มอเตอร์โชว์สะพัดทะลุ1.4หมื่นล.

หวังกระตุ้นตลาดรถยนต์คึกคัก "โอไอซีเอ"อนุโลมรับจองในงาน


เปิดฉากแล้ว งานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 28 ที่ไบเทค ประธานจัดงาน คาดเงินสะพัดกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท ทั้งจากยอดจองรถ งบจัดบู๊ธ หวังมาช่วยเยียวยาตลาดรถในประเทศที่ฟุบหนัก รถใหม่ รถต้นแบบพาเหรดร่วมงานพรึบ เผยแนวโน้มผู้ชมงานกว่า 1.7 ล้านคน

นายปราจิน เอี่ยมลำเนา

ประธานกรรมการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2007 ครั้งที่ 28 ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม-8 เมษายนนี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา เปิดเผยว่า การจัดงานในปีนี้ได้ใช้งบประมาณไปทั้งหมดประมาณ 400 ล้านบาท เป็นค่าเช่าพื้นที่ ค่าประชาสัมพันธ์ และของรางวัล

คาดว่าผู้เข้าชมงานคงไม่น้อยกว่า

ปีที่ผ่านมาคือราว 1.6-1.7 ล้านคน ส่วนเงินสะพัดในงานคาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ที่มีประมาณ 1 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมงานต้องเตรียมการ คิดเป็นเงินลงทุนรวมกันไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท จึงเป็นการช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ปีนี้ให้คึกคักขึ้นจากปัจจุบันที่ลดลงอย่างมาก

นายปราจินกล่าวว่า

งานมอเตอร์โชว์ปีนี้มีบริษัทรถยนต์ชั้นนำในไทย มาร่วมแสดงในงานครบทุกยี่ห้อ ยกเว้น ปอร์เช่ และเฟอร์รารี่ ที่เป็นรถเฉพาะกลุ่มที่ไม่เข้าร่วม โดยแนวคิดของงานคือ "พลังธรรมชาติ พลังขับเคลื่อน" (Drive thru the nature) และได้รับการรับรองจาก OICA องค์กรผู้ดูแลงานมอเตอร์โชว์ทั่วโลก จึงได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ของค่ายรถอย่างดี


นายปราจินกล่าวว่า

จุดเด่นของงาน นอกจากรถใหม่เพิ่งเปิดตัวทำตลาดครั้งแรกในไทย ได้แก่ โตโยต้า วีออส และค่ายรถหรูอีกหลายค่าย รวมทั้ง เชฟโรเลต แค็ปติว่า รถอเนกประสงค์ขับเคลื่อนสี่ล้อหรือเอสยูวี ที่น่าสนใจ ส่วนยี่ห้อใหม่ที่ยังไม่มีทำตลาดในไทย เดิมจะมีรถยนต์ยี่ห้อฮุนได และโปรตอน ที่เตรียมจะเข้ามาทำตลาดในไทยมาร่วมงานด้วย

แต่เนื่องจากติดปัญหายังไม่พร้อม

ล่าสุดจึงไม่สามารถเข้ามาร่วมงานได้ และอีกแบรนด์ "ตาต้า" ปิคอัพจากประเทศอินเดีย ที่จะทำตลาดในไทยปลายปีนี้ กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะสามารถเข้าร่วมงานได้ทันหรือไม่ นอกจากนี้หลายยี่ห้อได้นำรถต้นแบบมาแสดงนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ มาแสดงให้ชม

"รูปแบบของการจัดงาน

เนื่องจากเราอยู่ในการรับรองของ OICA จึงต้องปฏิบัติเงื่อนไขหนึ่งจะต้องไม่มีการขายรถในงาน แต่เราได้ชี้แจงถึงวัฒนธรรมของประเทศไทยให้ทราบ จึงได้รับอนุโลมให้มีขายรถได้ และบริษัทแม่ของค่ายรถยนต์จะทราบข้อมูลตลาดได้ว่ากลุ่มลูกค้าชาวเอเชียนั้นมีรสนิยมด้านใดเพื่อผลของการวิจัยและพัฒนาในอนาคต แต่เพื่อไม่ให้ดูเป็นงานขายรถจนเกินไป

จึงไปเจรจากับบริษัทรถ

ให้ปรับลดรูปแบบการขาย หรือจำนวนพนักงานขาย เดิมแต่ละบู๊ธแทบจะเป็นกองทัพเซลส์ เพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้มาชมงานได้ชมนวัตกรรมยานยนต์มากขึ้น" นายปราจินกล่าว (กรอบบ่าย)


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์