ผบ.ทบ.สั่งเร่งผลิตอุปกรณ์ป้องกันระเบิด หวังช่วยรักษาชีวิตทหารภาคใต้

ผบ.ทบ.สั่งเร่งผลิตอุปกรณ์ป้องกันระเบิด หวังช่วยรักษาชีวิตทหารภาคใต้

ที่สโมสรทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก

เดินทางมาเป็นประธานเปิดงานวันภูมิปัญญานักรบไทย พร้อมทั้งมอบรางวัลให้หน่วยงานและนักประดิษฐ์ดีเด่นของกองทัพบก รวมทั้งชมนิทรรศการสิ่งประดิษฐ์และผลงานวิจัยทางทหาร โดยมีนายทหารระดับ 5 เสือ ทบ. พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 และนายทหารระดับสูงเข้าร่วมชมงานจำนวนมาก


พล.อ.ประยุทธ์กล่าวให้โอวาทแก่กำลังพลตอนหนึ่งว่า กองทัพบกพยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงกลาโหม

ในการจะผลิตวิจัยสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อลดค่าใช้จ่ายในด้านงบประมาณ ซึ่งสิ่งที่กองทัพบกต้องการเป็นอันดับแรก คือ ทำอย่างไรให้กำลังพลปลอดภัยจากการรบและการปฏิบัติงานทุกภารกิจ รวมถึงการแลกเปลี่ยนความร่วมมือจากสถาบันการศึกษาภายนอกประเทศ ในการที่จะวิจัยพัฒนาสิ่งของที่มีความจำเป็น ซึ่งเราทำเองไม่ได้ ส่วนของการจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ จากต่างประเทศ จำเป็นที่จะต้องมีความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาร่วมกัน ซึ่งทั้งหมดนี้วัตถุประสงค์หลักของ ทบ. คือการป้องกันตัวเอง จึงต้องเริ่มจากสิ่งสำคัญก่อน


"สิ่งที่ผมต้องการให้เร่งพัฒนาคือ การป้องกันภัยจากวัตถุระเบิด เพราะจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้การปฏิบัติการทางการรบที่เป็นหน่วยงานเล็กๆ เกิดความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติการกลางวันหรือกลางคืน นอกจากนั้นเป็นเรื่องของอุปกรณ์ที่มีความซับซ้อน เช่น เครื่องมือตัดสัญญาณ สิ่งเหล่านี้จะต้องมีการพัฒนา วันนี้เรามีผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานได้คิดค้นสิ่งที่เป็นประโยชน์ ซึ่งกองทัพบกพร้อมส่งเสริมและสนับสนุน โดยผมได้ให้นโยบายว่าสิ่งใดก็ตามที่เป็นประโยชน์ให้นำไปสู่การผลิตโดยเร็ว และนำไปใช้ ซึ่งการวิจัยและพัฒนาหลายอย่างในครั้งนี้สามารถนำไปใช้ในพื้นที่ภาคใต้ได้ ถึงแม้ว่าจะมีความปลอดภัยไม่ถึง 100% ก็ตาม แต่ก็สามารถป้องกันได้ นอกจากยุทโธปกรณ์แล้ว สิ่งสำคัญที่จะทำให้กำลังพลปลอดภัย คือ ความรู้ การฝึกทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงเครื่องมือที่จะช่วยเสริมให้สามารถทำการรบได้อย่างปลอดภัย" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนรู้สึกมีความสุข เพราะได้อยู่ท่ามกลางกำลังพลและถือเป็นภารกิจของ ทบ.
 
ในการฝึกหัดกำลังพลในการเตรียมพร้อมรบเพื่อให้มีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญที่ทำให้การปฏิบัติการไม่ประสบผลสำเร็จประกอบด้วยปัจจัยภายในและภายนอก การทำงานในพื้นที่ภาคใต้ไม่เหมือนที่อื่น เพราะกำลังพลต้องทำ 2 หน้าที่ คือ รบและทำความเข้าใจ จึงทำให้การทำงานด้อยลงไป ดังนั้นตำรวจ ประชาชนและหน่วยงานอื่นๆ ต้องมีความพร้อมและเข้มแข็งในการจะรับภารกิจเหล่านี้ เพื่อให้ทหารได้ทำหน้าที่หลัก คือ การรบอย่างเต็มที่ ซึ่งรัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาอยู่ ทั้งนี้ ตนอยากให้กองทัพเข้มแข็ง เพราะกองทัพถูกฝากความหวังความเป็นความตายของประเทศชาติไว้ และภัยคุกคามก็มีหลายรูปแบบ เราจึงต้องช่วยกันทำให้กองทัพเข้มแข็ง สิ่งที่กองทัพบกทำในวันนี้ เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน ต้องเป็นกองทัพที่เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ทุกโอกาส และเป็นกองทัพที่ภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมสนับสนุนโครงการพระราชดำริและดูแลภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งหน้าที่ที่มีต่อประเทศชาติและประชาชนยิ่งใหญ่กว่าอย่างอื่น


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องการวิจัยพัฒนาในปะเทศไทยค่อนข้างนำไปสู่การปฎิบัติไม่ได้ ไม่ต่อเนื่อง ตนจึงได้ให้นโยบายว่า

จะพยายามทำให้ทุกโครงการนำไปสู่การปฎิบัติให้ได้ ปัญหาหนึ่ง คือ ของทุกชิ้นที่นำมาใช้ในกองทัพบก ไม่ใช่ว่า จะใช้ได้เลย จะต้องผ่านมาตราฐานของคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์กองทัพบก (กมย.) เพราะต้องใช้งบประมาณ ซึ่งรัฐบาลทุกรัฐบาลพยายามให้กองทัพผลิตยุทธโปกรณ์ใช้เอง ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ ปัญหาอีกอย่างหนึ่ง คือ ทุกประเทศผลิตยุทโธปกรณ์แล้วขายได้ เพราะกฎหมายอนุญาต แต่ในประเทศไทยกฎหมายไม่อนุญาต จึงต้องไปแก้กฎหมายปรับปรุงเรื่อง พ.ร.บ.อุตสาหกรรมป้องกันประเทศใหม่ ซึ่งกำลังเข้าพิจารณาอยู่ เพื่อจะได้ผลิตไปขายต่างประเทศได้ด้วย วันนี้ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ก็ทำแล้ว หากจะมีการส่งเสริม ทางกระทรวงกลาโหมต้องไปพูดคุยกับรัฐบาลว่า จำเป็นต้องมีการลดภาษีหรือไม่ หากทำการวิจัย เป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องช่วยกองทัพ เพราะของบางอย่างต้องเสียลิขสิทธิ์และมีราคาแพง ไม่สามารถกำหนดราคาได้ว่าเท่าไหร่


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพบก ต่อไปจะจัดซื้ออะไรต้องนำไปสู่การผลิตร่วม

โดยได้นำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปแล้วว่า จะให้บริษัทเหล่านี้มาขึ้นทะเบียนกับเราและผลิตร่วมกันก็น่าจะเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องอิเล็กทรอนิค รถเกราะ ก็ทำได้หมดแล้วและในอนาคตเราอาจจะผลิตรถถังได้ แต่ต้องใช้เวลาเพราะยังมีเครื่องมือไม่สมบูรณ์ สิ่งที่ตนคำนึงมากที่สุดคือเรื่องความปลอดภัยของกำลังพล โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ทำอย่างไรจึงจะมีเครื่องมือตาต่อตาไปข้างหน้าได้ปลอดภัย เกิดเหตุก็สามารถบันทึกเหตุการณ์ได้ เพราะปัจจุบันเราไม่มีเครื่องมือพวกนี้ คือ เครื่องมือในการป้องกัน ทุกวันนี้เราใช้เพียงตาในการสังเกตว่า บริเวณไหนอาจจะมีวัตถุระเบิด ซึ่งอาจจะผิดพลาดได้ เพราะการจุดระเบิดมีหลายแบบ ทั้งไฟฟ้า ชนวน วิทยุ โทรศัพท์


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์