พาณิชย์หมดแรงกดราคาสินค้า

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า
 
จากการตรวจสอบสินค้าในตลาด และซูเปอร์มาร์เกตพบว่า สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น สบู่ ผงซักฟอก ยาสีฟัน ยาสระผม ยังมีราคาสูง และไม่ได้ปรับลดจริงตามต้นทุนการผลิตและราคาน้ำมันที่ลดลง
แต่ผู้ผลิตกับร้านค้าจะใช้วิธีจัดกิจกรรมส่ง เสริมการตลาด (โปรโมชั่น) ลดราคาเป็นครั้งคราว แทนการลดราคาอย่างแท้จริงจากผู้ผลิตสินค้า เช่น ต้องซื้อสินค้าทีละหลายชิ้นถึงได้ราคาโปรโมชั่น จัดซื้อ 1 แถม 1 หรือกำหนดช่วงเวลาซื้อเป็นบางช่วง ส่งผลให้ประชาชนต้องใช้จ่ายเงินเพิ่ม โดยไม่จำเป็น เพื่อแลกกับการซื้อสินค้าราคาถูก
 
นอกจากนี้กลุ่มสินค้ากลุ่มของใช้ประจำ วันมีราคาลดลงเพียงแค่ 30-50 สต.เท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการขยับขึ้นราคาเกินครั้งละ 1 บาท และหลายรายการมีการปรับลดราคาช้ากว่าที่ควรเป็น เช่น ข้าวสารบรรจุถุงที่อ้างว่ามีสต๊อกสินค้าเก่าเหลืออยู่มาก
 
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มว่า

ประชาชนเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์ เพิ่มความเข้มข้นในการแก้ปัญหามากกว่านี้ เพราะถ้าปล่อยให้ใช้วิธีโปรโมชั่นลดราคา ก็เหมือนกับการตบตาไม่ใช่ลดจริง โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยจะประสบปัญหาซื้อสินค้าราคาแพงกว่า เพราะไม่มีทุนเพียงพอซื้อของเก็บไว้ทีละหลายชิ้น และผลประโยชน์จะตกกับผู้ผลิตและห้างสรรพสินค้า ที่มียอดขายเพิ่มและได้เงินหมุนเวียนเร็วขึ้น โดยขณะนี้วัตถุดิบหลายชนิดปรับราคาลดลงมา รวมทั้งได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลง จึงไม่น่ามีข้ออ้างที่จะไม่ลดราคาได้

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการ    ค้าภายใน กล่าวว่า

ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา พบว่ามีสินค้าปรับราคาลดลง 29 รายการ เช่น นมสด (250 ซีซี) แพ็กละ 6 กล่อง จาก 58.15 บาท เหลือ 56.50 บาท กาแฟผงสำเร็จรูป (200 กรัม) จาก 128.80 บาท เหลือ 127.38 บาท ข้าวหอมมะลิ 5% (5 กก.) จากถุงละ 222 บาท เหลือถุงละ 197 บาท ผงซักฟอก (700 กรัม) จากถุงละ 59.50 บาท เหลือ 56.75 บาท ผ้าอนามัย 20 ชิ้น จากห่อละ 41.75 บาท เหลือ 39.50 บาท
 
ยาสีฟัน (200 กรัม) จากหลอดละ 45.90 บาท เหลือ 45.50 บาท ปุ๋ยเคมี สูตร 16-20-0 กระสอบละ 1,155 บาท เหลือ 1,052 บาท สูตร 46-0-0 กระสอบละ 1,350 บาท เหลือ 991.88 บาท อาหารสัตว์-อาหารไก่ จากถุงละ 467 บาท เหลือ 441 บาท และอาหารหมู ถุงละ 451 บาท เหลือ 434.63 บาท
 
“ยอมรับว่า สินค้าบางรายการที่ปรับลดราคา เป็นเพราะการจัดกิจกรรมของห้าง ซึ่งต่อไปเราจะเข้มงวดต่อราคาสินค้าปลายทางมากขึ้น เพื่อดูแลราคาสินค้าให้สอดคล้องกับความเป็นจริง จากเดิมที่เน้นราคาหน้าโรงงาน ก็จะเข้าไปดูราคาขายปลีกควบคู่ไปด้วย หรือการดูแลความเหมาะสมตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง”

 
ทั้งนี้การหารือร่วมกับห้างสรรพสินค้า เพื่อขอให้ปรับลดราคาอาหารสำเร็จรูป หรืออาหารจานเดียว ที่จำหน่ายในฟู้ดคอร์ตลง พบว่า

ห้างที่ยังไม่มีการปรับราคาลงมาให้ คือห้างเซ็นทรัล จึงได้ขอความร่วมมือ ซึ่งเซ็นทรัลรับปากจะปรับราคา อาหารในฟู้ดคอร์ตลงให้ ส่วนห้างอื่นเช่น บิ๊กซี แม็คโคร เทสโก้โลตัส คาร์ฟูร์ ปรับราคาอาหารจานเดียวลงแล้วเหลือ 30-35 บาท จากเดิมที่ 40 บาท ขณะที่ห้างเดอะมอลล์ จะเรียกมาหารือให้ปรับลดราคาลงมาในวันที่ 11 ธ.ค. นี้ นอกจากนี้ ยังขอให้ห้างเซ็นทรัล จัดพื้นที่โปรโมชั่นพิเศษ เพื่อจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปในราคาจานละ 25 บาท หรือมุมธงฟ้า ไว้เป็นทางเลือกให้ประชาชน ซึ่งกำหนดเปิดให้บริการปลายธ.ค.นี้
 
“ราคาจำหน่ายอาหารภายในฟู้ดคอร์ต ของเซ็นทรัลจะอยู่ที่ 35-40 บาท เราก็ขอให้ปรับลดราคาลงมา 5 บาท ทางห้างรับปากว่าจะดำเนินการให้ ซึ่งผมต้องการให้ราคาอาหารสำเร็จรูปลดทั้งกระดาน เพราะอาหารในฟู้ดคอร์ต จะเป็นตัวชี้นำราคาอาหารสำเร็จรูปในท้องตลาดทั่วไปด้วย”.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์