พอร์เช่ เปิด Cayenne ใหม่ พร้อมลุย

พอร์เช่ เปิดตัวรถสปอร์ตเอสยูวีเจนเนอเรชั่นที่ 2 ใหม่ล่าสุด


"คาเยนน์, คาเยนน์ เอส และ คาเยนน์ เทอร์โบ" โฉมใหม่ที่มีการขับเคลื่อนทรงพลังมากยิ่งขึ้น ด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบป้อนเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง (direct gasoline injection engine)

โดยเครื่องยนต์ชนิดนี้รู้จักกันดีในการใช้กับรถ พอร์เช่ ภายใต้ชื่อ ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ (Direct Fuel Injection หรือ DFI) ที่ทำให้มีการเผาผลาญเชื้อเพลิงต่ำลงจากเครื่องยนต์ระบบหัวฉีดทั่วไปมากกว่า 8 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้น ในขณะขับขี่จริงยังสามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้มากถึง 15 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย

คาเยนน์รุ่นมาตรฐาน มีกำลังสูงสุด 290 แรงม้า


จากเครื่องยนต์ 6 สูบ ที่เปลี่ยนจากเครื่องยนต์ขนาด 3.2 ลิตร เป็นขนาด 3.6 ลิตร จึงทำให้กำลังบิดสูงสุดของ คาเยนน์ ได้เพิ่มจาก 310 นิวตันเมตร เป็น 385 นิวตันเมตร

และสามารถทำอัตราเร่งจาก 0 100 ก.ม./ชม. ภายในเวลาเพียงแค่ 8.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 227 ก.ม./ ชั่วโมง ขณะที่รุ่นเดิมใช้เวลา 9.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 214 ก.ม./ ชั่วโมง

ด้วยการใช้ระบบวาล์วแปรผัน "VarioCam Plus"


ทำให้เครื่องยนต์ V8 ใน คาเยนน์ เอส มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 4.8 ลิตร พร้อมสร้างแรงบิดสูงสุดที่ 500 นิวตันเมตร(จากรุ่นก่อนที่มีแรงบิด 420 นิวตันเมตร) และพละกำลังขนาด 385 แรงม้า

ซึ่งหมายถึงการทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 6.6 วินาที ขณะที่อัตราเร่งสูงสุดอยู่ที่ 252 กม./ชม. เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิมใช้เวลา 6.8 วินาทีและความเร็วสูงสุดที่ 242 ก.ม./ ชั่วโมง

ในด้านสมรรถนะของ คาเยนน์ เทอร์โบ โฉมใหม่


ก็น่าประทับใจยิ่งขึ้น ด้วยพละกำลังของเครื่องยนต์ที่มากกว่ารุ่นเดิมถึง 50 แรงม้า จากเครื่องยนต์ 8 สูบ ที่เพิ่มความทรงพลังด้วยระบบอัดอากาศทวินเทอร์โบ แบบควบคุมไอเสียที่รีดพลังได้สูงสุดถึง 500 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 700 นิวตันเมตร (จากเดิม 620 นิวตันเมตร)

ทั้งนี้ คาเยนน์ เทอร์โบ สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 ก.ม./ชั่วโมง ได้ในเวลาเพียงแค่ 5.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 275 ก.ม./ ชั่วโมง เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิมที่ใช้เวลา 5.6 วินาทีสำหรับความเร็ว 0-100 ก.ม./ ชั่วโมง และมีความเร็วสูงสุดที่ 266 ก.ม./ ชั่วโมง

สำหรับ คาเยนน์ เทอร์โบ


ยังสามารถปรับระดับระบบกันสะเทือนด้วย PASM (Porsche Active Suspen-sion) ซึ่งเป็นการปรับระดับของช่วงล่างด้วยแรงดันลม พอร์เช่ ยังเพิ่มจุดที่แตกต่างไปจากรุ่นก่อนด้วยระบบควบคุมการทรงตัวแบบใหม่ PDCC (Porsche Dynamic Chassis Control)

ซึ่งทำให้การทรงตัวขณะขับมีประสิทธิภาพดีขึ้น เทคโนโลยีกันโคลงนี้ สามารถติดตั้งได้ทั้ง คาเยนน์ และ คาเยนน์ เอส ซึ่งจะช่วยควบคุมทิศทางและการทรงตัวได้ตลอดการขับขี่ทุกสถานการณ์

ขอขอบคุณ :


ข้อมูลข่าวคุณภาพ
จากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
and Special Thanks
Photo by Porsche

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์