ร่างทรงทำพิธีให้ด.ช.ฝาแฝด ดื่มน้ำมนต์ 18 ลิตร ไล่วิญญาณ ชักเกร็งจนตาย 1 สาหัส 1

สลดตอนเด็กเริ่มชักนึกว่าเจ้าเข้า ญาติเศร้าเตรียมแจ้งความเอาผิดดำเนินคดีถึงที่สุด

วันที่ 8 ต.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ได้เดินทางไปยังมูลนิธิสงเคราะห์คนชราอนาถา ถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ น้องเอ้ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ซึ่งญาติร้องเรียนว่าเสียชีวิตจากการดื่มน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ส่วน น้องแอ้ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี พี่ชายฝาแฝด ถูกนำตัวส่งไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ และอาการยังน่าเป็นห่วง ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ระหว่างที่ทั้งสองคนซึ่งเป็นพี่น้องฝาแฝดพร้อมกับครอบครัว เดินทางไปร่วมพิธีถือศีลกินเจที่ญาติๆ จัดขึ้น

ผู้เป็นพ่อ วัย 51 ปี เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา ลูกชายทั้งสองคนได้เดินทางไปร่วมปฏิบัติธรรมกับญาติ ประมาณ 10 คน
 
ในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ ซึ่งมีการใช้บ้านพักของคนงานกรีดยางภายในสวนของญาติ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เขาเล่ เขตเทศบาลเมืองสะเดา จ.สงขลา เป็นสถานที่ประกอบพิธีชั่วคราวกันในกลุ่มญาติ โดยมีร่างทรง คือ นางกาญจนา (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี เป็นผู้นำประกอบพิธี โดยตอนเช้าจะมีการเดินจงกรม เที่ยงทานอาหารเจ บ่ายให้นั่งสมาธิ และในช่วงเย็นตั้งแต่ประมาณ 4 โมงเย็นจนถึงเที่ยงคืนจะมีพิธีสำคัญให้ทุกคนดื่มน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ขนาดถังบรรจุน้ำ 18 ลิตร เพื่อไล่ภูตผีปีศาจ และสิ่งชั่วร้ายออกจากร่างกาย คนละ 1 ถัง หรือจนกว่าร่างกายจะรับไม่ไหว อาเจียนออกมา

ร่างทรงทำพิธีให้ด.ช.ฝาแฝด ดื่มน้ำมนต์ 18 ลิตร ไล่วิญญาณ ชักเกร็งจนตาย 1 สาหัส 1

ซึ่งจากคำบอกเล่าของ เด็กชายผู้พี่ คนที่รอดชีวิต บอกว่า
 
ผู้ที่เข้าร่วมพิธีทุกคนจะต้องดื่มน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ขนาดถัง 18 ลิตร คนละถัง ให้หมดภายในเวลาเที่ยงคืน ทุกวัน หรือจนกว่าร่างกายจะไม่ไหวและอาเจียนออกมา
โดยเริ่มดื่มตั้งแต่วันแรกที่เข้าประกอบพิธีจนกระทั่งสิ้นสุดเทศกาลถือศีลกินเจ
ซึ่งในวันแรก น้องเอ้ ก็เริ่มมีอาการชักเกร็ง ซึ่งร่างทรงและทุกคนเชื่อว่าเป็นอาการของภูติผีที่กำลังออกจากร่าง และได้ช่วยกันบีบนวดจนฟื้นขึ้นมา โดยมีนางกาญจนา เป็นร่างทรงคอยทำพิธีและพูดจาหว่านล้อม ซึ่งทุกคนที่เข้าร่วมต่างหลงเชื่อ

จนกระทั่งคืนวันที่ 5 ต.ค. เวลาประมาณ 3 ทุ่ม แฝดน้อง ได้พยายามดื่มน้ำเข้าไปอีก และเกิดอาการชักเกร็งมือหงิกงอ
 
ซึ่งร่างทรงบอกว่าเป็นอาการของปีศาจเสือที่กำลังจะออกจากร่าง กระทั่งแน่นิ่งไป
และญาติได้ช่วยกันปฐมพยาบาลจนฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง และร่างทรงยังให้ดื่มน้ำเข้าไปอีก โดยบอกว่ายังมีภูติผีอีก 10 ตัวที่อยู่ในร่าง ต้องให้อาเจียนออกมาให้หมด ซึ่งแฝดน้องได้ชักเกร็งและหมดสติไปถึง 3 ครั้ง ก่อนที่จะแน่นิ่งไปในเวลาเที่ยงคืน
เมื่อญาติเห็นว่าผิดปกติไม่ฟื้นขึ้นมา จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสะเดาในเวลาประมาณตี 3 แต่คาดว่าน่าจะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ส่วนพี่ชาย ซึ่งดื่มน้ำเข้าไปจำนวนมาก และมีอาการใกล้เคียงกันถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสะเดา โชคดีที่รอดชีวิต
 
ก่อนถูกส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ในเวลาต่อมา และระหว่างที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล นางกาญจนา ร่างทรงได้แอบมาเยี่ยม และบอกกับแฝดพี่ว่า ตนนิมิตเห็นแฝดน้องได้ไปอยู่บนสรวงสวรรค์แล้ว และอยู่ในชุดที่สวยงามอีกด้วย

ด้านแพทย์แผนกนิติเวช โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิต
 
ซึ่งผลออกมาพบว่า มีสาเหตุมาจากน้ำท่วมปวด หัวใจล้มเหลว และสมองบวม
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเชื่อว่าต้องมาจากการถูกชี้นำให้ดื่มน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์จนเกินขนาด ร่างกายรับไม่ไหว และต้องการให้เป็นอุทาหรณ์กับคนอื่นๆ ไม่อยากให้เกิดความเชื่อที่งมงายเกินจริงจนนำไปสู่การเสียชีวิต

ส่วนทางด้านคดี ร.ต.ท.ปวิช  ฤทธิ์ธรรมนาก ร้อยเวร สภ.สะเดา จ.สงขลา เจ้าของคดีเปิดเผยว่า
 
หลังเกิดเหตุพ่อของเด็กที่เสียชีวิตได้มาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และได้มีการเชิญทุกฝ่ายมาให้ปากคำ
ซึ่งทั้งนางกาญจนา และญาติ บอกว่า ในระหว่างการประกอบพิธีทุกคนต่างดื่มน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ แต่ไม่ได้มีการบังคับ และญาติบอกว่า เด็กมีโรคประจำตัวเป็นโรคลมบ้าหมูด้วย ซึ่งในทางคดีนั้นจะต้องรอผลการยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตจากแพทย์ว่ามาจากสาเหตุใด หากเข้าข่ายความผิดทางอาญาก็จะแจ้งข้อหาตามมูลความผิด และออกหมายจับ นางกาญจนา ทันที นอกจากนี้ยังให้ชุดสืบสวนไปตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุแล้วเช่นกัน


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์