พายุถล่มทั่ว-อุตุชี้หลัง5พ.ค.อากาศเย็นลง

พายุถล่มทั่ว-อุตุชี้หลัง5พ.ค.อากาศเย็นลง

วันที่ 3 พ.ค. นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
 
เปิดเผยว่า พายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นในขณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากอากาศที่ร้อนมาอย่างต่อเนื่อง และในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม ยังมีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อนขึ้นอยู่ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวมถึงพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ลักษณะมีลมกระโชกแรง ฝนฟ้าคะนอง แต่จะเกิดขึ้นในพื้นที่แคบๆ กระจายไปในวงกว้าง และจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเกิดขึ้นในพื้นที่ใดเป็นพิเศษและรุนแรงขนาดไหน และขอให้ประชาชนระมัดระวังเรื่องพายุฤดูร้อนในช่วง 1-2 วันนี้ แต่หากถึงวันที่ 4 และ 5 พ.ค. ความร้อนจะลดลงและพายุฤดูร้อนก็จะหมดไป โดยเฉพาะตั้งเเต่วันที่ 5 พ.ค.เป็นต้นไป


 นครราชสีมารายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มพื้นที่ 16 หมู่บ้านของตำบลเสมา อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา

ส่งผลให้บ้านเรือนชาวบ้านกว่า 200 หลัง วัด 2 แห่ง และโรงเรียน 2 โรง ถูกพายุพัดพังได้รับความเสียหาย มีประชาชนบาดเจ็บจากเหตุพายุพัดถล่ม 10 คน ในจำนวนนี้เจ็บสาหัส 2 คน เนื่องจากถูกคานเสาบ้านล้มลงมาทับ ทราบชื่อนายบรรยง แดงสูงเนิน อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 ม.2 ต.เสมา ขาขวาหัก และนายประทีป เหาะสูงเนิน อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 ม.3 ต.เสมา ศีรษะแตก สมองกระทบกระเทือนทั้งสองรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา


  นายสมัย บุศบก กำนัน ต.โนนปาซาง อ.ผาขาว จ.เลย พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน 3 หมู่บ้าน มีบ้านโนนป่าซาง บ้านสันติภาพพัฒนา และบ้านป่าซาง

พร้อมคณะกรรมการหมู่บ้านทั้ง 3 หมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จากอำเภอผาขาว ออกสำรวจบ้านเรือนราษฎรที่ถูกพายุฤดูร้อนถล่มเมื่อคืนนี้ เสียหายประมาณ 80 หลังคาเรือน ทำให้หลังคาบ้านเรือนราษฎรถูกลมพัดปลิวว่อน บางหลังหลุดไปทั้งแถบ ปลิวไปใกล้ร่วม 40 เมตร ต้นไม้หักระเนระนาด จากนั้นฝนก็ตกลงมาซ้ำต่อ


 เมื่อค่ำวานนี้ ที่จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดลมพายุฤดูร้อนพัดอย่างแรงรวมทั้งมีฝนตกอย่างหนัก
 
ส่งผลให้บ้านเรือนในพื้นที่ ม.1 ถึง ม.5 ต.กระแชง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พังไปกว่า 50 หลัง พื้นที่ ม.8 ต.บ้านกลึง อ.บางไทร กว่า 10 หลัง สภาพบ้านเรือนถูกลมพายุพัดหลังคากระเบื้องและสังกะสีถูกลมพายุพัดปลิวว่อนจนหลังคาเปิด และบ้านยังถูกต้นไม้โค่นล้มทับพัง เสาไฟฟ้าที่เข้าหมู่บ้านหักโค่น ทำให้ไฟฟ้าดับนานกว่า 15 ช.ม. ประชาชนได้รับความลำบาก


 นางถวิล ศรีจันทร์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 ม.4 ต.กระแชง กล่าวว่า บ้านถูกต้นก้ามปูขนาดใหญ่ล้มทับหลังคาจนบ้านพังเสียหายทั้งหลัง
 
ช่วงหัวค่ำขณะนั่งห่อข้าวต้มอยู่ในบ้านหลานๆ และสามีเห็นลมพายุพัดกระโชกมาอย่างแรงเป็นลูกจนต้นไม้ที่ติดอยู่ข้างบ้านหมุนแล้วหักโค่นลงมาทับหลังคาจนเสียหาย พยายามวิ่งหลบปรากฏว่ามีไม้จากหลังคาบ้านถูกศีรษะจนบวม เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 5 นาทีเร็วมากไม่เคยพบเคยเห็น ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านเสียหายทั้งหมด


 สภ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี รับแจ้งว่าที่บ้านเลขที่ 63/3 ม.10 ต.บางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี

มีผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุเป็นบ้านใต้ถุนสูงบริเวณโต๊ะแคร่ขนาดใหญ่ พบศพ นางเสนาะ น้ำค้าง อายุ 52 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงบริเวณใต้ถุนบ้าน ตรวจตามร่างกายไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง สาเหตุจากหัวใจล้มเหลว สอบสวนนางพร้อม คำเจริญ อายุ 86 ปี แม่ผู้เสียชีวิต ทราบว่านางเสนาะบ่นว่าอากาศร้อนมาก และมีอาการหงุดหงิด ตนจึงเข้านอนก่อนกระทั่งเช้าพบนางเสนาะเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่สันนิษฐานอากาศคงร้อนจัดหัวใจล้มเหลว ญาติไม่ติดใจจึงมอบศพไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์