ภาพบิ๊กไบค์กราบเท้าพ่นพิษ ด.ต.เจอด่ายับทั้งที่ไม่ได้ทำ

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ สน.บางซื่อ นายโดม เผือกขจี อายุ 39 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายอะไหล่ จยย. เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.วีระพันธ์ พรมมาเขียว ร้อยเวร สน.บางซื่อ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยมี ด.ต.บุญมี เข้าร่วมการรับฟังด้วย

นายโดม ให้การว่า เหตุเกิดวันที่ 17 เม.ย. ตนและกลุ่มเพื่อนในเพจเฟซบุ๊ก "ขอเถอะครับ" ได้นัดรวมตัวกันถ่ายทำรายการที่เกี่ยวกับการรณรงค์เรื่องการใช้สะพานข้ามแยกและอุโมงค์ ปรากกฏว่าหลังถ่ายเสร็จ ตนและเพื่อนได้ขี่ จยย.บิ๊กไบค์รวม 4 คัน มุ่งหน้าไปอุโมงค์สุทธิสารตัดห้วยขวาง แต่ปรากฏว่ามีน้องคันหนึ่งถูกตำรวจที่ตั้งด่านอยู่เชิงสะพานข้ามแยกเกษตรเรียกจับกุม ในข้อหาไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พวกตนที่เหลือจึงจอดรอให้เสร้จขั้นตอน จากนั้นเหลือบไปเห็น ด.ต.บุญมี ที่ยืนอยู่ในด่านเป็นคนสุดท้ายกำลังว่างอยู่ ด้วยความที่อยากได้ภาพไปใช้ประกอบการรณรงค์เรื่องดังกล่าว จึงเดินเข้าไปทำท่าคุกเข่าและกราบไหว้ โดยให้เพื่อนนำกล้องมาถ่ายเก็บไว้

"หลังจากที่ผมโพสต์ภาพประกอบการรณรงค์ไปในเพจ กลับมีเว็บไซค์ข่าวหลายแห่ง ก็อปปี้ภาพไปใช้ต่อทั้งที่ไม่ได้ขออนุญาต หรือสอบถามข้อเท็จจริงใดๆ แถมยังเขียนเอาเองทั้งหมด อ้างว่าเป็นการกราบขอร้องไม่ให้โดนจับ บ้างก็ว่าโดนบังคับก็มี สร้างผลกระทบทั้งกับผมและพี่ตำรวจ ผมยินดีรับทราบข้อกล่าวหา แต่ยืนยันว่าไม่มีเจตนาคิดร้ายแน่นอน คงต้องขอโทษพี่ตำรวจนายนี้อีกครั้ง ที่รับความเสียหายมากกว่าใคร ทั้งนี้อยากเรียกร้องให้เว็บไซต์ข่าวที่นำไปเผยแพร่แบบผิดๆ ต้องแก้ไขหรือแก้ข่าวโดยด่วน ไม่งั้นผมจะแจ้งเอาผิดทันที"

ด้าน ด.ต.บุญมี กล่าวว่า รู้สึกตกใจมาก วันนั้นตนยืนเป็นคนสุดท้ายของด่านตรวจจริง จู่ๆนายโดมก็เดินเข้ามาคุกเข่าและก้มกราบต่อหน้าแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งก็ถามกลับไปว่า "อ้าวน้อง..ทำไมทำแบบนี้" และได้คำตอบมาว่า "ไม่มีอะไรครับ" จากนั้นก้แยกย้ายกันไป ถัดมา 2 วัน ก็กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่โต ทั้งครอบครัว ทั้งญาติพี่น้อง ทั้งเพื่อนร่วมงาน ต่างประฌามตนว่าเป็นคนใจร้ายใจดำ ตอนแรกก็ยังสับสนอยู่ แต่พอเห็นภาพก็เข้าใจทันที จึงรีบเข้าแจ้งความไว้ก่อนจะบานปลาย ซึ่งที่เข้าแจ้ง สน.บางซื่อนั้น เพราะตนเปิดเห็นภาพในท้องที่นี้ อยากฝากเตือนสังคมด้วยว่า อย่าเชื่อภาพที่แชร์ก่อนจะรู้ความจริง ไม่งั้นคงมีคนตกเป็นเหยื่อมากมาย หรือไม่ก็ควรเช็กข่าวให้ชัดเจนก่อน

เบื้องต้นได้สอบปากคำและพิมพ์ลายนิ้วมือนายโดมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจะตรวจสอบข้อเท้จจริงและดำเนินคดีตามขั้นตอน.