กรุงเทพฯ 24 มิ.ย.-นอกจากภัยแล้งส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมแล้ว การผลิตน้ำประปา เพื่อการอุปโภคบริโภค จะได้รับผลกระทบหรือไม่
สถานีสูบน้ำสำแล เป็นจุดเริ่มต้นของการรับน้ำดิบจากแม่น้ำเจ้าพระยา และถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก ในการผลิตน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคหล่อเลี้ยงชาวกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันออก
กำลังการผลิตน้ำประปาของสถานีสูบน้ำสำแล เพื่อส่งต่อไปยังโรงผลิตน้ำบางเขน
ตามปกติจะอยู่ที่ 3.9 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน แต่ด้วยภาวะภัยแล้งจากหลายเขื่อนขนาดใหญ่ จึงต้องลดกำลังการผลิตและจ่ายน้ำประปาเหลือเพียง 3.6 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ทำให้น้ำประปาไหลอ่อนลงในบางเวลา พร้อมยืนยันว่า แม้ตอนนี้จะอยู่ในภาวะแล้ง แต่ก็ไม่ทำให้คุณภาพน้ำเปลี่ยนไป
ผู้ว่าการประปานครหลวงยอมรับว่า หากช่วงนี้ฝนตกไม่เพียงพอ จะทำให้ปริมาณน้ำเพื่อการผลิตน้ำประปาเหลือใช้ได้เพียง 30 วัน
ไม่ต่างจากการประปาส่วนภูมิภาค ที่ดูแลน้ำประปาใน 74 จังหวัดทั่วประเทศ ที่มีปริมาณน้ำเหลือใช้ได้อีก 1 เดือน พื้นที่ที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดอย่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล ย่อมใช้น้ำประปาในปริมาณที่มากตามไปด้วย แม้ประเทศกำลังอยู่ในภาวะภัยแล้ง แต่พวกเขาก็ยังมั่นใจในคุณภาพและปริมาณน้ำที่ยังไม่พบความผิดปกติในตอนนี้
ทั้งการประปานครหลวงและส่วนภูมิภาคยืนยันว่า หากในช่วงนี้มีฝนตกอย่างพอเพียง การผลิตน้ำประปาจะยังไม่มีปัญหา แต่หากฝนไม่ตก จะทำให้มีน้ำประปาใช้ได้ 30 วัน ดังนั้น สิ่งที่สำคัญในเวลานี้ คือ ความร่วมมือของทุกคน ที่จะต้องประหยัดและใช้น้ำกันอย่างคุ้มค่า เพื่อมีน้ำใช้ได้ตลอดไป.-สำนักข่าวไทย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
