ฝนถล่มภาคใต้หนักชาวบ้านเดือดร้อน

สภาพอาการช่วงนี้แปรปรวนหนัก


เมื่อวันที่ 20 ส.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ เรื่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกมากกว่าภาคอื่น ๆ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้ไว้ด้วย
 
นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ประกาศเตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก บริเวณภาคเหนือ 

และขอให้ประชาชนในพื้นที่ภูเขาสูง หุบเขา และหมู่บ้านเสี่ยงภัยดินถล่ม บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ และจังหวัดใกล้เคียงโดยเฉพาะอ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ อ.วังเหนือ เมืองปาน จ.ลำปาง อ.เทิง จ.เชียงราย เฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้  เนื่องจากมีฝนตกหนักและมีปริมาณน้ำฝนสะสมเกิน 100 มิลลิเมตร รวมทั้งได้เกิดน้ำป่าไหลหลากในบางพื้นที่แล้ว ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง ซึ่งอาจเกิดดินไหลมาปิดทับเส้นทาง พร้อมทั้งให้อาสาสมัครเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่มเฝ้าระวังภัยอย่างใกล้ชิดและวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง
  
ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ ล่าสุด ที่ จ.พังงา  หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า ติดต่อกันมาทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน

โดยเฉพาะที่ ต.บางไทร ต.โคกเคียน และ ต.ตลาดใหญ่ โดยเฉพาะใน เขตเทศบาลเมืองตะกั่วป่า ทำให้บ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ระดับบางแห่งสูงเกือบ 2 เมตร ขณะที่ บริเวณการก่อสร้างสะพาน แห่งใหม่ข้ามแม่น้ำเสนา ต้องหยุดก่อสร้างเนื่องจากระดับน้ำได้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนที่หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองตะกั่วป่า ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 100 ซม. ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรไป 1 ช่องทาง

ด้านเจ้าหน้าที่ ยังคงเร่งระดมความช่วยเหลือไปมอบให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง


และขนข้าวของชาวบ้านไปไว้ที่ปลอดภัยแล้ว ล่าสุดดินบนภูเขาสก ต.รมย์มณี อ.กะปง ได้สไลด์มาปิดเส้นทางสาย ตะกั่วป่า- สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เร่งกำลังเปิดเส้นทางโดยด่วน
  
นายวันชัย เชาวนปัญจะ ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า

ตามที่มีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดแถบฝั่งทะเลตะวันตก ตั้งแต่ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ไปถึง จ.ตรัง ทำให้เป็นห่วงว่าอาจเกิดภาวะน้ำท่วม และเกิดดินถล่มในหลายพื้นที่ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติด ตามสถานการณ์ ปริมาณน้ำฝนตลอด 24 ชม. โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดภาวะดินถล่ม และน้ำป่าหลาก หากมีปริมาณเกินร้อยละ 70 ก็ให้แจ้งเตือนไปยังพื้นที่เสี่ยงทันที
  
ขณะที่ จ.พิษณุโลก ได้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร

โดยเฉพาะแปลงเพาะปลูกข้าวและไร่ข้าวโพดของเกษตรกร ใน ต.หนองกะท้าว และเนินเพิ่ม อ.นครไทย เสียหายเป็นบริเวณกว้างรวมกว่า 5,000 ไร่ และยังส่งผลให้ระดับน้ำในลุ่มน้ำเข็กเพิ่มสูงขึ้นมาก ทางจังหวัดต้องประกาศเตือนนักท่องเที่ยวที่นิยมท่องเที่ยวทางน้ำในลุ่มน้ำเข็ก ระมัดระวังอันตรายเป็นพิเศษ เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยว 
  
นายบุญสนอง สุชาติพงศ์ วิศวกรวิชาชีพ 9 วช โฆษกกรมชลประทาน เปิดเผยว่า

จากที่มีข่าวว่าได้เกิดปัญหาน้ำท่วมและอ่างเก็บน้ำแตกในพื้นที่ จ.เชียงราย นั้น จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ วัดปริมาณฝนได้ 190 มิลลิเมตร เป็นเหตุให้อ่างเก็บน้ำห้วยปู่เปี้ย ที่กิ่งอำเภอเวียงเชียงรุ้ง มีความจุอ่างเก็บน้ำ 0.17 ล้านลูกบาศก์เมตร เกิดน้ำกัดเซาะทำนบดินพังทลาย กรมชลประทานจึงได้ประสานกับจังหวัดฯ เข้าไปตรวจสอบด้านเทคนิค วางแผนซ่อมแซม เพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ
 
วันเดียวกัน ที่ จ.สตูล ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่

ทำให้น้ำฝนไหลลงสู่คลองบ้านสาคร หมู่ 2 ต.สาคร อ.ท่าแพ ผสมกับน้ำเค็มจนกลายเป็นน้ำกร่อยกระจายเข้าไปในกระชังเลี้ยงปลาของชาวประมง ที่เลี้ยงไว้ตามลำคลองกว่า 100 กระชังตายจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวประมง ล่าสุดนายศักดา วิทยาศิริกุล นายอำเภอท่าแพ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปช่วยเหลือชาวประมงอย่างเร่งด่วนแล้ว.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์