ญาตินับร้อยรอรับศพร่ำไห้ระงมลั่นสนามบินอู่ตะเภา เผยผลสอบระบุใบพัดท้ายหยุดหมุน นักบินตะโกนบอกชาวบ้านที่อยู่กลางทุ่งนาให้หลบก่อนระเบิดไฟลุกท่วม ผบ.ทร. ชี้สาเหตุเกิดจากตัวเครื่อง สั่งเฮลิคอปเตอร์รุ่นเดียวกันระงับการบินทุกลำรอตรวจสอบระบบ กองทัพเรือขอพระราชทานเลื่อนยศ-เครื่องราชอิสริยาภรณ์
นามเรียกขาน นาวี ไฟลต์ (NAVY FLIGHT) ของกองทัพเรือ ตกขณะปฏิบัติภารกิจฝึกบินเดินทางไกล เส้นทางสนามบินจ.อุบลราชธานี-สนามบินโคราช-สนามบินอู่ ตะเภา จ.ชลบุรี บริเวณกลางทุ่งนา ด้านทิศเหนือติดกับวัดอุทุมพร บ้านน้ำเขียว หมู่ 6 ต.น้ำเขียว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ก่อนเกิดไฟไหม้ท่วมทั้งลำ ทำให้ น.ท.ทศพร ทุมวงศ์ น.ต. ภาสกร รักษ์วงศ์ ร.ท.จิรุตถ์ จิตต์อารีย์ พ.จ.อ. สุวิทย์ พานิชวัฒนะ จ.อ.สมเกียรติ เสือย้อย จ.อ.มานิตย์ คุ้มไพร จ.อ.สุขถวัลย์ คงเม่น จ.อ.นิวัฒน์ มุ่งแสง และ จ.อ.ธนากร นวลสุธา เสียชีวิตรวม 9 ศพ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 24 มี.ค. พ.ต.ต.ทองเดือน นามโคตร สารวัตรเวร สภ.อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เจ้าของคดี เปิดเผยถึงผลการสอบสวน น.ท.วัชริศ อุไรมาลย์ นักบินที่ 1 ของเครื่องชนิดเดียวกัน หมายเลข 2302 ที่บินตามกันมา ว่า
เดินทางจากจังหวัดอุบลราชธานี มีกำหนดแวะเติมน้ำมันที่จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างนั้นตนได้ยิน น.ท. ทศพร แจ้งวิทยุว่าขอนำเครื่องลงฉุกเฉิน เนื่องจากเครื่องขัดข้องกำลังจะหาจุดลงจอด โดยเลือกแหล่งน้ำขนาดใหญ่แทนเขตชุมชน แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุใบพัดท้ายหยุดทำงาน นักบินพยายามจะลงจอดแต่เห็นชาวบ้านยืนเลี้ยงสัตว์อยู่หลายคน เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเครื่องได้เปิดประตูเครื่องออก
จากนั้นเจ้าหน้าที่ในลำที่เกิดเหตุได้ร้องตะโกนบอกให้ชาวบ้านหลบ
เป็นจังหวะเดียวกับที่เครื่องบินก็ระเบิดขึ้น ก่อนจะตกกระแทกพื้นตนจึงวนเครื่องกลับมาลงจอด ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร ก่อนนำถังดับเพลิงเข้ามาช่วยดับไฟ แต่ระหว่างนั้นเครื่อง 2306 ได้เกิดระเบิดขึ้นอีก 2 ครั้ง และไฟลุกท่วมขึ้นอย่างรวดเร็ว
ด้านทิศเหนือติดกับวัดอุทุมพร บ้านน้ำเขียว หมู่ 6 ต.น้ำเขียว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นจุดตกเฮลิปคอปเตอร์ น.อ.จารึก สมรรคบุตร ผอ.ศูนย์ซ่อมอากาศยาน กองการบินทหารเรือ กองทัพเรือ นำกำลังกว่า 20 นาย พร้อมเครื่องมือและอุปกรณ์เข้าตรวจสอบหาสาเหตุการตกของเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว ก่อนจะเก็บซากขึ้นรถบรรทุกนำกลับหน่วยที่ตั้งเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดทหารบกสุรินทร์ พร้อมทหารจากกองบิน 2 กองการบิน ทหารเรือ ช่วยกันลำเลียงศพนักบินและลูกเรือ ที่เสียชีวิตออกจากห้องเก็บศพ นำขึ้นรถบรรทุกทหารยีเอ็มซี ของจังหวัดทหารบกสุรินทร์ เดินทางไปยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ จากนั้นนำขึ้นเครื่องบินฟ็อกเกอร์ หมายเลข 2110 กลับหน่วยที่ตั้ง
โดยมี พล.ร.อ.นพพร อาชวาคม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พล.ร.ท. สมบัติ อักษรศรี เสนาธิการกองเรือยุทธการ พล.ร.ต.ธีรวัฒน์ ศรีถาพร ผู้บัญชาการกองการบินทหารเรือ พร้อมข้าราชการกองทัพเรือ รวมทั้งญาติพี่น้องนับร้อยคนมารอรับได้ร้องไห้คร่ำครวญถึงความสูญเสียเสียงดังระงมไปทั่วบริเวณ บางคนถึงกับเสียใจเป็นลมล้มพับคาสนามบิน เจ้าหน้าที่ต้องช่วยเหลือเร่งด่วน
จากนั้นได้ลำเลียงศพทั้งหมดมาตกแต่งศพ ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ก่อนจะย้ายมาตั้งบำเพ็ญกุศล ณ ศาลาสวดพระอภิธรรมศพ วัดสัตหีบ โดย พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. เป็นประธานในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ในโอกาสนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานพวงมาลาวางหน้าหีบศพ และในเวลา 18.30 น. มีพิธีสวดพระอภิธรรม โดยมี พล.ร.อ. นพพร ผู้แทนกองทัพเรือเป็นเจ้าภาพ
สาเหตุที่เครื่องตกน่าจะเกิดจากตัวเครื่องเฮลิคอปเตอร์เอง ซึ่งได้สั่งให้กองทัพเรือระงับการบินด้วยเครื่องเฮลิคอปเตอร์รุ่นเบลล์ 214 เอสที ทุกลำแล้ว เพื่อที่จะนำมาตรวจสอบและซ่อมแซมระบบ
และเลื่อนชั้นยศให้กับนายทหารทั้ง 9 นาย โดย
น.ท.ทศพร ทุมวงศ์ ผู้บังคับฝูงบิน 202 กองบิน 2 กองบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ นักบินที่ 1 ได้เลื่อนชั้นยศเป็น น.6 ชั้น 3 (พลเรือตรี) เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)
น.ต.ภาสกร รักษ์วงศ์ ผบ.หมวดบิน 1 ฝูงบิน 202 นักบินที่ 2 เลื่อนชั้นยศเป็น น. 4 ชั้น 4.5 (นาวาเอก) เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)
ร.ท.จิรุตถ์ จิตต์อารีย์ หัวหน้าหมวดตรวจสอบมาตรฐาน แผนกช่าง ฝูงบิน 202 เลื่อนชั้นยศเป็น น.5 ชั้น 2.5 (นาวาเอก) เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)
พ.จ.อ.สุวิทย์ พานิชวัฒนะ ช่างอิเล็กทรอนิกส์ หมวดซ่อม แผนกช่าง ฝูงบิน 202 เลื่อนชั้นยศเป็น น.2 ชั้น 2.5 (นาวาตรี) เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.)
จ.อ.สมเกียรติ เสือย้อย ช่างเครื่องยนต์อากาศยาน หมวดซ่อม แผนกช่าง ฝูงบิน 202 ได้รับเลื่อนชั้นยศเป็น น.2 ชั้น 2.5 (นาวาตรี) เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.)
จ.อ.มานิตย์ คุ้มไพร ช่างลำตัว หมวด ซ่อม แผนกช่าง ฝูงบิน 202 ได้รับเลื่อนชั้นยศเป็น น.3 ชั้น 5 (นาวาโท) เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)
จ.อ.สุขถวัลย์ คงเม่น เจ้าหน้าที่พัสดุ หมวดช่างเครื่องยนต์ แผนกซ่อม กองซ่อมบำรุง กองบิน 2 ได้รับการเลื่อนชั้นยศเป็น น.1 ชั้น 3 (เรือเอก) เครื่องราชอิสริยาภรณ์ จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก (จ.ช.)
จ.อ.นิวัฒน์ มุ่งแสง ช่างแก้ไขข้อขัดข้อง หมวดลานจอด แผนกช่าง ฝูงบิน 202 ได้รับการเลื่อนชั้นยศเป็น น.1 ชั้น 15.5 (เรือเอก) เครื่องราชอิสริยาภรณ์ จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก (จ.ช.) และ
จ.อ.ธนากร นวลสุธา ช่างอุปกรณ์ภาคพื้น หมวดลานจอด แผนกช่าง ฝูงบิน 202 ได้รับการเลื่อนชั้นยศเป็น น.1 ชั้น 14.5 (เรือเอก) เครื่องราชอิสริยาภรณ์ จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก (จ.ช.).
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้ กระทู้เด็ดน่าแชร์
