ม็อบผู้ค้าหมาเรียกร้องให้เปิดเส้นทางซื้อขายข้ามชาติ


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดนครพนมมีกลุ่มชาวบ้านผู้ค้าสุนัขจากพื้นที่หลายจังหวัดของภาคอีสาน

  นำโดยนายสวง เดชาเลิศ อายุ 58 ปี ตัวแทนกลุ้มผู้ค้าสุนัขจาก ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร นางวรนุช คำขาว อายุ 37 ปี ตัวแทนจาก จ.ศรีสะเกษ นายแสงจันทร์ ดอนบุรมณ์ อายุ 44 ปี ตัวแทนจาก จ.มหาสารคาม นายวิจิตร ปินะภาเส อายุ 45 ปี ตัวแทนจาก จ.นครราชสีมา นายสดใส อัมพวา อายุ 24 ปี แกนนำจาก จ.บุรีรัมย์ และชาวบ้านกลุ่มผู้ค้าสุนัขจากหลายจังหวัดของภาคอีสานกว่า 500 คน ขับรถกระบะที่ดัดแปลงทำกรงสำหรับใช้บรรทุกสุนัขมารวมตัวชุมนุมเรียกร้องต่อนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมถือป้ายโชว์ข้อความเรียกร้องขอความเป็นธรรม ให้จังหวัดนครพนมเปิดเส้นทางให้มีการขนส่งสุนัข เพื่อจะนำไปขายที่ประเทศเวียดนาม เนื่องจากชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนขาดรายได้ เพราะเป็นอาชีพที่ทำมานานกว่า 30 ปี จนกลายเป็นรายได้หลักของครอบครัว แต่หลังจากนายเริงศักดิ์มีนโยบายปราบปรามจับกุม สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จึงต้องรวมตัวมาชุมนุมเรียกร้องขอความเป็นธรรม
 
สำหรับบรรยากาศในการเรียกร้องเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย มีนายยงยุทธ นุกิจรังสรรค์ นายสมดี คชายั่งยืน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นตัวแทนรับเรื่องแทนนายเริงศักดิ์ที่ไปราชการต่างจังหวัด และมี พล.ต.ต.พนมพร อิทธิประเสริฐ ผบก.ภ.จว.นครพนม ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลรักษาความเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด โดยไม่ยอมให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปภายในศาลากลางจังหวัดแต่ให้ส่งตัวแทนขึ้นไปยื่นหนังสือและเสนอปัญหา โดยสรุปเบื้องต้นทางจังหวัดนครพนมยังยืนยันไม่สามารถจะดำเนินการเปิดให้ค้าสุนัขข้ามชาติได้ เพราะติดข้อกฎหมายต้องรอเสนอแก้ไขกฎหมาย ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงยืนยันที่จะเรียกร้องไปจนถึงระดับประเทศ เพื่อแก้ปัญหานี้ก่อนสลายตัวเดินทางกลับ
 
นายสวง เดชาเลิศ อายุ 58 ปี ตัวแทนกลุ่มผู้ค้าสุนัขจาก ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร กล่าวว่า ในการรวมตัวของกลุ่มผู้ค้าสุนัขจากหลายจังหวัดในภาคอีสานครั้งนี้ต้องการมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อนายเริงศักดิ์ให้พิจารณาอนุญาตเปิดเส้นทางให้ขนส่งสุนัขออกไปขายยังประเทศเวียดนาม ไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายแต่อย่างใด เนื่องจากอาชีพค้าสุนัข ชาวบ้านทำกันมากว่า 30 ปี และเชื่อว่าไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร  สุนัขที่ได้มาไม่เคยมีการลักขโมย ทำด้วยความสุจริต แต่มีการสั่งห้ามแบบนี้ได้รับผลกระทบความเป็นอยู่มาก เพราะไม่มีอาชีพอื่น ทั้งภาระหนี้สิน งวดรถยนต์ ค่าส่งเสียบุตรหลานเล่าเรียน ได้มาจากค้าสุนัขทั้งหมด จึงวิงวอนให้จังหวัดมีการพิจาณาแก้ไข มาเรียกร้องครั้งนี้อาจไม่สำเร็จก็ตาม แต่ขอเรียกร้องขอความเป็นธรรมตามสิทธิ และจะเคลื่อนไหวไปทุกระดับจนถึงระดับประเทศ เพื่อให้เปิดการค้าสุนัขได้อย่างถูกต้อง
 
ด้านนายยงยุทธ นุกิจรังสรรค์ รองผู้ว่าฯนครพนม กล่าวว่า ทางจังหวัดยินดีที่จะรับเรื่องไว้ แต่การดำเนินการนั้นไม่สามารถตัดสินใจได้ เพราะการปราบปรามจับกุมนั้นทำตามขั้นตอนของกฎหมาย หากจะมีการอนุญาตหรือดำเนินการแก้ไขระเบียบกฎหมาย จะต้องนำเสนอต่อหน่วยงานเกี่ยวข้องระดับประเทศเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์