พลิกคดีหมูแฮมคลั่ง ซิ่งเบนซ์-ขยี้คน

จะเรียกว่าเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอาจจะไม่ถนัดปากนัก

กับเรื่องราวของ"หมูแฮม"นาย กัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ อายุ 21 ปี ลูกชาย นายกัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ นักธุรกิจและ นางสาวิณี ปะการะนัง อดีตนางสาวไทยที่ตกเป็นข่าวอีกครั้งเมื่อขับรถเก๋งชนกับรถปอ. เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมานี้เองแม้ครานี้จะไม่มีเหตุรุนแรงต่อเนื่องเหมือนเมื่อกลางปีที่แล้ว ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย จากการที่นายกัณฑ์พิทักษ์ ขับรถเบนซ์เฉี่ยวชนกับรถปอ.เช่นกัน แล้วเกิดคลั่งทำร้ายโชเฟอร์คู่กรณีบาดเจ็บก่อนขับรถเบนซ์คันหรูพุ่งเข้าชนประชาชนจำนวนมาก ที่ยืนรอรถเมล์อยู่บนฟุตปาธป้ายรถประจำทางใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

จากคดีนี้นายกัณฑ์พิทักษ์ ถูกแจ้งข้อหาหนัก 3 ข้อหา

ประกอบด้วยทำร้ายร่างกาย ฆ่าคนตาย และพยายามฆ่าอัยการพิจารณาสั่งฟ้องไปเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมาหลังจากนั้นเพียงสัปดาห์เดียวนายกัณฑ์พิทักษ์ ก็ขับรถเฉี่ยวชนกับรถปอ.อีกรอบ!??นายกัณฑ์พิทักษ์ ต้องตกเป็นข่าวพาดหัวอีกครั้ง หลังขับรถเก๋งเฉี่ยวชนกับรถประจำทางปรับอากาศ(ปอ.) สาย 545 สีขาวคาดน้ำเงิน หมายเลขข้างรถ 126-4 วิ่งระหว่างนนทบุรี-สำโรง บนถนนลาดพร้าว เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา

จริงๆ แล้วอุบัติเหตุครั้งนี้จะไม่น่าสนใจเลย

เนื่องจากเป็นการเฉี่ยวชนเพียงเล็กน้อย แต่ที่ถูกจับตาเนื่องจากคู่กรณีของรถปอ.คือนายกัณฑ์พิทักษ์ จำเลยคดีฆ่าและพยายามฆ่า จากการขับรถเบนซ์ไล่ทับคนตาย-เจ็บจำนวนมาก เป็นข่าวใหญ่สะท้านไปทั้งสังคม เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2550

วันเกิดเหตุนายสำเริง โชเฟอร์รถปอ.สาย 545 ขับรถจากต้นทาง จ.นนทบุรี มุ่งหน้าไปสำโรง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งขับอยู่เลนซ้าย ปรากฏว่ามีรถเก๋งฮอนด้าแอคคอร์ด สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน 9ธ-7617 กทม. พุ่งเข้าชนบริเวณด้านข้าง

โชเฟอร์รถปอ. ลงมาดูความเสียหายขณะที่คนขับรถเก๋งยังนั่งนิ่งอยู่ในรถที่ติดฟิล์มสีดำมืด!!!

แม้จะตะโกนและเคาะกระจกเรียกแต่ไม่มีการตอบรับจากคนภายในรถเก๋ง ขณะเดียวกันการจราจร เริ่มติดขัดยาวเหยียดเนื่องจากรถทั้ง 2 คันขวางอยู่กลางถนน

ส.ต.อ.คฤโฆษ เยี่ยงกาย ผบ.หมู่ จร.สน.โชคชัย ที่อำนวยการจราจรอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้รับแจ้งจึงรีบมาดู และต้องรออีกพักใหญ่คนในรถถึงยอมเปิดประตูออกมา

ตำรวจจำหน้าได้ทันทีว่าคนขับคือนายกัณฑ์พิทักษ์!!!

อย่างไรก็ตามนายกัณฑ์พิทักษ์ ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไร

 นอกจากนั่งนิ่งๆ ในรถ บอกเพียงว่ารู้จักนายตำรวจใหญ่ส.ต.อ.คฤโฆษ ตัดสินใจนำตัวนายกัณฑ์พิทักษ์ ออกมาและให้ไปนั่งเบาะด้านซ้าย ก่อนที่จะขับรถเก๋งฮอนด้าไปที่ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร บก. น.4 บริเวณใต้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์เมื่อมาถึงศูนย์ฯ นายกัณฑ์พิทักษ์ก็ยังไม่ยอมพูดจาใดๆ เจ้าหน้าที่จึงพาตัวเข้าไปนอนพัก สงบสติอารมณ์ก่อน จนผ่านไปเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ถึงยอมให้เบอร์โทร.ติดต่อนายกัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ บิดา

ต่อมาไม่นานนายกัณฑ์เอนก พร้อมเพื่อนอีกคนมาเจรจากับคู่กรณีโดยยอมรับผิดและจ่ายเงินค่าเสียหายจำนวน 2,000 บาท ก่อนแยกย้ายกันไป

แม้เหตุการณ์ครานี้จะไม่รุนแรงและไม่ใช่เรื่องใหญ่โต

แต่เพราะคนขับรถเก๋งคือนายกัณฑ์พิทักษ์ มิใช่วัยรุ่นที่ขับรถเฉี่ยวชนธรรมดา แต่เพราะในอดีตเคยก่อเหตุรุนแรงไว้ และคดีเพิ่งขึ้นสู่การพิจารณาในชั้นศาลจึงถูกจับตาและตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงเป็นพิเศษ

สําหรับนายกัณฑ์พิทักษ์ ก่อเหตุสะเทือนขวัญและเกรียวกราวที่สุดครั้งหนึ่งในรอบปี 2550 หลังขับรถเบนซ์คันงามมาพร้อมกับน้องสาว แล้วเฉี่ยวชนกับรถโดยสารปรับอากาศสาย 513 ที่มีนาย สถาพร อรุณศิริ เป็นคนขับ บนถนนสุขุมวิท

จากการสอบสวนของตำรวจและพยานหลักฐานต่างๆ ได้ความว่า

นายกัณฑ์พิทักษ์ ขับรถเบนซ์ปาดหน้าให้รถปอ.จอด แล้วลงไปต่อว่าเรื่องที่ขับรถเฉี่ยวแล้วหลบหนี แต่นายสถาพร อ้างว่าไม่รู้ว่าเฉี่ยว แล้วก็ออกรถไปจนเมื่อมาถึงหน้าปากซอยสุขุมวิท 26 นายกัณฑ์พิทักษ์ ขับรถแซงขึ้นไปแจ้งตำรวจให้สกัดจับ

เจ้าหน้าที่จึงโบกเรียกและให้ทั้ง 2 ฝ่ายลงมาเจรจากัน แต่กลับกลายเป็นโต้เถียงกันแทน

ห้วงนั้นเองนายกัณฑ์พิทักษ์ ที่เตรียมก้อนหินซ่อนไว้ด้านหลัง

ใช้ก้อนหินทุบเข้าแสกหน้านายสถาพร จนเลือดอาบ ต่อหน้าต่อตาตำรวจและผู้โดยสารจำนวนมาก!!!นายกัณฑ์พิทักษ์ กลับไปนั่งในรถเบนซ์ด้วยสีหน้าเดือดดาล เพราะถูกผู้โดยสารที่ต้องเสียเวลาต่อว่าอย่างไม่พอใจ และบางคนก็ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ด้วยสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อจู่ๆ นายกัณฑ์พิทักษ์ ที่นั่งอยู่ในรถก็เร่งเครื่องพุ่งเข้าชนผู้โดยสารที่รอถ่ายรถอยู่บนฟุตปาธริมถนนรถเบนซ์พุ่งเข้าหากลุ่มคนและทับ 3 คนติดอยู่ใต้ท้องรถ!!!

พยานจำนวนมากบอกให้นายกัณฑ์พิทักษ์ ถอยรถออกไปเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ

แต่ไม่มีการตอบรับใดๆ ทำให้ฝูงชนเกิดความไม่พอใจรุมทุบรถจนพังเสียหายกระทั่งตำรวจและหน่วยกู้ภัยเดินทางมาถึงเข้าห้ามปราม ภาพที่เห็นคือนายกัณฑ์พิทักษ์ นั่งตัวเกร็งมือหงิกอยู่หลังพวงมาลัยรถเบนซ์

เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บราวๆ 10 คน

มี 3 คนที่ถูกทับบาดเจ็บสาหัส และหนึ่งในนั้นคือนางสายชล หลวงแสง พนักงานการเงินขสมก. เสียชีวิตในเวลาต่อมา!!!เรื่องราวยิ่งบานปลายหนักขึ้นกับท่าทีของนายกัณฑ์เอนก บิดา เพราะแสดงความไม่พอใจพนักงานขสมก. ทำนองว่าไร้การศึกษา และยังประกาศเอาเรื่องคนที่ทำลายรถเบนซ์ด้วยกระแสยิ่งโหมถล่มหนักขึ้นจนสุดท้ายนายกัณฑ์เอนก ต้องเอ่ยปากขอโทษ

ขณะที่นางสาวิณี มารดาพยายามแก้ปัญหาด้วยการดูแลคนเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต

แต่ก็มีการร้องเรียนว่าบางคนก็ไม่ได้รับการใส่ใจด้านตำรวจสน.ทองหล่อ เจ้าของคดีก็ถูกจับตาเช่นกัน เพราะผู้ต้องหาคดีนี้ถือว่าเป็นกลุ่มไฮโซ ฐานะร่ำรวยและยังมีญาติเป็นนายทหาร-นายตำรวจใหญ่หลายคนอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างตรงไปตรงมาแจ้ง 3 ข้อหากับนายกัณฑ์พิทักษ์ ประกอบด้วยทำร้ายร่างกาย ฆ่าคนตาย และพยายามฆ่า

นายกัณฑ์พิทักษ์ สารภาพเพียงข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่อีก 2 คดีปฏิเสธ

ฝ่ายครอบครัวนายกัณฑ์พิทักษ์

พยายามออกมาอ้างว่านายกัณฑ์พิทักษ์ มีอาการป่วยทางจิต ถึงขั้นเข้ารักษาตัวในร.พ.มาแล้ว!??แต่แพทย์ออกมาชี้แจงว่านายกัณฑ์พิทักษ์ เป็นเพียงผู้ป่วยนอก และไม่เข้าข่ายมีปัญหาทางจิต แต่เป็นปัญหาทางอารมณ์เพราะโกรธง่ายและบางครั้งจะควบคุมตัวเองไม่ได้ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานจนแน่ชัด ส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกา ยน 2550 มีความเห็นสั่งฟ้อง

อัยการนำสำนวนการสอบสวนมาพิจารณาอย่างละเอียดก่อนมีคำสั่งเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา ส่งฟ้องนายกัณฑ์พิทักษ์ ใน 3 ข้อหาที่พนักงานสอบสวนตั้งไว้

นายบำรุงชัย แสนสุข อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา กรุงเทพใต้ 7 (พระโขนง) ระบุว่า

ที่มีการพิจารณาสั่งคดีล่าช้า เนื่องจากต้องรวบรวมพยานหลักฐานอย่างรัดกุม เพราะหลังเกิดเหตุนายกัณฑ์พิทักษ์ได้ถูกส่งตัวไปรักษาที่สถาบันกัลยาราชนครินทร์ จึงต้องให้พนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อ สอบสวนพยานเพิ่มเติมวันนั้นนายกัณฑ์พิทักษ์ พร้อมด้วยบิดา-มารดาเดินทางมาฟังคำสั่งอัยการก่อนประกันตัวออกไป

ระหว่างที่อยู่สำนักงานอัยการ นายกัณฑ์พิทักษ์ มีสีหน้าสดใสพร้อมทั้งยกมือไหว้ทำนองขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด

ทว่าหลังจากนั้นเพียง 1 สัปดาห์ นายกัณฑ์พิทักษ์ ก็ขับรถเก๋งประสบอุบัติเหตุชนกับรถปอ.อีกครั้ง!??

แม้จะสามารถเคลียร์ปัญหากันได้โดยไม่มีอะไรรุนแรง แต่คำถามที่ตามมาก็คือเหมาะสมเพียงใดที่นายกัณฑ์พิทักษ์ ยังสามารถขับรถโฉบเฉี่ยวไปมาบนถนน ทั้งที่ฝ่ายนายกัณฑ์พิทักษ์ ก็พยายามอ้างว่ามีปัญหาทางจิต บางครั้งไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

ครอบครัวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมการขนส่งทางบกที่ดูแลเรื่องใบขับขี่รถยนต์ มิได้หามาตรการป้องกันเลยหรืออย่างไร

เสียงเรียกร้องให้มีคำสั่งห้ามขับรถตลอดชีวิตกระหึ่มไปทั่วสังคม!??

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์