พบซากหมูตายในแม่น้ำหวงผู่ของนครเซี่ยงไฮ้เกือบ 6,000 ตัว

พบซากหมูตายในแม่น้ำหวงผู่ของนครเซี่ยงไฮ้เกือบ 6,000 ตัว


เจ้าหน้าที่จีนเปิดเผยว่า จำนวนซากสุกรตายที่พบลอยในแม่น้ำหวงผู่ของนครเซี่ยงไฮ้ เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 6,000 ตัวแล้ว


โดยในแถลงการของทางการนครเซี่ยงไฮ้ระบุว่า ได้เก็บซากหมูจากแม่น้ำหวงผู่แล้วกว่า 5,916 ตัว กระทั่งถึงเมื่อวานนี้ แต่ยืนยันว่าน้ำจากแม่น้ำที่ใช้ผลิตน้ำประปายังคงมีความปลอดภัยตามมาตรฐาน ของทางการ ขณะที่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ใกล้เคียงปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นแหล่งที่มาของซาก หมูเหล่านี้
 

รายงานระบุว่า จนถึงขณะนี้ซากหมูที่ทางการนครเซี่ยงไฮ้นำขึ้นจากแม่น้ำหวงผู่ ซึ่งไหลผ่านเขตซงเจียงและย่านบันด์มีทั้งหมด 5,916 ตัวแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางการระบุว่า มีซากหมูซึ่งเชื่อว่าถูกเกษตรกรทิ้งลงในแม่น้ำหลังจากที่พวกมันตายด้วยโรค จำนวน 2,813 ตัว เมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
 

ทั้งนี้ ทางการนครเซี่ยงไฮ้เชื่อว่าต้นตอของซากหมูเหล่านี้คือเมืองเจียซิง ในมณฑลเจ้อเจียง ที่อยู่ใกล้เคียงซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงหมู แต่ยังไม่ทราบสาเหตุของการเสียชีวิต และได้ส่งเบอร์หูของซากหมูบางตัวให้แก่ทางการเมืองเจียซิง เพื่อระบุที่มาของซากหมูแล้ว


ข่าวดังกล่าวได้สร้างสงสัยให้แก่ผู้ใช้เว็บไซต์เว่ยโปบ้างแล้ว และเริ่มมีการทำแฮชแท็ก "หมูตายแม่น้ำหวงผู่"ลงในคอมเมนต์แล้ว ผู้ใช้รายหนึ่งกล่าวว่า ประชาชนยินดีรับใช้ทางการ แต่อย่าปล่อยให้ประชาชนต้องตายจากเชื้อโรค ส่วนผู้ใช้อีกรายแสดงความเห็นว่า สีของแม่น้ำกำลังจะกลายเป็นสีคล้ายอุจจาระ แม้จะไม่มีหมูตาย ก็แทบจะนำมาดื่มไม่ได้แล้ว


โฆษกเมืองเจียซิง กล่าวว่า ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ที่ซากหมูเหล่านี้มาจากเมืองเจียซิง แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าหมูเหล่านี้ถูกเลี้ยงที่ใด พวกมันจึงอาจมาจากที่อื่นก็เป็นได้  ด้านคณะกรรมาธิการการเกษตรของนครเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยวานนี้ว่า ผลการตรวจสอบเชื้อในห้องแล็บ พบว่าหมูบางตัวมีผลการตรวจหาโรคเซอร์โคไวรัสเป็นบวกซึ่งโรคดังกล่าวมักเกิด กับหมูแต่ไม่มีผลกระทบกับมนุษย์
 

อย่างไรก็ตาม ทางการนครเซี่ยงไฮ้ระบุว่า จำนวนซากหมูที่นำขึ้นจากแม่น้ำเริ่มลดลงแล้ว พร้อมยืนยันว่าคุณภาพน้ำยังอยู่ในระดับมาตรฐานที่ทางการกำหนดไว้และการทดสอบ คุณภาพน้ำในระดับกว้างก็กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ  นอกจากนี้ ทางการยังได้เข้มงวดการตรวจตราตลาดหลายแห่งเพื่อป้องกันไม่ให้มีนำเนื้อหมู ดังกล่าวไปจำหน่ายแก่ผู้บริโภค


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์