พลเมืองดีเก็บเงินล้านตามหาเจ้าของ ตั้งใจทำความดีถวายในหลวง

ในเวลา 15.15 น. วานนี้ ที่กองอำนวยการร่วมถวายความอารักขาและรักษาความปลอดภัยโรงพยาบาลศิริราช

พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.7 ได้รับแจ้งจาก น.ส.ดรุณี มีสุวรรณ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ซอยลาดพร้าว 138 (มีสุข) แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ ได้เก็บเงินสกุลยูโร มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท จึงนำมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหาเจ้าของ โดย น.ส.ดรุณีเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยเพื่อนเดินทางมาลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ จากนั้นได้ไปซื้อยาที่ร้านวิวัฒน์เภสัช (15) บริเวณท่าเรือศิริราช ระหว่างนั้นได้พบกระเป๋าหนังสีดำตกอยู่ที่พื้น จึงเก็บมาเปิดดู ต้องตกใจเพราะมีเงินเป็นจำนวนมาก จึงแจ้งกับนางอุไรวรรณ เลิศบรรณพงษ์ เจ้าของร้านให้ทราบ และมอบกระเป๋าเงินดังกล่าวไว้ให้ จากนั้นได้กลับบ้านไป 

วันต่อมาตนโทรศัพท์มาสอบถามที่ร้านดังกล่าวได้รับคำตอบว่า ยังไม่มีใครติดต่อมา จึงได้นำเงินดังกล่าวมามอบให้กับ พล.ต.ต.วิทยา เพื่อให้ติดตามหาเจ้าของต่อไป 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่รู้สึกอยากได้เงินจำนวนมากมายขนาดนี้บ้างหรือ

น.ส.ดรุณีกล่าวว่า ต้องคิดถึงอกเขาอกเราว่า หากตนทำเงินจำนวนมากหายไปจะต้องได้รับความเดือดร้อนแน่ๆ และที่สำคัญก่อนหน้านี้ได้ไปลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าจะทำความดีเพื่อในหลวง จึงไม่ต้องการที่จะนำเงินจำนวนมากนี้ไว้ เป็นของตัวเอง แต่อยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศหาเจ้าของเพราะเข้าใจว่าเขาคงเดือดร้อนอย่างแน่นอน ขณะที่นางอุไรวรรณ เจ้าของร้านวิวัฒน์เภสัช (15) กล่าวว่า ยังไม่มีใครติดต่อเข้ามาที่ร้าน คาดว่าเงินจำนวนนี้น่าจะเป็นของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ เพราะก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาซื้อยาในร้าน จึงได้ติดต่อกับ น.ส.ดรุณี เป็นผู้นำเงินมามอบให้กับตำรวจเพื่อติดตามหาเจ้าของตัวจริงต่อไป

ประกาศแป๊บเดียวเจ้าของเงินโผล่

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.7 ประกาศผ่านสื่อให้เจ้าของเงินจำนวนดังกล่าวติดต่อกลับมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่ สน.บางกอกน้อยแล้ว ปรากฏว่าในเวลา 18.00 น. นางจันทนา ภู่บัวเผื่อน อายุ 65 ปี อยู่หมู่บ้านพิพรพงษ์ ย่านดอนเมือง ก็ได้เดินทางมาพร้อมนางศรีศิริ ปุตระเศรณี อายุ 67 ปี เข้าพบ พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ สุวรรณรัต พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.บางกอกน้อย เพื่อติดต่อขอรับเงินล้านกว่าบาทที่ทำตกไว้  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำเข้าสอบปากคำหารายละเอียดข้อเท็จจริง

ระหว่างนั้นนางศรีศิริ เพื่อนสนิทได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า

เมื่อวันที่ 29 ต.ค. เป็นวันเกิดของกลุ่มเพื่อนจึงตะลอนกินเที่ยวไปเรื่อย ก่อนมาร่วมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ที่ รพ.ศิริราช พอกลับบ้านถึงทราบกระเป๋าใส่เงินหายไป ซึ่งปกตินางจันทนาจะอยู่บ้านเฉยๆ มีลูกสาวไปเปิดร้านอาหารไทยที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และส่งเงินมาให้แม่เสมอ เมื่อได้รับเงินมาแล้วนางจันทนามักจะเก็บติดตัวตลอดเวลา เพราะกลัวขโมย ประกอบกับค่าเงินบาทแข็งจึงยังไม่อยากแลก ตอนทราบว่าเงินหาย นางจันทนาถึงกับมีอาการความดันขึ้น เพราะเป็นเงินจำนวนมูลค่านับล้านบาท ไม่ทราบว่าหล่นไปตอนไหน แต่ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สน.ดอนเมือง กระทั่งทราบข่าวมีพลเมืองดีเก็บได้ จึงรีบเดินทางมาแสดงตัว เมื่อตรวจสอบแน่ชัดแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้นางจันทนาไป โดยมี น.ส.ดรุณี มีสุวรรณ พลเมืองดีที่เก็บเงินได้มาเป็นพยานและไม่ประสงค์จะรับรางวัลใดๆ ทั้งสิ้น.