พี่เป้าทรุดหนัก-ไม่ยอมรับอาหาร

ภาพจาก ข่าวสดภาพจาก ข่าวสด


จากกรณีที่ ‘เป้า’สายัณห์ สัญญา นักร้องลูกทุ่งชื่อดังวัย 62 ปี เกิดอาการทรุดหนักหลังจากกลับไปพักรักษาตัว ที่ เอสเค เรสซิเด้นท์ ย่านปิ่นเกล้า จน นายมานิตย์ อังกินันทน์ ผู้จัดการส่วนตัว ต้องนำตัวลูกทุ่งดังเข้ารักษาตัวอย่างเร่งด่วน ที่ โรงพยาบาลธนบุรี ย่านพรานนก เมื่อเย็นวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา

 ความคืบหน้าล่าสุดเวลา 11.30 น. วันที่ 15 ส.ค. ที่ ห้องราชาวดี 1 ตึกเก่า โรงพยาบาลธนบุรี นายมานิตย์ อังกินันทน์ ผู้จัดการส่วนตัวของสายัณห์ สัญญา เผยถึงความคืบหน้าอาการป่วยของนักร้องลูกทุ่งชื่อดังว่า เมื่อวานนี้(14 ส.ค.) ตนพาพี่เป้าส่งรพ. ตอนเวลาประมาณ 17.00น. อาการของพี่เป้าทรุดเหมือนวันแรกที่ส่งรพ.ศรีวิชัย น้ำหนักลด ไม่มีแรง พูดเสียงค่อย พอมาส่งที่รพ.ก็ขอร้องให้รับน้ำเกลือและสารอาหารโดยพาไปตรวจ คุณหมออยากตรวจดูว่าเบื่ออาหารเพราะสาเหตุอะไร แต่พี่เป้าเกิดการต่อต้านทำให้การทำงานของหมอเป็นไปอย่างลำบาก

 “เมื่อคืนพยายามกล่อมพี่เป้าจนสำเร็จยอมให้สารอาหารและน้ำเกลือแล้วพี่เป้าหลับไป พอตื่นมาก็ถอดสายน้ำเกลือออกอีก พวกเราต้องขอร้อง แต่พี่เป้าไม่ยอมเหมือนคนท้อแท้ไม่ยอมรับการรักษาใดๆ แล้ว ตอนนี้ผมพูดได้เลยว่าอาการของพี่เป้าเริ่มจะวิกฤติแล้วเพราะเสียงพูดค่อยมาก ไม่ยอมรับสารอาหาร ยา รวมถึงน้ำเกลือ จะหลับตาอย่างเดียวซึ่งพี่เป้าไม่ได้หลับเพราะนอนคิ้วขมวดตลอดเวลา ขนาดกล่อมว่าวันนี้ต้องรับสารอาหารและน้ำเกลือเพราะพรุ่งนี้จะได้ออกคอนเสิร์ต แต่พี่เป้าก็ไม่ยอมพูด พยาบาลเข้าไปถามก็คลุมโปงไม่ยอมพูด ครอบครัวไปคุยด้วยก็ไม่ยอมคุย” นายมานิตย์กล่าว

 ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อไปว่า สาเหตุที่ ‘เป้า’ ไม่ยอมพูดจาและต่อต้านการรับสารอาหาร น้ำเกลือ และยา เกิดจากสาเหตุอะไร ผู้จัดการคนเดิม เผยว่า ตนรู้สึกว่าพี่เป้าท้อมากหลังจากที่แพทย์แผนไทยพาไปตรวจเลือด ที่ รพ.แห่งหนึ่งได้ 2 วัน เขาเหมือนคนจิตตก ตั้งแต่นั้นก็พูดกับคนน้อยลง ไม่หยอกล้อเหมือนเดิม อาการพี่เป้าตอนนี้น่าเป็นห่วง แต่ทั้งนี้คอนเสิร์ตวันอำลาขวัญใจคนเดิมสายัณห์ สัญญา กลับบ้านสุพรรณบุรี ยังมีเหมือนเดิม ส่วนพี่เป้าจะไปได้หรือไม่ได้ต้องเช็กสภาพร่างกายวันต่อวัน แต่คอนเสิร์ตไม่งด

 ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ตอนนี้สมาชิกในครอบครัวตกลงกันแล้วที่จะยุติการรักษาอาการป่วยของ ‘เป้า-สายัณห์’ ด้วยวิธีแพทย์แผนไทยใช่หรือไหม่ นายมานิตย์ กล่าวว่า คงต้องเป็นแบบนั้นเพราะหลังจากกลับมาจากรักษาแพทย์แผนไทย พี่เป้ามีอาการนิ่ง ขนาดแพทย์แผนไทยเข้าไปคุยก็ไม่ยอมคุย หันหลังเข้าหากำแพงเลย ก่อนหน้าไปรพ.พี่เป้าบ่นว่าทำไมชีวิตต้องมาเจอแบบนี้

 “บางครั้งพี่เป้าท้อแท้เกินไป พี่เป้าน่าจะฮึดสู้สักหน่อย ผมว่าโรคนี้เรายังอยู่ได้ถ้ามีกำลังใจที่ดี สำหรับผลตรวจเลือดตอนนี้ยังไม่ออกแต่ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่าพี่เป้าติดเชื้อทางกระแสเลือดค่อนข้างรุนแรง ตอนนี้ลูกและภรรยาของพี่เป้าลงความเห็นว่าพี่เป้าไม่ใช่สายัณห์ สัญญา คนเดิม ถามว่าคนในครอบครัวทำใจหรือยัง ยังไม่มีใครทำใจ แต่ก็ร้องไห้กันทุกคนเพราะขอร้องให้พี่เป้ายอมรับน้ำเกลือแต่พี่เป้าก็ไม่ยอม” ผู้จัดการส่วนตัวลูกทุ่งดังกล่าว

 ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อไปว่า ตอนนี้คุณหมอลงความเห็นอย่างไรถึงการที่ ‘เป้า-สายัณห์’ จะไปขึ้นคอนเสิร์ตที่สุพรรณบุรี นายมานิตย์ เผยว่า คุณหมอทุกท่านลงความเห็นไม่อยากให้ไป ถ้าไปต้องทำใจว่าพอพี่เป้ากลับมาต้องทรุดกว่าเก่า แต่พี่เป้าไม่ค่อยห่วงเรื่องสุขภาพ อย่างไรก็ต้องไป ถึงจะตายก็ต้องไป

 “ถ้าถามผมว่าอยากให้ไปหรือเปล่า 50:50 ครับ พรุ่งนี้ยังไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น แต่ใจของพี่เป้าคิดไปไกลแล้วว่าพรุ่งนี้จะออกเดินทางแต่เช้า ไปไหว้สักการะสมเด็จพระนเรศวรฯ ก่อน”

 ต่อมาเวลา 13.40 น. ที่ ชั้น 1 ห้องประชุมศูนย์หัวใจ อาคาร 12 ชั้น โรงพยาบาลธนบุรี คณะแพทย์ของโรงพยาบาล นำโดย นพ.ประสิทธิ์ เจียรกุล ผู้อำนวยการฝ่ายแพทย์, น.พ. วชิรบุญย์ ศาสตระรุจิ รองผู้อำนวยการฝ่ายแพทย์ และ นายเฉลิมกุล อภิบุณโยภาส ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร, นายสัญญา พรนารายณ์ นักร้องลูกทุ่งเจ้าของเพลง “สัญญาเมื่อสายัณห์” และ นางวรรณพร สัมฤทธิ์ ภรรยาของนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ร่วมกันแถลงข่าวถึงความคืบหน้าอาการป่วย         
     
 น.พ.ประสิทธิ์ ผอ.ฝ่ายการแพทย์ กล่าวว่า ตอนที่นายสายัณห์ถูกส่งตัวมายังรพ. มีไข้สูง 38.5-39 องศา มีอาการซึม แพทย์ให้น้ำเกลือและให้สารอาหารทางน้ำเกลือเพื่อให้ร่างกายคนไข้แข็งแรงขึ้น พร้อมกันนี้ทางคณะแพทย์ใช้วิธีการรักษาแบบประคับประคอง 

 “ตอนนี้อาการไข้ของผู้ป่วยอยู่ในระดับสูงอยู่ ทางรพ.กำลังหาสาเหตุเรื่องของไข้ที่เพิ่มขึ้นว่าเกิดจากจุดไหน ระหว่างหาเชื้อได้ให้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อโดยการฉีดทางเส้นเลือด ส่วนสาเหตุที่ติดเชื้อเป็นเพราะการรักษาด้วยยาสมุนไพรหรือไม่ ตรงนี้ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ครับ ” น.พ.ประสิทธิ์กล่าว

 น.พ.ประสิทธิ์ เผยต่อว่า ทาง ร.พ. ตรวจหาเชื้อด้วยวิธีการเจาะเลือดไปแล้วเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าต้องใช้ระยะเวลา 2-3 วันถึงจะทราบผล นอกจากนี้แพทย์ทำการซีทีสแกนทางช่องท้อง เพื่อตรวจหาสาเหตุความผิดปกติว่าเหตุใดคนไข้จึงไม่ยอมรับสารอาหาร สำหรับอาการซึมของผู้ป่วยต้องดูแลเรื่องแร่ธาตุและไข้ ซึ่งถ้าไข้ไม่ลดอาจต้องสแกนสมองอีกที เนื่องจากเชื้อนี้อาจจะแพร่กระจายได้

 ผู้สื่อข่าสอบถามต่อไปว่า ก่อนหน้านี้แพทย์แผนไทยระบุว่า ‘เป้า-สายัณห์’ เป็นมะเร็งเม็ดเลือดด้วย น.พ.ประสิทธิ์ เผยว่า ผู้ป่วยเป็นมะเร็งที่ตับอ่อนและแพร่กระจายไปที่ตับ แต่มะเร็งสามารถแพร่กระจายไปได้เรื่อยๆ เท่าที่ตรวจไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเป็นมะเร็งเม็ดโลหิต ผลของการเจาะเลือดพบว่าเม็ดเลือดขาวสูงเพราะการติดเชื้อ ไม่ได้มีเซลล์ที่เป็นมะเร็ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังรอข้อมูลการรักษาจากรพ.พระราม 9 ว่าดำเนินการรักษาอะไรไปแล้วบ้างและถึงขั้นตอนไหนแล้ว ส่วนกรณีที่คนไข้กังวลเรื่องการรักษาด้วยคีโมและไม่ให้ความร่วมมือนั้น เรื่องนี้ต้องทำให้คนไข้เข้าใจว่าวิธีนี้เป็นวิธีการรักษา ซึ่งอาจจะมีผลข้างเคียง ตอนแรกคนไข้อาจรับไม่ได้

 สำหรับเรื่องที่ ‘เป้า-สายัณห์’ ยืนยันว่าจะไปขึ้นคอนเสิร์ต “วันอำลาขวัญใจคนเดิม สายัณห์ สัญญา กลับบ้านสุพรรณ” ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ น.พ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ตามความเห็นของแพทย์คงไม่อนุญาต แต่ถ้าผู้ป่วยยืนกรานว่าจะไปก็เป็นสิทธิของผู้ป่วย ทางรพ.จะเตรียมทีมแพทย์และอุปกรณ์ไปด้วย 

 ต่อข้อถามผู้สื่อข่าวถึงอาการของ ‘เป้า-สายัณห์’ ขณะนี้เรียกว่าวิกฤติหรือยัง น.พ.ประสิทธิ์ เผยว่า เรื่องขั้นวิกฤติหรือยังนั้นพูดยาก เพราะชีพจร ความดัน และการหายใจยังปกติ แต่ที่ผิดปกติคือมีไข้สูง

 ทางด้านนางวรรณพร ภรรยาของลูกทุ่งชื่อดัง เผยว่า ช่วง 2-3 วันที่อยู่บ้าน พี่เป้าไม่ยอมทานอาหาร ยาฆ่าเชื้อ และยาลดไข้ น้ำก็ไม่ดื่ม ร่างกายจึงขาดน้ำและสารอาหาร การที่เขาไม่ยอมทานยาทำให้มีไข้และเพ้อ สติสัมปชัญญะเหลือแค่ครึ่งเดียว พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่พอพี่เป้ามาถึงรพ.รู้สึกอุ่นใจขึ้น จะได้อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เรื่องการรักษาด้วยยาสมุนไพร ยังไม่เลิก อาจรักษาควบคู่กันไป ถ้าพี่เป้าไม่ยอมรักษาด้วยเคมีบำบัด

 น.พ.ประสิทธิ์ เผยถึงการรักษาด้วยยาสมุนไพรควบคู่กันไปว่า ปกติแล้วการรักษาด้วยยาสมุนไพรกับยาแผนปัจจุบันจะไม่ตีกัน ถ้ายาสมุนไพรไม่ผสมสารหนูและสเตียรอยด์ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร

 นางวรรณพร เผยต่อว่า เรื่องที่พี่เป้ายืนยันจะขึ้นคอนเสิร์ตนั้น จริงๆ ตนและลูกๆ เป็นห่วงมากกับสถานการณ์ตอนนี้ แต่เขามีความตั้งใจอยากไปร้องเพลงที่บ้านเกิด ก็ต้องปรึกษาแพทย์อีกครั้งว่าร่างกายเขาเป็นอย่างไรบ้าง

 ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อว่า ถ้า ‘เป้า-สายัณห์’ ยืนยันจะไม่รับการรักษาด้วยคีโม น่าจะเหลือเวลาอีกนานแค่ไหน น.พ.ประสิทธิ์ เผยว่า เรื่องนี้มีหลายกรณี บางคนแพทย์บอกว่าได้ 1 ปี แต่อาจจะอยู่ได้ 5 ปี แล้วแต่สภาพร่างกาย กำลังใจของคนไข้ และอยู่ที่การดำเนินของโรค ไม่สามารถกำหนดตายตัวได้ ถ้าผู้ป่วยมีภาวะทางโภชนาการที่ดี มีสารอาหารดีจะช่วยเสริมให้เขาแข็งแรงและไม่ทรุดหนักเร็ว

 ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษา นายเฉลิมกุล อภิบุณโยภาส ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร กล่าวว่า มีผู้ที่แสดงความจำนงช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายด้วย แต่เนื่องจากนายสายัณห์เป็นบุคคลมีชื่อเสียง ทางรพ.จะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายเป็นกรณีพิเศษ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์