ผู้ใหญ่ดำ ผู้ถูกกล่าวหาฆ่าหมาไซบีเรียนแล้วกิน โผล่ขอความเป็นธรรม

ผู้ใหญ่ดำ ผู้ถูกกล่าวหาฆ่าหมาไซบีเรียนแล้วกิน โผล่ขอความเป็นธรรม

ผู้ใหญ่ดำ บ้านหนองลาด ม.1 อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร โร่พบนายอำเภอวาริชภูมิ หลังถูกเจ้าของสุนัขไซบีเรียนเพศผู้ อายุ 5 เดือน แจ้งความกล่าวหา 3 ข้อหา เผยยืนยันทำตามหน้าที่ แต่เกิดคลาดเคลื่อนระหว่างการเจรจาไกล่เกลี่ย จนเจ้าของสุนัขเข้าใจว่าผู้ใหญ่บ้านนำทีมฆ่าสุนัขกิน พร้อมชี้แจงทุกข้อกล่าวหาวอนให้ความเป็นธรรม

จากกรณีที่ช่วงเช้าวันนี้(11ก.ค. )    นางสุนีย์ แสนพันนา  อายุ 53 ปี บ.79 บ.ดงน้อย ม.5 ต.วาริชภูมิ อ.วาริชภูมิ สกลนคร


เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ พ.ต.อ.นิยม พุทธาศรี ผกก.สภ.วาริชภูมิ มี ร.ต.ท.ไพรทรัพย์ คงเพชร พนักงานสอบสวน สภ.วาริชภูมิ รับแจ้งความ โดยกล่าวหาว่า นายมณีวรรณ บุญล้ำ  อายุ 40 ปี หรือผู้ใหญ่ดำ บ.หนองลาด ม.1  ต.หนองลาด อ.วาริชภูมิ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ทำให้เสียทรัพย์ ทารุณกรรมสัตว์

สืบเนื่องจาก สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนเพศผู้ ชื่อ โจโก้ อายุ 5 เดือน ของนางสุนีย์ หลุดหายไปจากบ้าน เมื่อวันที่ 8 ก.ค.

กระทั่งทราบว่า  สุนัขตัวดังกล่าวได้ไปกัดเป็ดของชาวบ้านตายจำนวน 40 ตัว และถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส หนีซมซานไปหลบที่บ้านของลูกบ้าน โดยมีพยานเจ้าของบ้านอ้างว่า ผู้ใหญ่ดำเป็นคนนำลูกบ้านไปนำสุนัขไปจัดการ    จนนำไปสู่การเจรจาระหว่าง ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าของเป็ด รวมถึง นางสุนีย์ เจ้าของสุนัข ไปไกล่เกลี่ย ที่ สภ.วาริชภูมิ โดยเจ้าของเป็ดไม่ติดใจเอาความ  และนางสุนีย์ ยินดีชดใช้ค่าเสียหาย แต่ปรากฏว่ายังตกลงกันไม่ได้ เพราะ นางสุนีย์ เจ้าของสุนัขรับไม่ได้ กับคำพูดของผู้ใหญ่ดำบอกว่าสุนัขถูกฆ่ากินแล้ว และต้องการคำขอโทษ จึงเกิดการแจ้งความในวันนี้

ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น.ที่ สภ.วาริชภูมิ นาย มณีวรรณ บุญล้ำ หรือ ผู้ใหญ่ดำ ผู้ถูกกล่าวหา  ได้เข้า พบ นายประทิม โกษาแสง นายอำเภอวาริชภูมิ เพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น

ผู้ใหญ่ดำ  ชี้แจงว่า   ขณะนี้ตนกำลังถูกประนามอย่างหนัก  จึงอยากชี้แจง ว่าในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.คืนวันที่ 8 ก.ค. ตนได้รับแจ้งจาก นายสุริยา ภู่ปานคำ อายุ 49 ปี  ซึ่งเป็นลูกบ้าน ว่าเป็ดที่เลี้ยงไว้ในคอกมีเสียงร้อง คล้ายถูกสุนัขกัดตายและกลัวจะเป็นสุนัขพันธุ์ดุอาจเป็นอันตรายได้     เมื่อไปตรวจสอบ ตนพร้อมด้วย เจ้าของเป็ด ลูกชายเจ้าของเป็ด และกรรมการหมู่บ้าน รวม 4 คน พยายามตามหาสุนัขต้นเหตุที่กัดเป็ดตาย ภายในบริเวณเล้าเป็ด ปรากฏ ว่าพบสุนัข 1 ตัว กำลังขย้ำเป็ด   เมื่อเห็นลูกชายเจ้าของบ้าน สุนัขตัวดังกล่าวเตรียมจะกระโจนทำร้ายลูกชายเจ้าของเป็ด  จึงป้องกันตัวโดยใช้มีดที่ติดมือไปด้วยฟันไป 1 ครั้งจนสุนัขหลบหนีไป จึงพยายามตามรอยเลือด   จนพบว่า หลบเข้าไปในหมู่บ้านของลูกบ้านอีก 1 หลัง ซึ่งห่างออกไปไม่มากนักตนเห็นว่าดึกแล้ว จึงคิดว่าในวันรุ่งขึ้นค่อยไปพูดคุยกับเจ้าของบ้านและไม่ได้เข้าไปในบ้านในยามวิกาลแต่อย่างใด

ต่อมาช่วงเที่ยงวันที่9ก.ค.ตนและลูกบ้านจึงไปนำสุนัขตัวดังกล่าว   ขณะกลับไปให้เจ้าของเป็ด และประกาศหาเจ้าของโดยประกาศเสียงตามสายให้คนในหมู่บ้าน แต่ว่าไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ 


ส่วนเป็ดจำนวน 40 ตัวที่ตายได้แบ่งปันให้เพื่อนบ้านไป  ส่วนตนกลับไปทำงานตามปกติและไม่ทราบว่า  หลังจากนั้นเจ้าของเป็ดทำอย่างไรบ้าง   เพิ่งจะทราบจากเจ้าของเป็ดว่าสุนัขตัวดังกล่าวได้ตายแล้ว จนเกิดการแจ้งความเอาผิดตน ซึ่งยอมรับว่าระหว่างการเจรจาเพื่อตกลงกันเมื่อวันที่ 10 ก.ค. ต่างมีอารมณ์ซึ่งกันและกันจนเผลอพูดประชดไปว่า สุนัขตัวดังกล่าวถูกฆ่ากินแล้ว จึงอยากจะขอโทษเจ้าของสุนัขด้วยกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งตนพร้อมจะชี้แจงทุกข้อกล่าวหาว่าไม่ได้เป็นคนนำพาลูกบ้านนำไปนำสุนัขมาฆ่ากินแต่อย่างใดเพียงแต่ทำตามหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านที่ลูกบ้านมาร้องทุกข์

ล่าสุดนายประทิมโกษาแสง นายอำเภอวาริชภูมิ แจ้งว่า ทราบจากเจ้าของเป็ดแล้วว่าซากสุนัขถูกนำไปทิ้งบ่อกำจัดขยะของหมู่บ้าน

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไปตรวจสอบแล้ว   แต่ยังไม่พบคาดอาจถูกกำจัดฝังกลบรวมกับขยะไปแล้ว ส่วนการดำเนินการเอาผิดทางวินัยผู้ใหญ่บ้าน ก็ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการ เพราะต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย  เข้าใจหัวอกเจ้าของสุนัข เพราะตนเองก็เลี้ยงสุนัขเช่นกัน ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและให้ผู้ใหญ่ซึ่งถือว่ายังไม่เป็นผู้ต้องหาเข้าพบ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และขณะนี้ได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบแล้ว อย่างไรก็ตามผู้ใหญ่ดำ เป็นคนทำงานดี ดูแลลูกบ้านมาอย่างสม่ำเสมอ คิดว่าไม่น่าจะมีเจตนาให้เกิดเรื่องบานปลายมาถึงขนาดนี้ หากใครเกี่ยวข้องบเรื่องนี้ก็ดำเนินการไปตามข้อกฏหมาย

ผู้ใหญ่ดำ ผู้ถูกกล่าวหาฆ่าหมาไซบีเรียนแล้วกิน โผล่ขอความเป็นธรรม


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์