ผอ.รร.โต้คลิปโฉ่ อมนกเขา ไม่ใช่นร.สาวศิษย์เก่า

ผอ.โรงเรียนชื่อดังแจงนักเรียนสาวที่อยู่ในคลิปอมนกเขาน.ร.ชายบนรถเมล์ไม่ใช่ลูกศิษย์ เพราะ ไม่มีใครเคยเห็นหน้าอีกทั้งเมื่อนำ มาตรวจสอบย้อนหลังไปอีก 2 รุ่นก็ไม่มีศิษย์เก่าที่มีหน้าตาลักษณะดังกล่าว เชื่อถูกนำเครื่องแบบปักชื่อย่อของโรงเรียนไปใส่ ยอมรับหลังคลิปลามกระบาด ทำให้ชื่อเสียงโรงเรียนเสื่อมเสียอย่างมาก เรียกร้องตำรวจเร่งจับกุม ด้านตำรวจปดส.เชื่อคลิปหลุดเพราะเอามือถือไปซ่อม เผยตำรวจเตรียมบุกค้นบ้านเว็บมาสเตอร์เว็บดังเร็วๆนี้

เมื่อวันที่ 13 มี.ค. นายพงศกร อรรณนพพร รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่คลิปวิดีโอลามกนักเรียนหญิงและนักเรียนชายกระทำอนาจารกันบนรถโดยสารปรับอากาศ สาย 113 ทั้งๆเครื่องแบบนักเรียน โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งว่า

อยากฝากถึงนักเรียนทุกคนให้คิดถึงและรักครอบครัวให้มากๆ หากคิดจะทำสิ่งใดก็ขอให้นึกถึงหัวอกของพ่อแม่ เมื่อถึงช่วงเวลาที่มีความพร้อม เชื่อว่าพ่อแม่ก็คงไม่ห้ามปราม อย่างไรก็ตาม เด็กที่กระทำเรื่องดังกล่าว อาจจะอยู่ในช่วงวัยที่อายุยังน้อย และไม่ทันคิด ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนก็ควรให้ความรักความอบอุ่นกับลูก โดยเฉพาะเรื่องเพศไม่ใช่เรื่องปิดบัง พ่อแม่ควรเป็นครูคนแรกของลูกที่จะบอกสอนและตักเตือนให้เข้าใจถึงการกระทำที่เหมาะสม ซึ่งตนเชื่อว่าหากสายใยรักในครอบครัวเข้มแข็ง เหตุการณ์ดังกล่าวคงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

สำหรับครูซึ่งเสมือนเป็นพ่อแม่คนที่ 2

ควรพูดจาตักเตือนเด็กด้วยความรู้สึกรักเหมือนลูกของตัวเอง แต่ตนไม่เห็นด้วยกับการออกเป็นกฎบังคับ เพราะจะมีเด็กบางส่วนที่อยากจะแหกกฎ ควรใช้ความรักตักเตือนกันจะดีกว่า ซึ่งอาจารย์ประจำชั้นที่ใกล้ชิดเด็กอยู่แล้วจะรู้ว่าเด็กมีความรู้สึกนึกคิดอย่างไร

"ผมไม่อยากให้การถ่ายคลิปลามกและส่งต่อเป็นค่านิยมในสังคม จึงขอร้องว่าทุกคนไม่ควรเก็บและส่งต่อคลิปเหล่านี้ เพราะหากทุกคนร่วมกันทำก็จะกลายเป็นเรื่องปกติของสังคม ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความรักความผูกพันในครอบครัวกันอย่างมาก จึงไม่ควรเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น หากจะส่งต่อคลิปก็ควรเป็นเรื่องสร้างสรรค์ เช่น การส่งเสริมความพอเพียง หรือสนับสนุนความเป็นไทยจะดีกว่า ผมขอร้องว่าใครที่มีคลิปลามกอนาจาร ขอให้ลบทิ้งเสีย อย่าได้ส่งต่อ เพราะการส่งต่อคลิปลามกเป็นการทำลายประเทศ หากเป็นวัยรุ่นก็เป็นการทำลายเพื่อร่วมวัยเดียวกัน" นายพงศกรกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงาน จากการสอบถามไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนดัง ย่านถนนสุขาภิบาล 3 ตามที่ปรากฏภาพในคลิปว่า

นักเรียนสาวได้สวมเครื่องแบบ ปักอักษรย่อโรงเรียนดังกล่าว ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียน ยอมรับว่า ได้ดูคลิปฉาวดังกล่าวแล้ว และเห็นว่าเครื่องแบบปักอักษรย่อของโรงเรียนตนเองจริง ซึ่งในวันเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและเยาวชน (กก.สด.) ได้เดินทางมาสอบสวนข้อมูลจากทางโรงเรียนแล้ว อย่างไรก็ตาม จากที่ได้สอบถามอาจารย์ฝ่ายปกครอง และอาจารย์หลายท่านในโรงเรียนก็ได้รับคำยืนยันว่า ไม่เคยเห็นหน้านักเรียนสาวคนดังกล่าวมาก่อน และได้นำภาพมาเทียบกับรายชื่อนักเรียนย้อนหลังไป 1-2 ปี ก็ไม่พบว่ามีรายชื่อนักเรียนที่มีหน้าตาลักษณะดังกล่าว

"อาจเป็นไปได้ว่า เด็กเอาชุดนักเรียนไปใส่ เพราะทางโรงเรียนตรวจสอบย้อนหลังไปแล้วก็ไม่พบว่ามีนักเรียนหน้าตาแบบนี้ อีกทั้งทางโรงเรียนเคยจับได้หลายครั้งว่า มักจะมีเด็กอื่นแอบแฝงเข้ามาในโรงเรียน โดยนำเสื้อของเพื่อนนักเรียนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ไปใส่ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นก็อาจจะเป็นสาเหตุเดียวกันนี้ก็ได้" ผู้อำนวยการ กล่าว

ผู้อำนวยการคนดังกล่าว กล่าวอีกว่า

แม้จะยืนยันได้ว่านักเรียนหญิงในคลิปดังกล่าวไม่ใช่นักเรียนโรงเรียนของตน แต่ก็ยอมรับว่าการเผยแพร่คลิปดังกล่าวทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียงมาก ดังนั้นจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการควบคุมการเผยแพร่คลิปวิดีโอลักษณะนี้ รวมทั้งวางมาตรการในการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไม่ใช่เพียงแต่แก้ปัญหาที่ปลายเหตุเพียงอย่างเดียว เพราะเรื่องนี้ถือเป็นปัญหาระดับชาติ สร้างความเสื่อมเสียให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องที่ต้องมารับเคราะห์กรรมอย่างมาก

ด้านนายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก กล่าวถึงกรณีนี้ว่า

ในสภาวะปัจจุบัน สิ่งที่เราจะต้องมองก็คือว่าเหตุใดเด็กจึงมีพฤติกรรมเช่นนี้ เรื่องนี้มีสาเหตุอยู่ 2 อย่างคือ พฤติ กรรมที่แสดงออก และการถ่ายวิดีโอคลิปแล้วนำไปเผยแพร่ ส่วนพฤติกรรมลามกอนาจารนั้นผู้ใหญ่ก็ทำเช่นกัน เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ทำบนรถโดยสาร แต่จะทำในที่ส่วนตัว เด็กที่ทำแบบนี้อยู่ในกระแสของเรื่องเพศและได้แบบอย่างมาจากวิถีชีวิตประจำวัน สิ่งที่เรามองไปลึกลงไปอีกก็คือเหตุใดจึงทำเช่นนี้ ทั้งนี้อาจจะเกิดจากการเลียนแบบดารา นักแสดง ที่ชอบถ่ายคลิปวิดีโอไว้ดูเล่นกัน หรืออาจจะถูกแรงขับจากภายในจิตใจคือไม่อยากสูญเสียแฟน คือแฟนให้ทำอะไรก็ทำเด็กจึงคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา เพียงแต่ว่าเขาอาจจะไม่มีเงินซื้อรถยนต์ หรือมีเงินเสียค่าโรงแรม

นายมนตรี กล่าวอีกว่า

 เด็กที่แสดงออกถึงเรื่องเพศเช่นนี้จะอยู่ในลักษณะที่ไม่แคร์ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่ไม่ได้รับการเอาใจใส่จากครอบครัว หรือครอบครัวชอบใช้อำนาจ คือถูกสั่งมากกว่าถูกสอน พอมาอยู่โรงเรียนที่มีสังคมเพื่อนเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงมีโอกาสทำเรื่องเช่นนี้ได้ ทำให้เกิดเด็กดื้อ เด็กโง่ และเด็กที่แพ้ ส่วนเรื่องคือการถ่ายคลิปวิดีโอนั้น คนที่นำไปเผยแพร่มองเรื่องการละเมิดสิทธิของคนอื่นเป็นเรื่องธรรมดา โดยไม่สนใจว่าจะเกิดเรื่องอะไรตามมา สังคมเห็นการละเมิดสิทธิเป็นเรื่องปกติ หนทางที่จะป้องกันคือต้องรณรงค์กันทั้งสังคม ไม่ใช่แค่เด็ก เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาสังคม และผู้นำของประเทศควรจะเป็นแบบอย่างในเรื่องการเคารพสิทธิซึ่งกันและกันด้วย

วันเดียวกัน ที่บก.ปดส. พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.ปดส. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า

ได้สั่งการให้เน้นการดำเนินคดีไปที่ตัวของผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเผยแพร่มากกว่าที่จะเน้นไปที่เรื่องของการติดตามตัวเด็ก แต่ขั้นตอนการสอบสวนก็จะต้องติดตามตัวเด็กมาสอบสวนว่าคลิปที่ถ่ายไว้ ถูกนำไปเผยแพร่ได้อย่างไร เรื่องนี้คาดว่าคงเหมือนกับคดีที่เคยเกิดๆ ขึ้นมาก่อนหน้านี้คือการนำเอาโทรศัพท์มือถือไปซ่อม โดยคาดไม่ถึงว่าจะถูกก๊อบปี้คลิปออกไป ซึ่งการติดตามตัวเด็กถ้าตามไม่พบก็คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะที่เราติดตามอยู่ขณะนี้ก็คือผู้ที่เผยแพร่ โดยตนได้รับรายงานว่าชุดสืบสวนเตรียมเข้าตรวจค้นบ้านพักของเว็บมาสเตอร์ของเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ที่ทราบว่าเป็นต้นตอของการแพร่ภาพ แต่ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายค้น

"เรื่องที่เกิดขึ้นก็อยากจะฝากเตือนไปยังกลุ่มวัยรุ่นด้วยว่าจะทำอะไรลงไป ก็ขอให้คิดถึงผลเสียที่จะตามว่ามันจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการถ่ายภาพลับเฉพาะ เมื่อมันถูกนำออกมาเผยแพร่สู่สังคมทั่วไปนั้นผลเสียที่ตามก็จะรุนแรงอย่างคาดไม่ถึง ขอให้คิดถึงพ่อแม่และอนาคตให้ดี" ผบก.ปดส.กล่าว

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์