พระราชทานแนวทาง แก้ไขน้ำท่วม

สร้างความสูญเสียมหาศาลนั้น ล่าสุดที่ จ.สุโขทัย น้ำยมได้ทะลักท่วมบ้านเรือนหลายพื้นที่ โดยตั้งแต่เวลา 02.00 น. วันที่ 23 ส.ค. ระดับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว เนื่อง จากฝนตกหนักติดต่อกันในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ได้ไหลทะลักลงแม่น้ำยม ทำให้น้ำไหลบ่าท่วมในเขต อ.เมืองสุโขทัย จุดที่น้ำท่วมหนักที่สุดคือ ต.ปากแคว ได้ รับความเสียหายอย่างหนัก บ้านเรือนจมอยู่ใต้น้ำ

ช่วงระหว่าง กม.2-กม.5 บ้านท่าพระ ต.ปากแคว น้ำท่วมสูงประมาณ 50-80 ซม. ทำให้การจราจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก รวมทั้ง ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ถูกน้ำท่วมหนักไม่แพ้กันโดยเฉพาะตลาดสดเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี เนื่องจากแนวกระสอบทรายที่เทศบาลวางแนวกั้นไว้บริเวณหลังวัดราชธานี เชิงสะพานพระร่วง ต.ธานี ถูกกระแสน้ำพังทลาย ภายหลัง นายสามัญ รักษ์บริสุทธิศรี นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี สั่งระดมเจ้าหน้าที่ขนกระสอบทรายมาวางเสริมในส่วนที่พังจนสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ในที่สุด

เรื่องฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในพื้นที่อาจจะทำให้น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก เพราะขณะนี้ความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาวตอนบน ทำให้ ภาคเหนือมีฝนตกหนาแน่นในหลายพื้นที่ต่อเนื่องไปอีก 1-2 วันนี้ จึงขอให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ลุ่ม ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ด้วย โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.ทับคล้อ อ.วังทรายพูน กิ่ง อ.สากเหล็ก และ อ.ดงเจริญ

เกิดบาดแผลจากของมีคมและป่วยเป็นโรคน้ำกัดเท้าจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ ต.น้ำปั้ว อ.เวียงสา มีชาวบ้านมาขอคำปรึกษาจากแพทย์หน่วยเคลื่อนที่ที่มาตั้งเต็นท์ที่ ต.น้ำปั้ว จำนวนมาก ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้พบกับนายถนอม เซียนปัญญา และนายสวาท วิชาญา ที่อยู่ริมแม่น้ำน่าน บ้านน้ำปั้ว พร้อมเปิดเผยว่า บ้านของทั้งสองอยู่ถูกน้ำพัดหายไปทั้งหลัง ตอนนี้กำลังเดือดร้อนอย่างหนักเพราะไม่มีที่อยู่อาศัย

ชาวบ้านต่างทำความสะอาดบ้านเรือนโดยมีทหารมาช่วยทำความสะอาดบ้านเรือนและสถานที่ราชการด้วย ขณะเดียวกัน นายพิทยา สังฆนาคิน รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และคณะได้ไปตรวจสภาพเรือนจำจังหวัดน่านหลังน้ำลด พบว่ากำแพงของเรือนจำมีรอยร้าวหลายแห่ง จึงสั่งให้วิศวกรของกรมฯมาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ส่วนผู้ต้องขังทั้งหมดได้อพยพไปฝากขังไว้ที่เรือนจำจังหวัดแพร่แล้ว

นำโดยนายสมศักดิ์ ปาลวัฒน์ ผจก.มูลนิธิฯ นายวีระวัฒน์ อนุชิตไพลิน หน.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ นำอาสาสมัครของมูลนิธิฯร่วมกับดารารวมกว่า 100 คน นำเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกผู้ประสบภัย 4 หมู่บ้านใน ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ทั้งหมด 852 ครอบครัว โดยนายวีระวัฒน์เปิดเผยว่า ขณะนี้น้ำได้ลดลงสู่ภาวะปกติแล้ว ชาวบ้านเริ่มทำความสะอาดบ้านเรือน วัด และสถานที่ราชการ แต่ปัญหาขณะนี้ชาวบ้านเริ่มเป็นโรคน้ำกัดเท้ากันมาก คงต้องหาทางช่วยเหลืออีกครั้ง

จากปัญหาน้ำท่วม จ.น่าน ครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาใน อ.เชียงกลาง กับ อ.ท่าวังผา ทำให้ต้องจ่ายน้ำเป็นเวลาเช้ากับเย็นนั้น ขณะนี้ กปภ.สามารถบริการน้ำประปาให้ ประชาชนได้ตามปกติแล้ว รวมทั้งพื้นที่ อ.ปง จ.พะเยา ด้วย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นห่วงปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในช่วงตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่าน ทั้งในพื้นที่ จ.ชุมพร, อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์, และล่าสุดที่ จ. น่าน ทั้งนี้ นายดิสธร วัชโรทัย ผู้อำนวยการกองงานส่วนพระองค์ได้ลงพื้นที่เข้าร่วมติดตามสถานการณ์ น้ำท่วมทั้ง 3 พื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อถวายรายงานให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบ ล่าสุดผู้อำนวยการกองงานส่วนพระองค์ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำในภาคเหนือ และสภาพน้ำท่วมโดยทั่วไปที่จะต้องเร่งระบายน้ำในหลายจุด เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางทางน้ำหลายจุด

เมื่อมีเหตุการณ์ภัยพิบัติเกิดขึ้นในประเทศ โดยเฉพาะอุทกภัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ ความสนพระทัยในทุกพื้นที่ หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องจะต้องรายงานข้อมูลให้พระองค์ทรงทราบในทันที ซึ่งเป็น ที่ทราบกันดีว่าพระองค์ทรงพระปรีชาสามารถด้านแผนที่ เมื่อพระองค์ท่านรับทราบข้อมูลแล้วจะทรงนำแผนที่มาวางแผน และพระราชทานแนวทางแก้ไขปัญหาให้หน่วยงานรับไปปฏิบัติ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้มอบให้กรม ชลประทาน พิจารณาทบทวนโครงการเมกะโปรเจกต์ 25 ลุ่มน้ำ เป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงบริเวณลุ่มแม่น้ำน่าน โดยจะนำเสนอแผนต่อที่ประชุมผู้บริหารอีกครั้งในวันที่ 28 ส.ค.นี้ สำหรับสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นพบว่า ด้านการเกษตรมีเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจำนวน 13,783 ราย มีงบประมาณช่วยเหลือประมาณ 44,822,263 บาท

ทางกระทรวงฯได้ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.น่าน โดยจัดส่งยาสามัญประจำบ้าน พร้อมชุดดูแล บาดแผลเบื้องต้นไปอีก 40,000 ชุด ซึ่งจุดวิกฤติที่สุดอยู่ที่ อ.ท่าวังผา ทั้งได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 60 ทีม จากหลายจังหวัดในภาคเหนือ มีแพทย์และพยาบาลกว่า 1,200 คน เข้าไปช่วยบริการทุกอำเภอ โดยเน้นที่ อ.ท่าวังผา 40 ทีม และ อ.เวียงสา 10 ทีม ส่วนยอดผู้ป่วยช่วง 3 วันนี้มีกว่า 6,000 คน โดยปัญหาที่พบมากที่สุด คือการถูกของมีคมบาด

ร่องความกดอากาศต่ำซึ่งพาดผ่านภาคเหนือและตอนบนของประเทศลาวทำให้ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ อ.ทุ่งช้าง อ.บ่อเกลือ จ.น่าน อีก 1-2 วัน นอกจากนี้ น้ำในลุ่มแม่น้ำน่านได้ไหลเข้าท่วม อ.เวียงสา อ.นาน้อย และ อ.นาหมื่นแล้ว ผู้ที่อาศัยอยู่พื้นที่ดังกล่าวควรระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้ด้วย ส่วนภาคใต้ฝังอ่าวไทยและอันดามันมีคลื่นสูง 2 เมตร

หน่วยกู้ภัยมูลนิธิพรานพิทักษ์ จ.นครปฐม ร่วมกับหน่วยกู้ภัยส่วนแยกจังหวัดแพร่ ที่ลงพื้นที่ค้นหาผู้สูญหายจากเหตุน้ำท่วม พบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณสวนลำไย บ้านเลขที่ 76 หมู่ 3 ต.ขึ่ง อ.เวียงสา จ.น่าน สภาพศพเริ่มขึ้นอืด ภายหลัง ร.ต.อ.สมาน ปันซุน ร้อยเวร สภ.อ. เวียงสา มาชันสูตรศพ ทราบผู้ตายชื่อนายเสาร์ สมอินทร์ อายุ 61 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว สอบปากคำญาติทราบว่า ผู้ตายออกไปหาจับจิ้งหรีดในสวนลำไยช่วงที่น้ำท่วมแล้วหายไป กระทั่งน้ำลดลงศพจึงโผล่

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ