาที และได้ขอโทษ น้องก้อยหลังจากลงโทษแล้ว

อย่างไรก็ตาม โค้ชเชยังช่วยปกป้องนักกีฬาสาวด้วยว่าอาจเป็นเพราะยังมีประสบการณ์ลงสนาม น้อยเกินไป

จนทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของการเตรียมตัวและแพ้คู่แข่งในที่สุด ““ถ้าผมไม่สนใจคุณ ไม่วางแผนเรื่องเอเชี่ยนเกมส์ก็ไม่ลงโทษ ผมอยากน้องก้อยให้เป็นนักเทควันโดต่อไป ถ้าเขาโอเค ก็ยินดีครับ”

ด้าน ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดฯ เผยทางโทรศัพท์จากประเทศสหรัฐฯ ว่า “ยินดีที่โค้ชเชกลับมาเมืองไทย อยากให้ทุกอย่างจบลง และก็หวังว่าคู่กรณีจะคิดเหมือนกัน ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลัง คอยยุยง ก็ขอให้หยุด เพื่อให้ทุกอย่างผ่านพ้นไป เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสิ่งสำคัญ ผลประโยชน์ของตัวเองก็ต้องเอาไว้ทีหลัง กีฬาต้องสร้างความสามัคคี ไม่ควรแตกแยก เดินหน้าสู่เหรียญทองในโอลิมปิกต่อไป

ด้าน ชัชวาล ขาวละออ สตาฟฟ์โค้ชทีมชาติ หรือ โค้ชแม็กซ์ กล่าวว่า

เหตุการณ์ในวันนั้น น้องก้อย นั่งอยู่ในห้องวอร์ม อาจไม่ได้ยินประกาศเรียกตัว เพราะอยู่ชั้นล่างสุด รวมทั้งเป็นการแข่งขันวันแรกจึงค่อนข้างชุลมุน ซึ่งคู่ต่อสู้ได้มารออยู่ในสนามแข่งเรียบร้อยแล้ว แต่น้องก้อยพึ่งมาใส่อุปกรณ์ป้องกันข้างสนาม และยืนยันว่าไม่มีใครไปบอกให้นักกีฬาถอดอุปกรณ์ป้องกันออกในห้องวอร์ม

ส่วนประเด็นที่น้องก้อยบอกว่าถูกโค้ชเชต่อยเป็นสิบๆ หมัดยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และการลงโทษน่าจะเรียกว่าการทุบ

วันเดียวกันนางนพมาศ ขุระสะ มารดาน้องก้อยจอมเตะสาวไทย เปิดเผยว่าขณะนี้สภาพจิตใจของน้องก้อยอ่อนแอมาก

และไม่พร้อมให้สัมภาษณ์กลับสื่อมวลชน ขณะนี้น้องถูกกระแสสังคมวิจารณ์แรงมาก ซึ่งคนเป็นแม่รู้สึกสงสารลูกสาว และอยากจะวอนขอให้เรื่องทุกอย่างยุติเพียงเท่านี้ ส่วนจะกลับไปเล่นทีมชาติอีกหรือไม่นั้น คงตอบไม่ได้ แต่ส่วนตัวคงไม่ให้น้องกลับไปอีกแล้ว แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอให้เจ้าตัวตัดสินใจเอง

ส่วน นายวิมล ขุระสะ ปู่ของน้องก้อย เปิดเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าหลานสาวพร้อมครอบครัวเดินทางกลับมาเยี่ยม บ้าน จ.พิจิตร

เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา และเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในวันรุ่งขึ้น โดยช่วงที่มาเห็นหลานมีความเครียดจนถึงกับเป็นไข้ ต้องไปหาหมอ ซึ่งได้บอกกับลูกชาย ลูกสะใภ้ และน้องก้อยว่าให้ยุติเรื่องนี้เสียเพราะเราคงไปสู้เขาไม่ได้ เสียเปรียบทุกอย่างอย่าไปต่อล้อต่อเถียงเพราะคนเขาเยอะกว่า และขอให้หลานสาวทำใจ ถึงแม้ว่าน้องก้อย หลานสาวจะเป็นผู้ถูกกระทำก็ตาม พร้อมกับบอกหลานสาวขอให้เลิกเล่นวงการนี้ เพราะอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว

“ผมในฐานะปู่ อยากให้สังคมเห็นใจและให้ความเป็นธรรมกับหลานสาว และวอนขอว่าอย่าประณามหรือด่าน้องก้อยทั้งที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์” นายวิมลกล่าว