พลายสามพรานเดินทางถึงรพ.ศูนย์อนุรักษ์ช้างแล้ว

ช้างพลายสามพรานเดินทางถึงรพ.ศูนย์อนุรักษ์ช้าง จ.ลำปางแล้ว แพทย์เริ่มรักษาโดยการล้างแผล-เอกซเรย์ เพื่อนำชิ้นเนื้อตรวจสอบ เผย ต้องรีบพักฟื้นร่างกายช้างเร็วสุด เหตุร่างกายซูบผอม โดยการให้อาหารเสริมและยาปฏิชีวนะเพื่อคุมการติดเชื้อที่เท้า แต่ช้างไม่หายปกติ ต้องเป็นช้างพิการตลอดชีวิต
 

เช้าวันนี้(6มีค.)คณะสัตวแพทย์จากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมแพทย์โรงพยาบาลศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยและควาญช้าง

ได้นำช้างพลายสามพราน อายุ 7 ปี น้ำหนัก 1.2 ตัน ซึ่งเป็นช้างป่าอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาใน จ.ฉะชิงเทรา ประวัติมีบาดแผลอักเสบที่เท้าข้างขวา ซึ่งผิดรูปและมีเนื้องอกขนาดใหญ่ ร่างกายซูบผอม ได้เดินทางโดยรถบรรทุกสิบล้อถึงโรงพยาบาลศูนย์อนุรักษ์ช้าง ถนนลำปาง-เชียงใหม่ ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง
 

หลังจากทางสัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชและสัตว์

ได้ตัดสินใจนำช้างพลายสามพรานออกเดินทางจาก จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 มี.ค.2551 ที่ผ่านมา เพื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์อนุรักษ์ช้าง ซึ่งหลังเดินทางถึง ทางสัตวแพทย์ได้นำช้างพลายสามพราน ลงจากรถ และนำเข้าไปภายในโรงเรือน และทำการล้างบาดแผลที่เท้าข้างขวา ซึ่งมีเนื้องอกขนาดใหญ่และมีบาดแผลอักเสบของช้างพลายสามพรานทันที และทำการเอกซเรย์นำชิ้นเนื้อไปตรวจสอบ
 

นายสามารถ สุมโนจิตราภรณ์ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานสัตวป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า

หลังจากคณะสัตวแพทย์ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีการประชุมเกี่ยวกับการรักษาช้างพลายสามพราน ซึ่งสรุปว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำช้างพลายสามพรานมารักษาที่โรงพยาบาลศูนย์อนุรักษ์ช้างแห่งนี้ เนื่องจากโรงพยาบาลแห่งนี้ มีความพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นสัตว์แพทย์ อุปกรณ์ การแพทย์ ที่ทันสมัย รวมทั้งสถานที่ หากปล่อยช้างไว้ที่เดิมอาการและร่างกายก็จะทรุดลงเรื่อยๆและอาจะถึงขั้นเสียชีวิต จึงตัดสินใจนำช้างเข้ารับการรักษาดังกล่าว
 

ด้านนายสัตวแพทย์สิทธิเดช มหาสาวังกุล หัวหน้าฝ่ายการแพทย์ของโรงพยาบาลช้างศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เปิดเผยว่า

แนวทางการรักษาช้างพลายสามพราน ก่อนหน้าที่จะขนย้ายพลายสามพรานมา ทางสัตวแพทย์ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ตรวจเบื้องต้นแล้ว แต่เนื่องจากช้างอยู่ในป่า การทำแผลหรือใส่ยาค่อนข้างลำบากและได้นำชิ้นเนื้อไปตรวจที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้ว
 

สำหรับเนื้อที่งอกออกมาไม่ใช่เนื้อมะเร็ง แต่เป็นลักษณะเนื้องอก เป็นการงอกของเซลล์กระดูกปนเนื้อออกมา
 
ส่วนการรักษาจากประสบการณ์ที่ทางโรงพยาบาลศูนย์อนุรักษ์ช้าง เคยรักษาช้างถูกยิงลักษณะคล้ายกันและทำการักษาค่อนข้างลำบาก เนื่องจากการตัดเนื้อทำให้เลือดออกมากและการห้ามเลือดลำบาก การดูแลหลังผ่าตัดก็ลำบาก อีกอย่าหนึ่งคือช้างสุขภาพไม่ค่อยดี ผอมและโทรมมาก และจากการตรวจเลือดในเบื้องต้นสภาพตับกับไตไม่ค่อยดี ซึ่งการวางยาอาจจะทำให้ช้างไม่ฟื้นขึ้นมาเลยก็เป็นไปได้

สำหรับสิ่งที่ต้องทำคือ การฟักฟื้นช้างให้แข็งแรง โดยการให้อาหารเสริมและให้ยาปฏิชีวนะควบคุมการติดเชื้อที่เท้า

เนื่องจากช้างเชือกนี้อยู่ในป่าอยู่กับดินตลอด ทำให้เกิดการติดเชื้อตลอดเวลา ทำให้เท้าอักเสบและบวมขึ้นเรื่อยๆ ส่วนในระยะสุดท้ายช้างเชือกนี้คงจะไม่หายเหมือนช้างปกติ ซึ่งเราจะประคับประคองให้ช้างมีชีวิตยืนนานที่สุดและกระดูกเท้าของช้างคงจะผิดรูปและเป็นช้างพิการ ซึ่งตอนนี้คงฟักฟื้นให้ช้างแข็งแรงอย่างรวดเร็ว
 

ส่วนการดูแลเบื้องต้นต้องทำแผลทุกวัน

ให้สารอาหารพร้อมยาปฏิชีวนะทุกวัน อย่างน้อยเป็นเวลา 1 เดือน และการติดเชื้อไม่มี โดยดูจาการตรวจเลือด หลังจากนั้นระยะยาวถ้าหากดำรงชีวิตอยู่ได้เป็นช้างพิการ ทางโรงพยาบาลศูนย์อนุรักษ์ช้าง จะเลี้ยงช้างไว้แบบกึ่งธรรมชาติ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง ส่วนการผ่าตัดตอนนี้ยังไม่สามารถผ่าตัดได้ เนื่องจากเนื้อมีขนาดใหญ่มาก และเป็นเนื้อปนกระดูก หากตัดไปเลือดก็จะไหลออกมากช้างทรมานมากและมีโอกาสเสียชีวิตสูงหลังจากการวางยา