รวมบทสัมภาษณ์ นพ.ประกิตเผ่า

บทความส่วนหนึ่งจากหนังสือ GM


น.พ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์อาจารย์และแพทย์หนุ่ม กับชีวิตที่มีแต่บวก

น.พ. ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ อาจารย์และแพทย์หนุ่ม กับชีวิตที่มีแต่บวก
ในด้านงาน ถ้าถามว่าถึงจุดสูงสุดหรือยัง คงตอบว่ายัง เพราะถ้าเมื่อไหร่ ที่รู้สึกว่าถึงจุดสูงสุดแล้ว งานจะไม่มีการพัฒนา นั่นคือจุดเริ่มต้น ของความเสื่อมถอย ผมจึงไม่มีจุดสูงสุด ในการทำงาน ผมต้องทำให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ แต่สำหรับจุดสูงสุดในชีวิต

ผมคิดว่ามาถึงแล้ว ผมขอแค่ครอบครัวมีความสุข ทุกคนไม่ต้องดิ้นรนอะไรมาก ทุกคนรักกันก็พอแล้ว ผมรู้สึกว่า ตัวเองประสบความสำเร็จ และมีคุณค่าในฐานะครู เมื่อนักเรียนที่สอบเอนทรานซ์ ได้กลับมาหาผมเพื่อขอบคุณ โดยเฉพาะ คนที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสอบเข้าได้ มันเป็นความรู้สึกเดียวกันกับ

ครั้งที่ผมเป็นหมอ และทำคลอดให้เด็กที่เกิดมา ได้อย่างปลอดภัย มันปลื้มปิติ ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม ครูคนอื่น ๆ ถึงได้ทนลำบากสอนเด็กอยู่ได้ ตอนนี้ผมชอบการเป็นครูแล้วครับ



บทความส่วนหนึ่งจากหนังสือ Life&Family


พ่อลูกนักกวดวิชา อ.ช่วง - น.พ. ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์

จากโรงเรียนกวดวิชาเล็ก ๆ ย่านสยามสแควร์ มีนักเรียนเพียงไม่กี่ร้อย เมื่อปี 2535 ทุกวันนี้ Applied Physics สถาบันกวดวิชา ยอดฮิตติดอันดับ ของวัยรุ่นไทย ด้วยจำนวนนักเรียนกว่าหมื่นคนต่อปี ทำให้ต้องเปิดสาขาทั่วกรุงเทพ
กลายเป็นสถาบันกวดวิชา ยอดฮิตติดอันดับ ของวัยรุ่นไทย

ด้วยจำนวนนักเรียนกว่าหมื่นคนต่อปี ทำให้ต้องเปิดสาขาทั่วกรุงเทพ ฯ ตึกเรียนเก่าที่มีสภาพเป็นห้องแถวธรรมดา กลายเป็นอาคารโอ่โถง ทันสมัย ติดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ มีมุมนั่งพักจิบกาแฟ สำหรับผู้ปกครอง ที่มารอรับเด็กนักเรียน ไม่ต่างอะไร กับร้านอาหารหรือโรงแรม การสอนก็มีวิดีโอวงจรปิดมาช่วยถ่ายทอด ช่วยให้เด็กในห้องได้เห็นภาพอย่างทั่วถึง

ไม่มีปัญหาเรื่องการจองที่นั่งแถวหน้า และสามารถเพิ่มจำนวนนักเรียนขึ้นได้อย่างไม่จำกัดด้วยประสบการณ์การสอนกว่า 36 ปีของ อ.ช่วง ทมทิตชงค์ ทำให้ Applied Physics เป็นสถาบันกวดวิชาเก่าแก่ ที่อยู่คู่เมืองไทยมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ คุณแม่ ยังเป็นเด็กนักเรียน และทำท่าจะถ่ายทอดไปจนถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน เมื่อผู้ช่วยสอนมือหนึ่ง ที่จะรับสืบทอดอาชีพนี้ต่อไป ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน

นอกจากลูกชายของท่านเอง น.พ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ ผู้หักเหชีวิตจากหมอ มาสู่ครูกวดวิชา อ.ช่วง ทมทิตชงค์ "เลี้ยงลูกเก่ง" ความสามารถของอาจารย์ช่วง ทมทิตชงค์ นอกเหนือจากการเป็นครูผู้สามารถก็คือ การเป็นพ่อที่ประสบความสำเร็จ ลูก ๆ 3 ใน 4 เป็นนายแพทย์ผู้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน



นิตยสาร Hi-Class Vol. 216 มิถุนายน 2545


Highlight!! ครูฟิสิกส์ มือหนึ่ง น.พ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ ตอบโจทย์

มุมมองของแต่ละคนที่มีต่อโรงเรียนกวดวิชาย่อมแตกต่างกันไป มีทั้งสนับสนุนและคัดค้าน ตามแต่สถานภาพของแต่ละบุคคลที่สวมบทบาทอยู่ แต่ทุกวันนี้ ในห้วงเวลาที่รัฐบาลกำลังเร่งรีบปฏิรูปการศึกษา ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเรียนกวดวิชาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ไปแล้ว

หนุ่มหน้าผ่องพ่วงดีกรีนายแพทย์คนนี้ บอกสถานภาพของเขาไว้ในนามบัตรว่า เป็นผู้จัดการทั่วไปสถาบันแอพพลายด์ฟิสิกส์ ที่มีสาขาอยู่ 9 แห่งทั่วประเทศ ส่วนตัวเขาสั่งสมประสบการณ์ในการเป็นครูสอนกวดวิชาฟิสิกส์มากว่า 10 ปี ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนแพทย์ศิริราช นับคร่าวๆ ถึงจำนวนนักเรียนที่เดินเข้ามาสมัครเรียนแอพพลายด์ฟิสิกส์

เพื่อต้องการเรียนฟิสิกส์กับอาจารย์เผ่า หรืออาจารย์หมอ ตัวเลขเฉียดๆ ครึ่งแสนในแต่ละปี บ่งบอกถึงความไม่ธรรมดาในลีลาการสอนฟิสิกส์ของเขา น่าจะเพียงพอต่อการพิสูจน์ว่าเขาเป็นคุณครูที่มีศักยภาพด้านการสอนฟิสิกส์คนหนึ่งแม้ไม่ได้สอนอยู่ในระบบการศึกษาปกติก็ตา



นิตยสาร ดิฉัน Unlimited Issue 641 30 กันยายน 2545


น.พ. ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ ผู้ที่มีความสุขกับการให้

"คนอย่างผมจะทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่ศูนย์ ก็ต้องถึงร้อย ผมตั้งใจแน่วแน่ว่าถ้าผมจะสอน ผมต้องสอนให้ดีที่สุด ให้เด็กแย่งกันมาเรียนกับผม หรือไม่ก็เลิกสอนไปเลย"

เขาเรียนจบแพทย์ แต่เลือกที่จะมาเป็นครูเพราะต้องการช่วยเหลือครอบครัว และตอบแทนบุญคุณของผู้เป็นพ่อ

เขากำลังจะรุ่งโรจน์ในอาชีพแพทย์ แล้วก็ต้องเปลี่ยนมาทำอาชีพที่เขาไม่เคยคิดที่จะทำมาก่อน แต่ด้วยความมานะพยายาม เขาก็สามารถสร้างความรุ่งโรจน์ในอาชีพใหม่นี้ได้ไม่แพ้กัน

เขากับพ่อร่วมกันสร้างโรงเรียนกวดวิชาแอพพลายด์ฟิสิกส์ ให้มีชื่อเสียงโด่งดัง และได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทยปัจจุบันนี้ ซึ่งการเข้ามาเป็นครูทำให้เขามีความเข้าใจที่จะถ่ายทอดสิ่งดีๆ ที่เขาได้รับจากพ่อไว้ให้แก่ลูกศิษย์รุ่นต่อไป



นิตยสาร เปรียว Unlimited Issue 481 ปักษ์หลัง กรกฎาคม 2545


คุณหมอพ่อพิมพ์ของชาติ นายแพทย์ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์

นายแพทย์ประกิตเผ่า หรืออาจารย์ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในหมู่นักเรียนชั้นมัธยมปลายสายวิทยาศาสตร์ เพราะเขาคือครูรุ่นใหม่ที่สอนวิชาฟิสิกส์ให้กับนักเรียนด้วยแนวคิดใหม่

สิบกว่าปีที่เขายึดอาชีพครู เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงความสุขในชีวิตของเขาได้อย่างชัดเจน แม้ในวัยเด็กเขามีความมุ่งมั่นที่จะทำอยู่ 2 อาชีพเท่านั้น คือแพทย์กับนักร้อง แต่มาวันนี้คือบทพิสูจน์ถึงความตั้งใจจริงของเขา เริ่มต้นจากศูนย์เขามาถึงร้อยเต็มได้ไม่ยากนัก ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจจริง

ผู้ชายคนนี้คือ "ต้นแบบ" ของสังคมที่ Priew Award ยกย่องเขาเป็นบุคคลดีเด่นในฐานะ "พ่อพิมพ์ของชาติ" นายแพทย์ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์

"ผมจะบอกกับเด็กนักเรียนทุกคนว่าการกวดวิชาไม่ใช่สิ่งจำเป็น และ Applied Physics ไม่ใช่โรงเรียนกวดวิชาแต่เป็นโรงเรียนเสริมความรู้ให้เด็ก"

ชีวิตที่พลิกผันจากคุณหมอของผู้ยากไร้สู่พ่อพิมพ์ของชาติ เจ้าของ Applied Physics โรงเรียนกวดวิชาฟิสิกส์ที่มีอายุเก่าแก่ถึง 25 ปี และใหญ่เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย มีนักเรียนเข้าศึกษามากกว่า 50,000 คนต่อปี




"ผมจบแพทย์จากศิริราชเมื่อปี พ.ศ.2535 เข้าทำงานที่สำนักงานอนามัยกรุงเทพมหานครอยู่ 2 ปี ช่วงนั้นผมเริ่มเข้ามาช่วยคุณพ่อสอนหนังสือที่ Applied Physics ในวันเสาร์และอาทิตย์ ส่วนวันธรรมดาก็จะดูแลคนไข้ที่ศูนย์อนามัยฯ

...วันหนึ่งคุณพ่อโทรศัพท์มาบอกที่สถานีอนามัยว่า โรงเรียน Applied Physics ที่คุณพ่อก่อตั้งขึ้นประสบปัญหา เพระลูกน้องลาออก 2 คน ทำให้โรงเรียนไม่สามารถอยู่ได้ ช่วงนั้นผมใช้เวลาคิดอยู่ไม่ถึง 1 นาที แล้วจึงตัดสินใจลาออกจากราชการเพื่อไปช่วยคุณพ่อ ไม่เช่นนั้นครอบครัวเราจะอยู่ไม่ได้ เพราะขณะนั้นครอบครัวเรามีหนี้สินนับล้านบาท และทุกอย่างก็ต้องใช้เงินอยู่

...ทั้งที่ส่วนตัวแล้วผมไม่เคยคิดที่จะเป็นครูเลย มีความตั้งใจจะเป็นหมอมาโดยตลอด เพราะทั้งชีวิตพวกเราพี่น้อง 4 คนจะเห็นความยากลำบากของคุณพ่อคุณแม่มาโดยตลอด เพราะท่านทั้งคู่เป็นครู เป็นครูที่ลำบากมาก และครอบครัวเราก็จะจัดได้ว่าเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน ลูก ๆ ก็จะถูกปลูกฝังมาโดยตลอดว่า อาชีพที่มีเกียรติและมีสถานภาพที่ดีในสังคมโดยไม่ต้องไปโกงกินใครก็คือหมอ ลูกทั้ง 4 ก็จะซึมซับการปลูกฝังกับสิ่งเหล่านี้มาโดยตลอดปัจจุบันพี่น้อง 3 ใน 4 คนของครอบครัวผมล้วนแล้วแต่เป็นหมอ

ยกเว้นนายแพทย์ประกิตเผ่าที่ต้องละทิ้งความฝันในชุดเสื้อกราวนด์เพื่อทดแทนบุญคุณพ่อสืบสานกิจการโรงเรียน Applied Physics ด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยกอบกู้สถานการณ์ของครอบครัว โดยได้เริ่มศึกษาจุดอ่อน เรียนรู้และพัฒนาระบบงานรวมถึงปฏิรูปการทำงาน และแสวงหาสิ่งใหม่ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนตลอดเวลา

เขาใช้เวลาอยู่ 5 ปีกอบกู้วิกฤติให้เป็นโอกาสให้กับ Applied Physics อีกครั้งแม้จะต้องเผชิญกับกระแสการทัดทานของผู้เป็นบิดาในด้านความคิดด้วยวัยที่แตกต่างกันแต่เขาก็ได้ค่อยๆ สวนกระแสความขัดแย้งนั้น ด้วยการเปลี่ยนแปลงทีละน้อยๆ จนเกิดการเห็นชอบจากบิดาในที่สุด




Applied Physics ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ของโรงเรียนกวดวิชาฟิสิกส์ภายหลังจากที่นายแพทย์ประกิตเผ่าเข้าบริหารงานในปีที่ 4 และขึ้นสู่ปีที่ 5 อย่างเติบใหญ่ด้วยเสียงตอบรับจากเด็กนักเรียนที่หลั่งไหลเข้ามาศึกษาอย่างมากมายเกินความคาดหมาย ทำให้เด็กที่ต้องการเข้าศึกษาต่อต้องจองคิวล่วงหน้าก่อนศึกษาจริง 1 ปี

ปี 2542 นายแพทย์ประกิตเผ่าได้ขยายสาขาอีกแห่งที่งามวงศ์วานตรงข้ามเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นสาขาที่ประสบความสำเร็จที่สุด จากนั้นได้มาเปิดสาขาที่ราชวัตรเมื่อปี 2544 พร้อมกับสาขาที่จังหวัดขอนแก่น เชียงใหม่ และหาดใหญ่ จนถึงปี 2545 เขาได้ขยายสาขาไปที่วงเวียนใหญ่ ทำให้ Applied Physics มีสาขารวมทั้งสิ้น 9 สาขาในปัจจุบัน

และเป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนฟิสิกส์มากที่สุดในประเทศไทย วันนี้นายแพทย์ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ ได้เติมเต็มทุกหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบในฐานะครูของศิษย์ในฐานะลูกกตัญญู ในฐานะน้องชาย ในฐานะสามีและพ่อที่ดีของลูก

ประการสำคัญคือการตอบแทนสังคมตลอดช่วงชีวิตของนายแพทย์หนุ่มผู้นี้ด้วยการมอบทุนการ ศึกษาแก่เด็กผู้ด้อยโอกาสสนับสนุนเงินทุนในการปฏิบัติหน้าที่แก่เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ในจังหวัด นครราชสีมารวมถึงการตั้งกองทุนแม่และเด็ก การสร้างถนนและสำนักสงฆ์ให้แก่หมู่บ้านที่ยากจนที่สุดในอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

กับรางวัล Priew Awards คือความภูมิใจที่ถือเป็นรางวัลเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ของนายแพทย์ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ ที่ปวารณาตัวเองว่า...ชีวิตนี้พร้อมอุทิศตนเพื่อประโยชน์แก่สังคมต่อไป



พรีเซ็นเตอร์ Banner Protein Refreshing Yours


เคล็ดลับวิธีการสร้างความสดชื่นหลังจากการทำงานของ นายแพทย์ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์

หลายครั้งที่เส้นทางความฝันกับความจริงไม่ได้เดินไปด้วยกัน เราฝันอยากเป็นอย่างนั้น แต่ชีวิตจริงอาจเป็นอีกอย่าง... หลายคนอาจเสียใจแต่ก็มีหลายคนที่นำความหักเหในชีวิตมาเป็นพลังผลักดันเข้าสู่ความสำเร็จ

น.พ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้เดินตามเส้นทางความฝัน เขาไม่ได้เป็นหมออย่างที่เรียนมา และไม่ได้เป็นนักร้องอย่างที่ฝันไว้ แต่เขาเป็นเจ้าของโรงเรียนกวดวิชา Applied Physics และในขณะเดียวกันก็เป็นครูสอนด้วย

"ผมจบหมอจากโรงพยาบาลศิริราช เป็นหมอรักษาคนอยู่ 2 ปี ก็ต้องออกมาเป็นครูสอนพิเศษ เพราะช่วงนั้นคุณพ่อท่านลำบากมาก ครูสอนพิเศษที่มีอยู่ลาออกไป ผมเลยอาสาเข้ามาช่วยก็ทะเลาะกันอยู่ตั้งนานคุณพ่อท่านไม่อยากให้เป็นครูเหมือนท่าน เพราะมันลำบากและก็จนด้วย"

ถึงเป็นไม่ได้อย่างที่คิดไว้ แต่ถ้าตั้งใจทำสิ่งที่มีอยู่ให้ดีชีวิตก็มีความสุขได้ ที่สำคัญต้องไม่ลืมดูแลสุขภาพตัวเองด้วย




"ผมสอนที่นี่มาสิบกว่าปีแล้ว ไม่เคยได้พักไปไหนเลย วันธรรมดาผมสอนตั้งแต่ประมาณ 5 โมงเย็นถึงเกือบ 2 ทุ่ม ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์จะสอนตั้งแต่ 7 โมงครึ่งถึง 6 โมงเย็นทุกวัน หลายคนจะมองว่าครูกวดวิชาทำงานง่าย แค่มาสอนวันละไม่กี่ชั่วโมงแล้วก็กลับบ้านรอรับเงินอย่างเดียว แต่จริงๆ มันไม่ใช่แค่นั้น ต้องเขียนตำรา ทำชีท หมั่นหาความรู้เพิ่มเติมให้ตัวเองอยู่เสมอ

ผมต้องมาถึงที่นี่ ตี 5.45 ทุกวัน กว่าจะกลับบ้านก็ 2 ทุ่ม ทำอย่างนี้มานานมาก แต่ 3 ปีที่ผ่านมานี้เริ่มรู้สึกว่าทรมานสังขารตัวเองก็เลยปรับ เปลี่ยนวงจรชีวิตใหม่ เข้านอนเร็วขึ้น 3 ทุ่มครึ่ง แต่ตื่นเช้าเหมือนเดิมตี 4 พอบ่าย 3 โมงเย็น ก็จะนอนพักสักชั่วโมงและทำงานต่อ ก่อนเข้านอนจะกินอาหารเสริมด้วยกัน 3 อย่าง คือ วิตามินซี เกลือแร่รวม และอาหารเสริมโปรตีนแคปซูล ทุกๆวันจะดื่มน้ำผลไม่วันละประมาณ 1 ลิตร และออกกำลังกายอาทิตย์ละ 2 วัน

บางครั้งถ้ามีเวลาในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็จะไปเที่ยวบ้าง แค่เราได้ไปนั่งมองธรรมชาติ ปล่อยใจให้ว่างกลับมาเช้าวันจันทร์เราก็รู้สึกดีขึ้น แต่ถ้าวันไหนรู้สึกเหนื่อยมากๆ ไม่ไหวแล้ว จะฟังเพลงกีตาร์หรือบางครั้งถ้าไม่เหนื่อยเกินไปก็เล่นเอง มันช่วยให้โล่งขึ้นเยอะนะ ที่สำคัญผมจะพยายามบอกตัวเองอยู่เสมอว่า ชีวิตเราเลือกได้ เป็นอะไรก็ได้ มันประสพความสำเร็จได้เหมือนกัน อยู่ที่ว่าเราตั้งใจหรือเปล่า"

เชื่อไหมว่าเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีหลายๆ คนรู้จักกับผู้ชายคนนี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเด็กที่เรียนมาทางสายวิทย์ก็เพราะเขาเป็นถึงผู้บริหารและอาจารย์สอนที่สถาบัน Applied Physics มากว่า 10 ปีแล้ว จนปัจจุบันได้เปิดสาขาตามสถานที่ต่างๆ ถึง 9 แห่ง ดูเหมือนว่าอาจารย์หนุ่มกำลังประสบความสำเร็จในด้านนี้ แม้ว่าจริงๆ แล้วเขาจะเรียนจบมาทางแพทย์ก็ตาม

"ตอนเรียนจบใหม่ๆ ผมเคยทำงานเป็นหมอที่สำนักอนามัยกรุงเทพฯอยุ่ 2 ปี พอดีต้องมาช่วยงานบริหารที่สถาบันของคุณพ่อ ก็เลยลาออกมาทำที่นี่แทน วันๆ หนึ่งนอกจากงานบริหารทั่วไปแล้ว

ผมกับคุณพ่อก็เป็นอาจารย์สอนด้วยคือสอนตลอด 5 วัน เรียกว่าพูดเกือบทั้งวัน มันเหมือนงานกึ่งบริการเหมือนกัน แต่ละวันผมต้องพบปะคนตั้งแต่ 100-1,000 คน ผมจึงค่อนข้างใส่ใจในสุขภาพ และบุคลิกของตัวเองมากเป็นพิเศษ"



พรีเซ็นเตอร์ Colgate Total Keep-Smiling อาจารย์ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์


สุขภาพที่สมบูรณ์และความเนี๊ยบของอาจารย์จึงเป็นภาพที่เด็กนักเรียนได้เห็นอยู่เสมอ รวมไปถึงสุขภาพฟันที่อาจารย์บอกไว้ว่าโรคเจ็บป่วยบางอย่างเกี่ยวเนื่องมาจากการไม่ดูแล สุขภาพฟันให้ดีได้อย่างเช่น อาการเจ็บคอ ทอนซิลเรื้อรัง หรือลิ้นหัวใจรั่ว

"ผมคิดว่าความสวยงามของฟันมันอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบกันทุกคน แต่สุขภาพและความแข็งแรงของฟันที่สำคัญมากกว่า เดี๋ยวนี้ผู้ผลิตต่างๆ เขาก็พัฒนายาสีฟันใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่างยาสีฟันที่ผมใช้อยู่ "คอลเกต โททอล พลัส ไวเทนนิ่ง"

ก็ให้คุณสมบัติต่างๆ รวมอยู่ในยาสีฟันชนิดเดียว นอกจากจะลดการสะสมตัวของแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีสารไตรโคลซาน ยังช่วยลดปัญหาสุขภาพเหงือก ลดกลิ่นปาก ลดคราบพลัค คราบหินปูน ป้องกันฟันผุ

แล้วยังทำให้ฟันขาวขึ้นด้วย เรียกว่าครบทุกอย่างที่ผมต้องการในหลอดเดียว ผมว่าการปกป้องนี่ละครับที่สำคัญ เพราะถ้าฟันเสียไปแล้วจะซ่อมให้กลับมาเหมือนเดิมก็คงจะไม่ได้ผมจึงดูแลสุขภาพของช่องปาก ของผมเป็นพิเศษโดยการเลือกใช้ยาสีฟันที่ผมมั่นใจ"

แม้จะเปลี่ยนบทบาทจากคุณหมอไปเป็นอาจารย์ แต่ด้วยความรู้ที่เรียนมาก็ยังทำให้เขาละเอียดกับ การดูแลสุขภาพตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อต้องเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก็อดไม่ได้ที่จะต้องดูแลฉลากอ่านคุณสมบัติและสารต่างๆ ที่บอกติดมาเพื่อประกอบการตัดสินใจทุกครั้ง

ทุกวันนี้ เขารักษาสุขภาพตัวเองด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำประกอบกับการรับประทานวิตามินซีวันละ 500 มิลลิกรัม และดูแลสุขภาพฟันด้วยการใช้แปรงขนนุ่มกับยาสีฟันที่เพียบพร้อมในคุณสมบัติดีต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงการเลือกยาสีฟันดีๆ ให้กับภรรยาและลูกๆ เพื่อให้สุขภาพดีตั้งแต่ภายนอกจนถึงภายใน



ขอขอบคุณ : ข้อมูลที่มีคุณภาพ

สถาบันกวดวิชาแอพพลายฟิสิกส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์