พระพยอมปิดวัด3ปีมึนซื้อที่หน้าวัด10ล้านถูกคนร้องโฉนดปลอม



"ลั่นปิดวัน 3ปีประท้วง"


"พระพยอม" มึนซื้อที่ดินหน้าวัด 10 ล้าน แต่กลายเป็นโฉนดปลอม หลังมีคนยื่นคำร้องต่อศาลแสดงตัวเป็นเจ้าของ โวยการซื้อ-ขายออกโฉนดผ่านขั้นตอนถูกต้องจาก จนท.ที่ดิน อัดเจ้าหน้าที่ต้นตอแห่งปัญหา ลั่นปิดวัด 3 ปีประท้วง

พร้อมนัดประชาชนที่ถูกข้าราชการรังแกรวมพลต้านที่วัดสวนแก้ว 9 พ.ย.นี้

กลายเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมาในทันที หลังศาลมีคำสั่งห้ามมูลนิธิวัดสวนแก้วเข้าไปใช้ประโยชน์กับการใช้ที่ดินจำนวน 1 ไร่ที่ซื้อไว้เมื่อปี 2547 เป็นการชั่วคราว เนื่องจากที่ดินดังแปลงนี้มีการออกโฉนดที่ดินทับซ้อน ล่าสุดพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้ออกมายืนยันถึงการซื้อที่ดินผืนดังกล่าวอย่างถูกต้อง และเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมลั่นวาจาประกาศปิดวัด 3 ปี หากไม่ได้รับการเยียวยาจากปัญหานี้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พระพยอม ได้ออกมาเปิดเผยว่า ปัญหาที่ทางวัดเผชิญอยู่ในขณะนี้ คือเรื่องของการออกโฉนดที่ดินทับซ้อนกัน โดยเมื่อปี 2547 ที่ผ่านมา มูลนิธิวัดสวนแก้วได้ซื้อที่ดินบริเวณหน้าวัดเนื้อที่ 1 ไร่ ในราคา 10 ล้านบาท และผ่านขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้องแล้ว แต่ปรากฏว่า ขณะนี้ที่ดินผืนดังกล่าวเกิดปัญหาขึ้น เนื่องจากมีผู้แสดงตนว่าเป็นเจ้าของที่ดินแปลงเดียวกับที่ทางวัดซื้อมา จนกระทั่งศาลได้ออกคำสั่งให้ทางมูลนิธิยุติการใช้ประโยชน์เป็นการชั่วคราวในที่ดินดังกล่าว จนกว่าข้อเท็จจริงจะปรากฏ

"ให้ตรวจสอบความผิดพลาดเกิดจากใคร"


"เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นความเสียหายของทางวัด อยากให้ศาล และกรมที่ดินได้พิจารณาว่าความผิดที่เกิดปัญหา หรือปัญหาทั้งหมดมาจากขั้นตอนใด เพราะที่ดินซื้อกันไปเรียบร้อย หากทางวัดผิดจริงก็ควรที่จะมีการเยียวยา หรือให้ความช่วยเหลือภายใต้แนวทางที่เหมาะสม เพราะขั้นตอนต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดล้วนอยู่แต่ภายใต้แนวทางกระบวนการของรัฐ ถ้าหากโฉนดที่อาตมาได้มานั้นเป็นของปลอมก็ต้องไปตรวจดูว่า ที่มาของความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นจากใคร" พระยอม กล่าว

อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ขณะนี้กำลังประสานงานให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำที่หน่วยงานรัฐในเรื่องของที่ดินมารวมตัวกันที่วัดสวนแก้ว เพื่อสะท้อนปัญหาทั้งหมดให้กรมที่ดินนำไปหาทางแก้ไขต่อไป ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้อธิบดีกรมที่ดิน สอบสวนไปยังเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรีว่า มีความผิดพลาดในสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่ และอยากขอให้รักษาน้ำใจพระที่ทำคุณประโยชน์ให้สังคมบ้าง หากการเรียกร้องไม่ได้ผล ไม่ได้รับการเยียวยา ทางวัดจำเป็นต้องปิดโครงการหลายอย่าง ทั้งให้ทุนการศึกษาเด็กนักเรียนปีละ 2-3 ล้านบาท โครงการช่วยเหลือคนชรา หรือโครงการบวชเณรภาคฤดูร้อน

"กลายเป็นว่ามูลนิธิวัดสวนแก้วซื้อโฉนดปลอม"


"คงต้องหยุดไว้อาลัย ไว้ทุกข์กับข้าราชการไทย ที่ทำให้เกิดความเสียหายแบบนี้ขึ้น วันที่ 9 พฤศจิกายน จะเปิดแถลงข่าวเรื่องข้อเท็จจริงทั้งหมด ขอเชิญคนที่เคยถูกข้าราชการกระทำแบบนี้มาที่วัดสวนแก้ว เพื่อลุกขึ้นต่อสู้กัน ถ้าไม่ยอมไกล่เกลี่ยเยียวยาให้ดี

อาตมาคงต้องเอาโฉนดไปขยายใหญ่ขึ้นป้ายประจานหน้าวัดว่า โฉนดสีดำ โฉนดอัปยศ ออกโดยกรมที่ดินบางใหญ่ อาตมาจะปิดวัด 3 ปี และจะไปปักกลดอยู่หน้าที่ดินบางใหญ่ เพราะอยู่ไม่ได้ มันแสลงใจ ขณะนี้กลายเป็นว่า มูลนิธิวัดสวนแก้วซื้อโฉนดปลอมไปแล้ว ยายใฮสู้มา 27 ปี นางรัตนาสู้มา 11 ปี ถึงได้รับความเป็นธรรม แต่พระพยอมจะขอสู้ 3 ปี" พระพยอม กล่าว

"เจ้าหน้าที่ชอบทำอะไรแบบเดิมๆ ให้ ปชช.เดือนร้อน"


วันเดียวกัน นางรัตนา สัจจเทพ เจ้าของบ้านสีดำที่มีปัญหาต่อสู้กับ กทม.มาเป็นเวลากว่า 11 ปี เดินทางมาที่วัดสวนแก้ว จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาที่ดินที่เกิดขึ้นกับทางมูลนิธิวัดสวนแก้วว่า ทราบเรื่องดังกล่าวจากพระพยอมที่พูดผ่านทางวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ จึงเดินทางมาให้กำลังใจ และสอบถามข้อเท็จทั้งหมด

"เท่าที่ฟังดูปัญหาน่าจะมาจากเจ้าหน้าที่ที่ชอบทำแบบเดิมๆ ชอบสร้างปัญหาให้ประชาชน พอถึงเวลาก็ลอยตัว ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนคือประชาชน วันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ จะมาที่วัดสวนแก้วอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นแนวร่วมกับพระพยอม ท่านทำอะไรก็จะร่วมด้วย" นางรัตนา กล่าว


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์