รัว5นัด-คางานศพ ผจ.ขนส่ง รง.น้ำตาลวังขนาย

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 11 ส.ค.
 
พ.ต.ท.ประเสริฐ พุตติ สารวัตรเวร สภ.อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงภายในงานศพที่วัดโกสินารายณ์ หมู่ 18 ต.ท่าผา จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุพัฒน์ เชยชิด ผกก. พ.ต.ท.บรรจง อมฤทธิ์ รอง ผกก.(ป.) พ.ต.ท.นพดลภ์ มณีใส รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ต.กรกฎ โปชยะวณิช สว.สส. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง  


ที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างจัดงานศพนางหงำ ชุ้นฟุ้ง ภรรยานายอารีย์ ชุ้นฟุ้ง ประธานโรงงานน้ำตาลในเครือบริษัทวังขนาย
 
พบแขกที่มาร่วมงานจำนวนมากอยู่ในอาการแตกตื่นตกใจ โดยบางส่วนทยอยกลับไปล่วงหน้าแล้ว ตรงลานจอดรถหลังอุโบสถพบกองเลือดหลายกองและปลอกกระสุนปืน .45 จำนวน 5 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.บ้านโป่ง ก่อนหน้าแล้วเสียชีวิตระหว่างทาง ทราบชื่อนายสหภาพ มีภาษี อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 3 หมู่ 8 ต.ท่าไม้ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการขนส่งน้ำตาลในเครือ บริษัทวังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันเข้าบริเวณลำคอขวา ท้ายทอย แก้มซ้ายและหน้าผาก รวม 5 นัด  


สอบสวนได้ความว่า

ก่อนเกิดเหตุนายสหภาพพร้อมครอบครัวไปร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพภรรยาของนายอารีย์ โดยมีบรรดาข้าราชการพ่อค้าและผู้มีชื่อเสียงในจังหวัดไปร่วมงานจำนวนมากหลายร้อยคน หลังพระสวดอภิธรรมเสร็จ บรรดาแขกเหรื่อต่างทยอยกันเดินทางกลับ ระหว่างนั้น นายสหภาพเดินไปที่ลานจอดรถ เพื่อนำรถยนต์ที่จอดไว้ไปรับภรรยาและแม่ที่ยืนรออยู่หน้าบริเวณงานกลับบ้าน
 
ทันใดนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น 5 นัดซ้อน

พร้อมกับมีรถกระบะโตโยต้าสีบรอนซ์เงิน ป้ายแดง ไม่ทราบหมายเลขขับวิ่งออกไปจากบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปทาง จ.กาญจนบุรี เมื่อญาติวิ่งไปดูที่ลานจอดรถ พบว่านายสหภาพถูกยิงนอนหายใจรวยรินจมกองเลือด จึงรีบนำส่ง รพ.แต่เนื่องจากกระสุนถูกจุดสำคัญของร่างกายทำให้เสียชีวิตระหว่างทาง


ในชั้นต้นตำรวจประมวลเหตุการณ์แล้ว

คาดว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 2 คน เป็นมือปืนอาชีพ ติดตามความเคลื่อนไหวของนายสหภาพมาตลอด เมื่อทราบว่า นายสหภาพพาครอบครัวไปร่วมงานศพภรรยาของนายอารีย์จึงเฝ้าติดตาม กระทั่งสบโอกาสลงมือสังหาร ส่วนสาเหตุ ตำรวจสันนิษฐานเป็นเรื่องขัดแย้งภายในบริษัท

โดยทราบว่า

นายสหภาพมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลการขนส่งน้ำตาลในเครือบริษัทวังขนายทั้งหมด ต่อมาคนใกล้ชิดของผู้บริหารคนหนึ่งต้องการเข้ามาดูแลกิจการแทน แต่นายสหภาพไม่ยอมทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายมีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ถึงขนาดคู่กรณีกล่าวคำขู่อาฆาตเอาไว้ ทำให้นายสหภาพต้องคอยระมัดระวังตัวตลอดเวลาเพราะรู้ดีว่ากำลังถูกปองร้าย ประเด็นดังกล่าว ตำรวจคาดว่าอาจเป็นชนวนเหตุนำไปสู่การเสียชีวิต ส่วนประเด็นอื่นๆตำรวจไม่ได้ตัดทิ้งไป อยู่ระหว่างการสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีเร่งด่วนแล้ว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์