ปูนซิเมนต์ ขอขึ้นราคาหลังแบกรับต้นทุนไม่ไหว

ปูนซิเมนต์ เสนอปรับราคาต่อรัฐบาลชุดใหม่ เนื่องจากต้องแบกต้นทุนภาระค่าถ่านหินไม่ไหว ขณะที่การใช้ซีเมนต์ปูนปีนี้คาดหดตัวร้อยละ 4 ใกล้ เนื่องจากโครงการเมกกะโปรเจ็กต์จะส่งผลต่อตลาดปูนช่วงปลายปี

ดร.สถาพร เพชรทองคำ เลขานุการบริษัท และ ธุรกิจสัมพันธ์ บริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

ขณะนี้ต้นทุนค่าถ่านหินซึ่งเป็นพลังงานสำคัญในการผลิตปูนซิเมนต์ ได้ปรับสูงขึ้นจาก 45 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เป็น 65 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ทำให้บริษัทต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตปูนอย่างหนัก เนื่องจากพลังงานถือเป็นต้นทุนหลักร้อยละ 70 ในการผลิตปูน

ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่บริษัทจะยื่นเรื่องต่อรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อขอปรับราคาขายขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ได้ยื่นขอปรับไปแล้ว แต่รัฐบาลชุด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้ขอให้ตึงราคาไว้ก่อน จนทำให้บริษัทต้องปิดเตาผลิตปูนไปแล้ว 2 เตา ขณะเดียวกันภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้การผลิตปูนซิเมนต์ในปี 2550 หดตัวไปร้อยละ 4 และคาดว่าปีนี้จะหดตัวต่อเนื่องในอัตราร้อยละ 4 เช่นกัน

ส่วนโครงการขนาดใหญ่ หรือ เมกกะโปรเจ็กต์ ที่คาดว่ารัฐบาลใหม่จะเดินหน้านั้น คาดว่าจะส่งผลต่อตลาดปูนซิเมนต์ในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากต้องใช้เวลาเปิดซองประมูลราคากว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ อย่างไรก็ตาม สภาพเศรษฐกิจโดยรวมหลังจากนี้ น่าจะดีกว่าเดิม เพราะการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจน ความมั่นใจก็จะดีขึ้น

ขอขอบคุณเนื้อหาดีดี โดย:

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์