รถคันแรกป่วน!คลังเล็งขยาย1,600 ซีซี

คลังลังเลหลังฟอร์ดร้องขยายเพดานเครื่องยนต์รถคันแรก เร่งทบทวนเพิ่มเป็น 1,600 ซีซี ตามคำขอ คาดได้ข้อสรุปไม่เกินต้น ต.ค.

 นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการประเมินผลของนโยบายรถคันแรก โดยเฉพาะข้อร้องเรียนของผู้ประกอบการที่อาจจะขยายเพดานของคันแรกให้ครอบคลุมรถที่มีขนาดเครื่องยนต์สูงขึ้นจาก 1,500 ซีซี เป็น 1,600 ซีซี ซึ่งจะพยายามให้ได้ข้อสรุปในสิ้นเดือนกันยายนนี้ หรืออย่างช้าก็ต้นเดือนตุลาคม แต่จะต้องดูเรื่องผลกระทบและเม็ดเงินชดเชยที่จะเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ออกแถลงการณ์

เรียกร้องให้รัฐบาลสร้างความป็นธรรมในตลาดรถยนต์ต่อมาตรการภาษีที่ออกมา เพื่อให้ตลาดแข่งขันอย่างเป็นธรรม และควรได้รับการบังคับใช้อย่างเสมอภาค เพื่อให้ผู้บริโภคในประเทศไทยสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าโดยได้รับทราบข้อมูลอย่างครบถ้วนรอบด้าน พร้อมระบุว่า ฟอร์ด เฟียสต้า เครื่องยนต์ 1,600 ซีซี ควรได้รับการพิจาณาด้วย

 นายประพัฒน์ เชยชม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
 
แม้จะมีการขยายเพดานขนาดเครื่องยนต์ไปถึง 1,600 ซีซี ก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์โดยรวมดีขึ้น โดยตลาดยังมีความได้เปรียบเสียเปรียบกันอย่างชัดเจน เนื่องจากมีค่ายรถยนต์ที่ทำตลาดเครื่องยนต์ไม่กี่ยี่ห้อเท่านั้น ซึ่งโครงการรถคันแรกมีข้อดีคือ กระตุ้นยอดขายรถยนต์ให้เติบโตมากขึ้น แต่ไม่ได้โตทั้งตลาด อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลต้องการสนับสนุนให้คนซื้อรถง่ายขึ้นก็น่าจะใช้แนวคิดคืนเงินเท่ากันทั้งหมด เพราะทุกคนได้เท่ากันหมด แต่โครงสร้างตลาดรถยนต์ไม่ได้เสีย

 นายวิกรานต์ อมาตยกุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

หากรัฐขยายขนาดเครื่องยนต์เป็น 1,600 ซีซี มิตซูบิชิก็จะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น เนื่องจากล่าสุดกลุ่มรถยนต์นั่งของมิตซูบิชิไม่เข้าข่ายการส่งเสริมเลย แต่แนวคิดใหม่จะทำให้ แลนเซอร์ 1.6 ซีเอ็นจี ซึ่งเป็นรถโมเดลเก่า ก่อนเปลี่ยนเป็น แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ได้รับการส่งเสริม อย่างไรก็ตาม มองว่าหากขยายขึ้นไปจริงก็อาจจะมีการขอให้ขยับเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะปัจจุบันเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ติดตั้งอยู่ในรถกลุ่ม ซี-เซ็กเมนต์ และซี-เซ็กเมนต์ ก็ยังมีเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร และ 2.0 ลิตร อยู่ด้วย น่าจะมองว่าเป็นตลาดเดียวกันได้ เพราะใช้ตัวถังเดียวกัน

 "หากจะปรับเปลี่ยนจริง หากจะใช้ราคาจำหน่ายเป็นตัวกำหนดก็น่าจะเป็นเรื่องดี เพราะขณะนี้รัฐกำหนดราคาปิกอัพไม่เกิน 1 ล้านบาท คิดว่าน่าจะกำหนดรถยนต์ที่ 1 ล้านบาทได้เช่นกัน เพราะเชื่อว่าลูกค้าหลายคนต้องการรถที่ใหญ่ขึ้น ตอบสนองการใช้งานของครอบครัว" นายวิกรานต์กล่าว