“พระราชชนนีภูฏาน”เสด็จไทย ทรงเผยชาวภูฏานนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิต

09.55 น. วันที่ 17 ม.ค. สมเด็จพระราชชนนีดอร์จิ วังโม วังชุก พระอัครมเหสีพระองค์ที่ 1 ใน สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก พระบรมราชชนกในสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏานพระองค์ปัจจุบัน ได้เสด็จมาเยือนประเทศไทยและเสด็จเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์ กรุงเทพ ตามคำกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนของ ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ ผู้ก่อตั้งและประธานคณะกรรมการกลุ่มโรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์ ในการนี้ สมเด็จพระราชชนนีทรงสนทนากับนักเรียนชาวภูฏานที่เรียนที่โรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์ ตลอดจนคณะครูและนักเรียนคนอื่นๆ อย่างไม่ถือพระองค์

 

ในการนี้เสด็จเยี่ยมชมห้องศูนย์ดนตรีและห้องรับรองสำหรับผู้ปกครอง จากนั้น ลงพระนามในหนังสือของโรงเรียน พร้อมกับฉายพระรูป โดยได้เสด็จยังหอประชุมทอดพระเนตรการแสดงรำไทยของนักเรียนนานาชาติ การแสดงดนตรีของนักเรียนนานาชาติรีเจ้นท์ที่ได้รับรางวัลระดับโลก การแสดงของนักเรียนชาวภูฏาน สมเด็จพระราชินีพระราชชนนีทรงมีพระราชดำรัสต่อคณะนักเรียนและคณะครู ความว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาได้มาเยี่ยมชมที่โรงเรียนแห่งนี้ ตั้งแต่แรกเริ่มถึงปัจจุบันมีนักเรียนชาวภูฏานมาเรียนที่โรงเรียนรีเจ้นท์ รวม 54 คน และยังคงศึกษาอยู่ 13 คน ซึ่งเด็กที่มาเรียนที่นี่มีความขยัน เอาใจใส่เป็นอย่างมาก โดยเมื่อเรียนจบแล้วก็จะเตรียมกลับไปช่วยเหลือประเทศ บางคนก็ไปถวายงานกษัตริย์จิกมี

โอกาสนี้ ได้พระราชทานสัมภาษณ์ ถึงเรื่องการศึกษาช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศว่า การศึกษาช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศได้เป็นอย่างดี เนื่องจากไม่ได้มีนักเรียนจากภูฏานมาเรียนที่โรงเรียนรีเจ้นท์เท่านั้น แต่ยังมีเรียนและโรงเรียนอื่นๆ ในกรุงเทพฯ โรงเรียนในแถบภาคเหนือ และยังมาเรียนในระดับมหาวิทยาลัยด้วย ซึ่งโดยมวลรวมของประเทศไทยแล้วเป็นประเทศที่มีความน่าสนใจด้านการศึกษา


“พระราชชนนีภูฏาน”เสด็จไทย ทรงเผยชาวภูฏานนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิต


พร้อมกันนี้ มีรับสั่งถึงความรักที่ชาวภูฏานมีต่อ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ว่า "คนภูฏานมีความรักและเคารพในหลวง รัชกาลที่ 9 เป็นอย่างมาก ซึ่งพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระปรีชาสามารถมาก สิ่งที่ชาวภูฏานนำไปใช้คือหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยนำมาเป็นต้นแบบในการดำรงชีวิต"

สมเด็จพระราชชนนี ให้ความเห็นในเรื่องที่ประเทศภูฏานซึ่งมีอัตราดัชนีความสุขสูงที่สุดในโลก ว่า "ประเทศภูฏานให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพราะความสุขมีความสำคัญ ภูฏานมีอัตราความสุขของประชากรค่อนข้างสูง จึงนำนโยบายนี้ไปปรับใช้ในการศึกษาโดยการเรียนต้องมีความสุขด้วย"

หลังสัมภาษณ์ สมเด็จพระราชชนนี ทรงมีพระจริยวัตรอันนอบน้อม ทรงยกพระหัตถ์ไหว้ และตรัสเป็นภาษาไทยว่า "ขอบคุณค่ะ"


“พระราชชนนีภูฏาน”เสด็จไทย ทรงเผยชาวภูฏานนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิต

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์