ปิดคดีชนม์สวัสดิ์ เปิดศึกสีกากี หนีตรวจเมาขับ พร้อม2นางแบบ


เป็นอีกหนึ่งวิบากกรรมที่ผ่านพ้นไปหมาดๆ ของ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม รองเลขาธิการนายกฯ
 
หลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 1 ปี แต่ให้รอลงอาญาไว้ 3 ปี ในคดีร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานตำรวจ ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และขัดขวางการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ขณะขอตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกาย เหตุเกิดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2550

คดีนี้ถือว่าเป็นเรื่องอื้อฉาวระดับคูณสองของนายชนม์สวัสดิ์ เพราะนอกจากจะมีปัญหากับตำรวจจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่คนสนใจทั้งเมืองแล้ว

ยังตกเป็นข่าวคาวกับ 2 พี่น้องดารา-นางแบบชื่อดัง"เอ-โย"อัญชลี และยศวดี หัสดีวิจิตร

เพราะวันเกิดเรื่องนั้น 2 พี่น้องอยู่ในรถกับนายชนม์สวัสดิ์ ด้วย!??

ศาลใช้เวลาราว 1 ปีในการพิจารณาคดีนี้ ซึ่งนายชนม์สวัสดิ์ เป็นจำเลยที่ 1 ลูกน้องคนสนิท 2 คนคือ นายสกุล ประมูลชัย และนายปรัชญา ไชยะกุล เป็นจำเลยที่ 2 และ 3 ตามลำดับ

กระทั่งวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา
 
ศาลนัดอ่านคำพิพากษา เปิดฉากด้วยคำบรรยายฟ้องโจทก์ว่า
จำเลยทั้ง 3 ร่วมกันข่มขืนใจ ส.ต.อ.ปรารภ แสงนิล ผบ.หมู่งานจราจร สน.มักกะสัน ผู้เสียหาย ให้ยินยอม หรือละเว้นไม่ต้องให้จำเลยที่ 1 ไปตรวจวัดหาปริมาณแอลกอฮอล์ที่ด่านตรวจ

ก่อนที่จำเลยทั้ง 3 จะร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย โดยใช้มือจับข้อมือ ใช้แขนล็อกคอและใช้มือดันหลังผู้เสียหายให้เข้าไปภายในสำนักงานของปั๊มน้ำมัน

จำเลยทั้ง 3 ได้บังอาจร่วมกันต่อสู้ขัดขวางผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ อีกทั้งร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป


นอกจากนี้ จำเลยที่ 2 ยังบังอาจดูหมิ่นเหยียดหยามเกียรติยศ ศักดิ์ศรีชื่อเสียงของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจขณะปฏิบัติตามหน้าที่ ให้ได้รับความอับอายเสียหายต่อเกียรติยศชื่อเสียงและศักดิ์ศรี

"พิพากษาจำเลยทั้ง 3 มีความผิดฐานร่วมกันต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน หรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายให้การปฏิบัติตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันลงมือกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ลงโทษจำคุกคนละ 1 ปี ปรับ 10,000 บาท ฐานร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่ หรือให้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกันลงมือกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ลงโทษจำคุกคนละ 8 เดือน ปรับ 6,000 บาท"



"จำเลยที่ 1-2 มีความผิดฐานร่วมกันดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ จำคุกคนละ 4 เดือน ปรับ 2,000 บาท จำเลยทั้ง 3 ให้การรับสารภาพ เห็นสมควรให้ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 1 และ 2 ไว้ที่ 12 เดือน ปรับ 9,000 บาท และจำคุกจำเลยที่ 3 ไว้ 10 เดือน ปรับ 8,000 บาท"

คำพิพากษาระบุต่อว่า จากการสืบเสาะประวัติของจำเลยที่ 1-2 แล้ว เห็นว่าไม่เคยได้รับโทษทางอาญามาก่อน ประกอบกับผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความแล้ว อีกทั้งจำเลยร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 100,000 บาท ให้แก่ สน.มักกะสัน เพื่อให้โอกาสแก่จำเลยในการกลับตัว โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษมีกำหนดเป็นเวลา 3 ปี

หลังเสร็จสิ้นการอ่านคำพิพากษา นายชนม์สวัสดิ์มีสีหน้ายิ้มแย้ม โดยระบุว่า

ขอน้อมรับในคำพิพากษา จะไม่ขอยื่นอุทธรณ์แต่อย่างใด ที่ผ่านมาเรื่องทั้งหมดเกิดจากความเข้าใจผิดกัน อยากให้เรื่องนี้จบลงให้ดีที่สุด และเร็วที่สุด ตั้งแต่เกิดคดีขึ้นได้เจรจากับทางตำรวจแล้ว!??

สําหรับคดีนี้ถือว่า

เป็นข่าวอื้อฉาวอย่างยิ่งในช่วงเกิดเหตุ เมื่อนายชนม์สวัสดิ์ขับรถเก๋งบีเอ็มมาพร้อมกับ 2 พี่น้องนางแบบสาวเอ-โย เพื่อกลับเข้าที่พักเป็นโชว์รูมรถยนต์ในปั๊มน้ำมันเพียว ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อกลางดึกวันที่ 21 พฤษภาคม 2550

ก่อนถึงที่พักพบด่านตรวจแอลกอฮอล์ของสน.มักกะสัน

ส.ต.ท.ปรารภ แสงนิล ผบ.หมู่งานจราจร สน.มักกะสัน เรียกตรวจ
แต่นายชนม์สวัสดิ์ไม่ยอมจอดกลับขับรถเข้าไปจอดหน้าโชว์รูม โดยตำรวจเกาะรถตามไปด้วย!!!

ห้วงเวลานั้นยังไม่มีใครทราบว่า 2 นางแบบสาวอยู่ในรถด้วย เพราะเมื่อรถจอดทั้งคู่ก็วิ่งเข้าที่พักนายชนม์สวัสดิ์ทันที

จากนั้นก็เกิดการกระทบกระทั่งระหว่าง ส.ต.ท.ปรารภ กับนายชนม์สวัสดิ์ และลูกน้องอีก 2 คน

ส.ต.ท.ปรารภ ระบุว่า

เห็นรถคันดังกล่าวทะเบียน วอ 2222 ขับส่ายไปส่ายมาและก็วิ่งมา เลนขวา จึงใช้กระบองสัญญาณไฟโบกให้หยุดรถ เมื่อผู้ขับขี่หยุดรถก็ให้ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวชิดขอบทางด้านซ้าย ผู้ขับขี่ก็ขับชะลอๆ และลดกระจกลงแต่ไม่ยอมหยุดรถ พยายามที่จะขับรถไปจอดในปั๊มน้ำมัน

"ขณะนั้นก็มีผู้ชายอีก 2 คนเดินมาสอบถามว่า เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นจึงแจ้งไปว่าผู้ขับขี่มีอาการลักษณะคล้ายคนเมา จะเชิญตัวไปตรวจวัดเครื่องวัดแอลกอฮอล์ ผู้ขับขี่ไม่ยินยอม ขึ้นเสียงมาเอะอะโวยวาย พูดจาโดยที่มีแต่คำด่า"!!!



ส.ต.ท.ปรารภ กล่าวอีกว่า
 
ถูกกระชากป้ายชื่อไป และมีลูกน้องนายชนม์สวัสดิ์เข้ามาล็อกคอพยายามลากเข้าไปในบ้านพร้อมปิดประตู แต่ก็ดิ้นรนจนหลุดออกมาได้ และเป็นจังหวะที่ร.ต.ต. ธนกร พิมพ์ชัย รอง สว.จร.สน.มักกะสัน ซึ่งเป็นหัวหน้าด่านตรวจ ตามช่วยเหลือไว้ได้

ด้านนายชนม์สวัสดิ์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกเทศบาลนครสมุทรปราการ

ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการทำอะไรรุนแรง แต่อ้างว่าเพิ่งกลับจากกินโจ๊ก และไม่ได้เมา แต่ตำรวจพยายามจะตรวจแอลกอฮอล์

พร้อมกันนี้ยังนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเปิด แต่มีเพียงภาพด้านหน้าโชว์รูม ซึ่งเป็นคนละจุดที่เกิดเรื่องยื้อยุดกับตำรวจ!??

คดีนี้ยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นเมื่อตรวจสอบภายหลังพบว่า ภายในรถของนายชนม์สวัสดิ์ มี 2 พี่น้องนางแบบคนดัง เอ-โย อยู่ด้วย

เนื่องจากห้วงเวลานั้นมีข่าวคราวในวงการบันเทิงว่า นายชนม์สวัสดิ์ นั้นสนิทสนมกับโย-ยศวดี เป็นพิเศษ!??

หากนายชนม์สวัสดิ์ เป็นหนุ่มโสดลูกคนดังทั่วๆ ไปก็ไม่กระไรนัก แต่นายชนม์สวัสดิ์ แต่งงานมีลูกกับนักร้องสาวนันทิดา แก้วบัวสาย แล้ว

นอกจากนี้มีการแฉอีกว่า
 
คืนเกิดเหตุนายชนม์สวัสดิ์อยู่ในเหตุการณ์วิวาทระหว่าง 2 พี่น้องนางแบบกับลูกสาวร้านทองไฮโซ ภายในผับแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดีกันไปมาด้วย

คดีนี้ตำรวจจึงได้รับความเห็นใจอย่างมาก เพราะเห็นว่ามีปัญหากับลูกชายนักการเมือง แถมก่อนหน้านี้พี่ชายนายชนม์สวัสดิ์ คือนายพูนผล อัศวเหม ก็เคยมีปัญหากับตำรวจจราจร ถึงขั้นขับรถชน จนถูกดำเนินคดีมาแล้ว!!!

พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ ผบก.น.1 กำชับพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างเฉียบขาด

ขณะเดียวกันมีประชาชนและองค์กรต่างๆ โดยเฉพาะมูลนิธิเมาไม่ขับ มอบดอกไม้และมาให้กำลังใจจำนวนมาก

ในกาลต่อมานายชนม์สวัสดิ์ กับลูกน้องเดินทางเข้ามอบตัวให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาแต่เมื่อคดีขึ้นสู่การพิจารณาในชั้นศาล ก็มีการเจรจาต้าอ้วยกับผู้เสียหาย รวมทั้งต้นสังกัด พร้อมขอสารภาพ!??ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาออกมาในที่สุด

ตำนานวิบาก"อัศวเหม"

ตระกูล "อัศวเหม" ถือว่าเป็นตระกูลนักการเมืองที่โด่งดัง และมีบารมีอยู่ในจ.สมุทรปราการ มายาวนาน

แต่ในห้วงเวลาที่ผ่านมาคนในตระกูลกลับพบวิบากเกี่ยวกับคดีความต่างๆ มากมาย

เริ่มตั้งแต่นายวัฒนา ผู้นำครอบครัว อดีตรัฐมนตรีและส.ส.ชื่อดัง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ถูกคดีทุจริตบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ตามหลอกหลอน

ยิ่งเมื่อคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง และนัดอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา แต่นายวัฒนา ตัดสินใจหลบหนีจนถูกออกหมายจับ

กระทั่งวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา ศาลอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย ตัดสินจำคุกนายวัฒนา เป็นเวลาถึง 10 ปี!!!

เชื่อกันว่านายวัฒนา น่าจะกบดานอยู่ในประเทศกัมพูชา

ลูกชายคนโต นายพิบูลย์ อัศวเหม กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็มพี ปิโตรเลียม แม้ไม่ได้เข้ามาสู่แวดวงการเมือง แต่ก็ถูกดำเนินคดีอาญาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2547 ในคดีร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมของบริษัทจันทร์กรุ๊ปกู้เงินแบงก์ 7 พันล้าน

และคดีเกี่ยวกับการออกโฉนดรุกทะเลแหลมบาลีฮาย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เอื้อประโยชน์ให้บริษัทอาชาแลนด์

ดังที่สุดคือลูกคนกลาง "นายพูนผล อัศวเหม" เจ้าของคำพูดสุดฮิตเมื่อ 10 ปีก่อน

"กู ลูกวัฒนา
"หลังมีเรื่องขับรถปาดกับสองพ่อลูกที่บริเวณแยกพัฒนาการ แล้วชักปืนออกมาตบคู่กรณีจนปืนลั่น เมื่อปี 2539 ถูกดำเนินคดี

จากนั้นเพียง 2 ปี นายพูนผล ซึ่งเข้าสู่แวดวงการเมืองได้เป็นส.ส.สมุทรปราการ ก็ถูกดำเนินคดีอีกครั้ง เมื่อถูกกล่าวหาว่าขับรถไล่ชนตำรวจจราจรได้รับบาดเจ็บ เพราะไม่พอใจที่จับกุมนักศึกษาสาวคนสนิท ข้อหาไม่มีใบขับขี่

ถูกศาลตัดสินจำคุก 1 ปี 6 เดือน ปรับ 1,000 บาท และศาลอุทธรณ์ลดโทษให้เหลือ 8 เดือน 20 วัน

ต่อมาไม่นานก็เจออีกกระทงเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี กรณีซุกหุ้น 400 ล้านบาท

สุดท้ายคือนายชนม์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะนักแข่งรถไฮโซ และยิ่งดังเมื่อแต่งงานกับนันทิดา แก้วบัวสาย นักร้องคุณภาพช่วงกำลังมีชื่อเสียง

ตัดสินใจเข้าวงการการเมืองท้องถิ่น ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรี แต่ก็ถูกร้องเรียนเรื่องทุจริตเลือกตั้ง มีหีบบัตรเลือกตั้งผีมาสวมรอยเป็นที่มาของฉายา "คดีโคตรโกง"


ถูกศาลจำคุก 4 ปี คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์

ก่อนที่จะมีเรื่องขึ้นโรง ขึ้นศาลอีกครั้งในคดีควง 2 พี่น้องนางแบบชื่อดัง ขับรถหนีด่านตรวจแอลกอฮอล์!??

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์