ม.3อิดโรยผลัดเวรหิว ยันประท้วงเข้าเรียนม.4ให้ได้

วานนี้ (20 พ.ค.) ที่หน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลก เด็กนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)

ยังปักหลักประท้วงอดข้าวกรณีไม่ได้เรียนต่อชั้น ม.4 เป็นวันที่ 2 โดยวันนี้มีเด็กนักเรียนประท้วงเพิ่มเป็น 10 คน จากเมื่อวันที่ 19 พ.ค.มา 5 คน  โดยมีผู้ปกครองและเพื่อนนักเรียนมาให้กำลังใจ  รวมทั้งนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ(ภตช.) เป็นแนวร่วมที่สนับสนุนขึ้นป้ายและเปิดเวทีปราศรัยโจมตีผู้บริหารโรงเรียนรวมทั้งเสนอให้รัฐบาลแก้ไขกฎหมายให้นักเรียนชั้นม. 3 เรียนต่อโรงเรียนเดิมจนจบชั้น ม.6 เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวอีก 

ทั้งนี้นายมงคลกิตติ์  ได้โทรศัพท์หา นายสุวัฒน์ วิวัฒนานนท์ ผอ.โรงเรียนบดินทรเดชา เพื่อสอบถามว่าโรงเรียนจะรับเด็กม.4 ได้อีกกี่คน

ซึ่งผอ.แจ้งกลับว่าขณะนี้ยังตอบไม่ได้  ขณะที่ น.ส. วรรณพร  เศรษฐโชดึก  อายุ  30 ปี ผู้ปกครองนักเรียนคนหนึ่ง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ผอ.โรงเรียนบดินทรเดชาฯ มาพูดคุยกับผู้ปกครองว่าไม่สามารถรับเด็กเพิ่มได้ แต่จะช่วยเหลือหาที่เรียนใหม่ให้ และต่อมาก็แจ้งว่ารับเด็กเพิ่มได้อีก 13 คน แต่ไม่ใช่เด็กที่มาประท้วงเพราะคะแนนไม่ถึง   สำหรับปัญหาการเรียนของเด็กไม่ห่วงเพราะขณะนี้มีอาจารย์จากสถาบันต่างๆ มาสอนวิชาเพิ่มเติมให้นักเรียนประท้วงแล้ว

ผู้สื่อข่าวสอบถามเด็กนักเรียนที่ประท้วงส่วนใหญ่มีท่าทีอิดโรย
 
แต่ยืนยันประท้วงอดข้าวต่อไปจนกว่าจะได้เรียนต่อชั้นม.4 โดยแบ่งประท้วงผลัดละ 5 คน อดข้าวต่อเนื่อง 2 วัน แต่ยังดื่มนมและน้ำเพื่อสุขภาพด้วย  เนื่องจากขณะนี้มีเพื่อนนักเรียนหญิงอ่อนเพลียจนล้มป่วยไป 1 คน อีกทั้งล่าสุดยังมีเพื่อนนักเรียนหลายคนส่งข้อความและโทรศัพท์มาต่อว่าที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงโรงเรียน อยากให้เพื่อนๆและสังคมได้เข้าใจถึงเหตุผลที่ต้องประท้วง


ม.3อิดโรยผลัดเวรหิว ยันประท้วงเข้าเรียนม.4ให้ได้

ด้านนายอนันต์ ระงับทุกข์  รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า
 
ได้รับแจ้งจากศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช  รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.) ว่าได้หารือ น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าว โดยให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ใช้วิธีเจรจาอีกครั้ง และนำนักเรียนไปดูสถานที่เรียนใหม่ อยากเรียนโรงเรียนไหนในกลุ่มโรงเรียนเครือข่ายศธ.จะจัดให้ แต่คงรับเข้าโรงเรียนเดิมไม่ได้ ล่าสุดนายสุวัฒน์ ได้ตรวจสอบจำนวนนักเรียนสละสิทธิ์มี 13 คน ดังนั้นจะรับเพิ่มได้เท่าที่สละสิทธิ์จะให้รับทั้ง 200 คนคงไม่ได้
 
นายอนันต์ กล่าวต่อว่า หากกลุ่มผู้ปกครองไม่ยอมและประท้วงอดอาหารต่อทาง ศ.ดร.สุชาติ ได้แจ้งว่า

ก็ต้องปล่อยให้อดอาหารต่อไป เพราะเราพยายามเจรจาทุกวิถีทางแล้ว แต่ผู้ปกครองยืนยันและเรียกร้องเพิ่มเติมให้ ศธ.ยกเลิกหลักเกณฑ์ที่ให้นักเรียนชั้น ม.3เรียนต่อชั้นม.4 โรงเรียนเดิม80%อีก20%เป็นอำนาจโรงเรียนกำหนดหลักเกณฑ์เอง เพื่อให้รับนักเรียนเก่า 100%ซึ่งเป็นไปไม่ได้ หากทำเช่นนี้จะเกิดความโกลาหลต่อระบบการรับนักเรียนทั้งประเทศ ทั้งนี้ตนได้ส่งเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยของเด็กประท้วงตลอดเวลาเพื่อคอยสังเกตอาการหากเป็นลมหรือเกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยส่งรพ.ได้ทัน

“ผมเจรจากับเด็กและผู้ปกครองว่า ไปคุยกันที่โรงเรียนดีกว่าแทนที่จะมานั่งอยู่ตรงนี้ จะทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียง เด็กหลายคนกำลังใจอ่อน แต่ก็ถูกผู้ปกครองและกลุ่มผู้ปลุกระดม กระตุ้นเด็กไม่ให้ยินยอม เหมือนใช้เด็กเป็นตัวประกัน ผมไม่อยากให้ทำเช่นนั้น เพราะผมก็เห็นเขาเหมือนลูกหลาน  ผมต้องยึดกติกาที่เราได้ตกลงร่วมกัน  ผมจะต้องดูแลนักเรียนที่เหมือนลูกหลานทั่วประเทศให้มีที่เรียนเท่าเทียมกัน หากจะให้ยกเลิกกติกาที่ได้ทำไว้ ระบบการศึกษาของประเทศนี้ก็อยู่ไม่ได้”รองเลขาธิการกพฐ. กล่าวและว่า วันที่ 21 พ.ค.เวลา 09.00 น. ได้เชิญสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาทั้ง 42 เขต และโรงเรียนที่มีปัญหาวิกฤติในการรับนักเรียนเข้าหารือทางออกในการแก้ไขปัญหา

ด้านศ.ดร.สุชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า ยืนยันว่าการรับนักเรียนชั้นม.4ต้องเป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้
 
ตนได้รับข้อมูลว่าการออกมาเรียกร้องของนักเรียนกลุ่มนี้น่าจะมีคนอยู่เบื้องหลัง โดยดูจากป้ายที่เขียนข้อความต่างๆเช่น ข้อความที่ต่อว่าผอ.โรงเรียนบดินทรเดชาฯ และน่าจะมีกระบวนการทางการเมืองมาหลอกใช้นักเรียน ตอนนี้รู้ตัวว่าเป็นใครแล้วจะให้นายอนันต์ ไปแจ้งความไว้ที่สน.ดุสิตเพื่อลงบันทึกประจำวันเหตุการณ์เอาไว้

ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มประสานงานองค์กรเอกชนและเครือข่าย พรรคประชาธิปัตย์ จัดเสวนาเรื่อง ลูกเปิดเทอมปีนี้ คนไทยจะพึ่งใคร?

โดยเชิญนักวิชาการด้านการศึกษาและผู้บริหารสถานธนานุบาลของรัฐมาแสดงความคิดเห็น โดยนายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากการศึกษาครอบครัวผู้มีรายได้น้อยราว8,000-10,000 บาท ค่าอุปโภคบริโภคภายในครัวเรือนเป็นค่าใช้จ่ายหลัก ถัดมาคือค่าใช้จ่ายในการศึกษาของบุตรหลาน และปีนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่มีหนี้ 50,000-70,000 บาท  ปัญหาเงินค่าแป๊ะเจี๊ยะกำลังเป็นปัญหาใหญ่การฝากฝังโดยพึ่งอำนาจทางการเมือง กรณีโรงเรียนมีชื่อเสียงยังต้องใช้เงินจ่ายค่าแป๊ะเจี๊ยะ 5,000-3ล้านบาท เด็กหลายคนน่าเห็นใจที่ทำกิจกรรมเพื่อโรงเรียนแต่ไม่ได้เรียนต่อ กลายเป็นเด็กที่มีอุปการะคุณเข้าแทนที่ ทั้งที่เด็กเหล่านี้ผลการเรียนแค่ 1.75 % จึงกลายเป็นว่าการศึกษาไม่ให้ความเป็นธรรมกับเด็ก

"เท่าที่รับทราบจากผู้บริหารโรงเรียน พบว่ามีผู้ปกครองบางรายส่งกล่องบรรจุเพชรปลอมเต็มกล่องมาให้โดยบอกว่าถ้าลูกเข้าเรียนได้เขาจะทำเลียนแบบมาให้ ดังนั้นเปิดเทอมปีนี้ถือว่าสาหัสมาก และที่พึ่งของประชาชน คือโรงรับจำนำ " นายสมพงษ์ กล่าว และว่า

นอกจากนโยบายเรียนฟรีแล้วทางแก้ไขปัญหาอย่างหนึ่งคือแก้ไขหนี้ครัวเรือนเพื่อให้เงินที่ใช้จ่ายในครัวเรือนเพียงพอ

อย่าบอกว่ามีนโยบายเรียนฟรีแล้วไม่มีค่าใช้จ่ายเพราะจ่ายเหมือนเดิม สุดท้ายทางออกของประชาชนคือกลับไปหาเงินกู้นอกระบบ
นายชัชวาลย์ ศรีนนท์ ผอ.สถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สถานธนานุบาลฯ ได้คงอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 50 สตางค์ต่อเดือน และขยายระยะเวลารอบตั๋วออกไปเพื่อช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นกับประชาชนมากขึ้น สถิติการใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในลักษณะก้าวกระโดดตั้งแต่ปี2554 ตั้งแต่เดือนส.ค. จากช่วงเดียวกันของปี2553 ที่ 500 ล้านบาท เป็น 800 -900 ล้านบาท ยอดเฉลี่ย 800 ล้านบาทต่อเดือน


ขณะที่ นายกนก วงศ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รมว.ศึกษาธิการ เงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า

พรรคได้รับร้องเรียนปัญหาการรับนักเรียนด้วยค่าใช้จ่ายพิเศษเข้ามามาก ปัญหาส่วนใหญ่มาจากนโยบายและผู้บริหารสถานศึกษาที่มีนโยบายไม่ชัดเจน เด็กนักเรียนกำลังได้รับบทเรียนว่าการศึกษาวันนี้คือการมีเงิน ผลการเรียนไม่เกี่ยว อนาคตกำลังถูกตัดสินได้ด้วยเงิน ปัญหาระยะยาวที่เกิดขึ้นคือเด็กได้รับการปลูกฝังว่าเงินเป็นเรื่องสำคัญสุด ส่วนกรณีภาระของครัวเรือนที่มีผลจากค่าครองชีพที่แพงขึ้นและค่าใช้จ่ายทางการศึกษาที่เพิ่มขึ้นเป็นภาระหนักที่ต้องทบทวนว่านโยบายเรียนฟรี ฟรีจริงหรือไม่


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์