พบเสมาหินโบราณยุคทวาราวดีอายุ 1,500 ปี

"กราบไหว้บูชา เสมาหิน"


ผู้สื่อข่าวประจำ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านพบใบเสมา ซึ่งเป็นโบราณวัตถุ มีอายุมากกว่า 1,000 ปี ที่บ้านเลขที่ 17 บ้านข้าวหลาม ม.16 ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ที่บ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านของ นางสมพร ภูประเสริฐ อายุ 55 ปี เมื่อเดินทางไปถึงบ้านหลังดังกล่าว

เจ้าของบ้านได้สร้างเพิงพัก มุงด้วยกระเบื้อง แล้วนำใบเสมาที่พบจำนวน 3 ชิ้นไปตั้งไว้ พร้อมทั้งเขียนป้ายติดไว้ว่า หลวงปู่จำพรรษาห้ามจับต้องที่บริเวณหลังบ้าน โดยมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังจัดดอกไม้ธูปเทียน เพื่อนำมากราบไว้บูชาใบเสมา นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงที่ทราบข่าวต่างก็ทยอยเดินทางมากราบไว้จำนวนมากเช่นกัน

"คนโบราณเข้าฝัน"


นางสมพร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมาขณะนำต้นกล้วยไปปลูกที่สวนหลังบ้าน และพอขุดไปสักพัก ก็พบของแข็งคล้ายหินขนาดใหญ่ และมีรูปทรงคล้ายใบโพธิ์ จากนั้นจึงได้เรียกเพื่อนบ้านมาช่วยกันนำขึ้นจากดิน ปรากฏว่าสิ่งที่เห็นนั้นเป็นใบเสมาจำนวน 3 ชิ้น มีขนาดความยาวประมาณ 1 เมตร กว้างประมาณ 50 ซม. หลังจากนั้นไม่นาน มีคนในหมู่บ้านฝันว่า

พบคนโบราณในความฝันและบอกว่าไม่อยากให้มีการเคลื่อนย้ายใบเสมาไปไหน เพราะใบเสมาที่พบนั้นเป็นเจ้าเมืองสมัยก่อนมาขอจำพรรษากับญาติ ตนเองจึงได้ตัดสินใจว่าจะให้ท่านจำพรรษาอยู่ที่บริเวณดังกล่าว โดยทำศาลาขนาดเล็กไว้หลังบ้านใกล้กับสถานที่พบใบเสมา ซึ่งจากออกพรรษาแล้วจึงเชิญท่านไปที่วัด เพื่อให้ชาวบ้านได้สักการบูชาต่อไป

"นับเป็นเสมาหินใหญ่และสำคัญที่สุด"


ด้านพระครูโพธิชยารัตน์ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัยเสมาราม กล่าวว่า ถ้าดูจากประวัติศาสตร์ของ จ.กาฬสินธุ์แล้วในเขตพื้นที่ อ.กมลาไสย ถือเป็นเมืองเก่าและมีร่องรอยของศาสนสถานที่สำคัญหลายแห่ง ซึ่งเป็นศิลปกรรมแบบทวาราวดี โดยเฉพาะใบเสมาที่มีการพบมากที่สุด โดยเฉพาะเมืองฟ้าแดดสงยางนับว่าเป็นแหล่งเสมาหินใหญ่และสำคัญที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกด้วย

ขณะที่นายกิตติศักดิ์ เชื้อจำรูญ นักวิชาการวัฒนธรรม จ.กาฬสินธุ์ หัวหน้าสำนักงานวัฒนธรรม อ.กมลาไสย กล่าวว่า ใบเสมาที่ชาวบ้านพบที่บ้านข้าวหลามนั้น ทางสำนักวัฒนธรรมอำเภอกมลาไสย ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบแล้ว ซึ่งก็พบว่าเป็นใบเสมาในยุคทวาราวดี พุทธศตวรรษ 12-16 มีอายุประมาณ 1,500 ปี ไม่มีภาพจารึกและฐานกลีบบัว ลักษณะนูน สร้างขึ้นด้วยหินทราย โดยพบทั้งหมด 3 ชิ้น สมบูรณ์ 1 ชิ้น ซึ่งจะมีการแจ้งไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อขอเข้าตรวจสอบ ก่อนเคลื่อนย้ายไปเก็บไว้ที่ปลอดภัย และทำหนังสือแจ้งไปยังยังกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุต่อไป


"ถือเป็นโบราณวัตถุที่ล้ำค่า"


นายไพโรจน์ เพชรสังหาร วัฒนธรรม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีชาวบ้านพบใบเสมาในพื้นที่ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์หลายชิ้น โดยไม่ยอมแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ และที่สำคัญมีผู้ที่นำออกนอกพื้นที่โดยไม่ได้ขออนุญาตจำนวนมากเช่นกัน อย่างไรก็ตามอยากฝากเตือนประชาชนที่พบใบเสมาหรือโบราณวัตถุต่างๆ ให้แจ้งไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ใกล้ หรือแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านโดยเร็วที่สุด เพราะใบเสมาถือเป็นโบราณวัตถุที่ล้ำค่า ซึ่งถ้ามีผู้ใดเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ก็เป็นการกระทำผิดกฎหมาย และมีโทษทั้งจำและปรับ

นายไพโรจน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เมื่อปี 2547 ได้มีการขุดค้นพบพระพุทธรูปโบราณปรางค์มารวิชัย ยุคทวาราวดี พุทธศตวรรษที่ 15 ที่บ้านข้าวหลามเช่นกัน ซึ่งพระพุทธรูปสร้างด้วยศิลาทราย สูงประมาณ 120 ซม.ขนาดหน้าตัก 60 ซม.โดยชาวบ้านพบที่ป่าใกล้หมู่บ้าน และนำมาไว้ที่วัดบ้านข้าวหลาม เพื่อสักการบูชาตามความเชื่อ.


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์