พ่อเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ แฉหมอดูเคยทักไม่ตายก็ติดคุก

พ่อเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ แฉหมอดูเคยทักไม่ตายก็ติดคุก

แฉหมอดูเคยทาย "เอ็กซ์-จักรกฤษณ์" ไม่ตายก็ต้องติดคุก

จากกรณี นายจักรกฤษณ์ หรือเอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ถูกคนร้าย 2 คน ขับขี่รถจยย.เป็นพาหนะ ก่อนใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่ขณะกำลังขับรถสปอร์ต ยี่ห้อปอร์เช่ สีดำ ทะเบียน ชส-2223 กทม. ที่บริเวณปากซอยรามคำแหง 166 ถนนรามคำแหง (ฝั่งขาเข้า) แขวงและเขตมีนบุรี ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เสรีรักษ์ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 10.45 น.วันที่ 20 ต.ค. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นายมานพ พณิชย์ผาติกรรม อายุ 66 ปี
 
พร้อมด้วย นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม อายุ 65 ปี พ่อแม่ และ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ อายุ 36 ปี ภรรยาของนายจักรกฤษณ์ เดินทางมาติดต่อขอรับศพนายจักรกฤษณ์ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร ศาลา 13
นางบุญคิด กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ตนในฐานะแม่ก็รู้สึกเสียใจ เมื่อคืนไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะไปเฝ้าลูกชายที่โรงพยาบาล มองดูลูกเหมือนจะพูดกับกับตนแต่ก็ไม่ได้พูด ตอนนี้ลูกไปสบายแล้ว ได้พักผ่อนเพราะเหนื่อยมามากแล้ว เมื่อวานนี้ (19 ต.ค.) ตนได้คุยกันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเกิดเหตุ โดยลูกชายโทรศัพท์มาหาตนพร้อมบอกว่าไปหาลูกๆ ไปกินข้าวกับลูก จากนั้นก็ส่งรูปมาให้ตนดูในไลน์

"พอแม่เปิดดูรูปแล้ว เอ็กซ์ยังแซวว่า เดี๋ยวนี้เก่งนะเล่นไลน์เป็นด้วย แม่ก็บอกว่าไม่เก่งหรอก เล่นไปมั่วๆ แล้วเขาก็หัวเราะ เขายังบอกด้วยว่า ตอนนี้ไม่กล้าไปไหน เพราะปากซอยน้ำท่วม เป็นห่วงบ้าน ต้องดูแลบ้าน เพราะเขาทำงานทุกวัน นั้นเป็นประโยคสุดท้ายที่คุยกับเขา" นางบุญคิดกล่าวทั้งน้ำตา และว่า "ตอนนี้น้องชม ลูกสาวคนโต อายุ 4 ขวบ 3 เดือน กับน้องปก ลูกชายคนเล็ก อายุ 1 ขวบ 3 เดือน ยังไม่ทราบเรื่อง รู้แต่เพียงว่าเอ็กซ์ไม่สบายอยู่โรงพยาบาล และคุณแม่ไปเฝ้าอยู่เท่านั้น"


พ่อเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ แฉหมอดูเคยทักไม่ตายก็ติดคุก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้นายจักรกฤษณ์ เคยเล่าว่ามีปัญหาอะไรกับใครหรือถูกขู่ฆ่า เรื่องที่นำพระไปขายให้กับกลุ่มคนมีสีฟังหรือบ้างหรือไม่
 
นางบุญคิด กล่าวว่า ลูกชายตนไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย เพราะตนอยู่คนละบ้านกับลูกชาย โดยก่อนหน้านี้
ลูกชายเคยบอกแต่เพียงว่า ชอบเพลงแสงสุดท้าย ของวงบอดี้แสลมมาก ลูกชายต้องเปิดฟังทุกวัน หากเป็นอะไรไปให้เปิดเพลงนี้ให้ฟังในงานศพด้วย

ต่อข้อถามที่ว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายได้ เจ้าหน้าที่จับคนร้าย จะทำอย่างไร นางบุญคิด กล่าวว่า คงต้องเอาไปประหาร ตนขอให้คมหอกคมดาย้อนกลับไปหาคนที่บงการและคนที่ทำด้วย

ด้านนายมานพ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนเพิ่งไปนอนบ้านลูกชาย ก่อนจะกลับมาที่บ้านตัวเองเมื่อวัน 18 ต.ค.จนกระทั่งมาทราบว่าลูกชายถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวานนี้ (19 ต.ค.) ซึ่งตลอดเวลาที่อยู่บ้านลูกชายนั้น เจ้าตัวก็ดูปกติดีไม่มีอาการเครียดให้เห็น หรือเล่าเรื่องอะไรให้ฟังแต่อย่างใด แต่ก่อนหน้านี้ แค่ 1 วันก่อนจะถูกตำรวจจับตอนมีเรื่องกับภรรยา ตนเคยไปดูดวงกับหมอดูเขมร ชื่อ อ.ทวนทอง ทางหมอดูก็ทักว่า ชะตาลูกชายขาดแล้ว คนๆนี้ไม่ติดคุกก็ต้องขึ้นเมรุ แต่หมอดูก็ไม่ได้บอกวิธีต้องแก้อย่างไร มีแต่ภรรยาตนที่บอกให้ลูกชายทำบุญเยอะๆ

ต่อมาเวลา 12.30 น. นางบุญคิด ได้ลงลายมือรับทราบผลผ่าพิสูจน์สาเหตุการตายที่ นพ.พ.ต.อ.สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ นายแพทย์ (สบ5) กลุ่มงานนิติพยาธิ นิติเวช รพ.ตร. ผู้ผ่าพิสูจน์ศพ 

โดยระบุว่า เสียเลือดปริมาณมากจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายหัวใจและปอด จาดนั้นนายมานพและนางบุญคิด ได้ ชุดสูทสีกรมท่า ที่นายจักรกฤษณ์ เคยใส่ใช้ในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ กรุงโดฮา เมื่อปี 2006 กับเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายทางสีเทา เน็คไทด์ลายสีเทา-ชมพู รองเท้าหนังสีน้ำตาล มาให้เจ้าหน้าที่แต่งศพนายจักรกฤษณ์ ก่อนที่จะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร บางเขน ศาลา 13 เป็นเวลา 5 วัน

จากนั้นเวลา 14.00 น.ได้มีกลุ่มเพื่อนสนิทของนายจักรกฤษณ์ ในนามกลุ่ม ไอ้มดแดง ขับขี่รถจยย.ฮาเล่ย์ เดวิสสัน จำนวนกว่า 10 คัน
 
เดินทางมาร่วมรับศพของนายจักรกฤษณ์ โดยนายทรงวุฒิ วุฒิการโกศล อายุ 46 ปี หนึ่งในกลุ่มเพื่อนกล่าวว่า กลุ่มตนมีสมาชิกอยู่ทั้งหมด 50 คน โดยปกติจะรวมตัวกันอยู่ที่รีสอร์ทเดอะวิลล่า 71 ซอยลาดพร้าว 71 โดยนายจักรกฤษณ์มีรถจยย.อยู่ 2 คัน และได้เข้ามาร่วมกลุ่มได้ประมาณ 2 ปี เคยไปร่วมออกงานโชว์ตัว 2 ครั้ง ทั้งนี้เมื่อช่วง 2 เดือนก่อน นายจักรกฤษณ์ เคยมาเล่าเรื่องครอบครัวให้ฟังบ้าง ส่วนใหญ่ก็เป็นไปตามข่าว แต่มีเมื่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อน เจ้าตัวเคยมาเล่าให้ฟังเรื่องเกี่ยวกับการเช่าพระ และมีการพูดใส่อารมณ์โกรธด้วย ซึ่งในส่วนนี้ตนก็ไม่ทราบรายละเอียดต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนสอบสวนเรื่องนี้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ เชิญนายมานพและนางบุญคิด พ่อแม่ของนายจักรกฤษณ์ เข้าไปที่ห้องประกอบพิธีเพื่อดูศพนายจักรกฤษณ์ที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว
 
ซึ่งนายมานพ ถึงร้องไห้โฮออกมา ส่วนนางบุญคิด ผู้เป็นแม่ก็ร่ำไห้พร่ำเพ้อว่า ตอนเอ็กซ์เกิดพ่อไปจุดธูปขอจากพระพรหมเอราวัญ แล้วพระพรหมให้มาว่าต้องชื่อจักรกฤษณ์นะ และจะเลี้ยงยาก ก็เลี้ยงยากจริงๆ ตอนเด็กใครป่วยเป็นอะไร ก็เป็นไปกับเขาหมด จักรกฤษณ์พักผ่อนนะ พระพรหมท่านให้มาแค่นี้ ก่อนนายมานพกับนางบุญคิดจะจูบและสวมกอดศพนายจักรกฤษณ์เป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นญาติได้เชิญพระสงฆ์จีน มาเป็นผู้ทำพิธีเชิญวิญญาณตามความเชื่อของครอบครัว ก่อนจะเคลื่อนศพออกจากสถาบันนิติเวชไปยังวัดพระศรีมหาธาตุบางเขน ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นไปอย่างโศกเศร้า



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์