ไทยรัฐ
นายวิชิต หล่อจีระชุณห์กุล กรรมการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) กล่าววันนี้ (6 มิ.ย.) ว่า ที่ประชุมวันนี้ มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้นค่าเอฟทีงวดใหม่ (มิ.ย.-ก.ย.2549) ในอัตรา 9.60 สตางค์ต่อหน่วย บวกกับค่าเอฟทีเดิม ทำให้เอฟทีงวดใหม่เท่ากับ 85.44 สตางค์/หน่วย และเมื่อนำไปรวมกับค่าไฟฟ้าฐานเฉลี่ยที่ 2.25 บาท/หน่วย แล้ว ทำให้ประชาชนมีรายจ่ายค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในอัตรา 3.1044 บาท/หน่วย หรือมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังคงเห็นชอบให้มีการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วย/เดือน ด้วยการลดค่าเอฟที 10 สตางค์/หน่วย หรือจ่าย 75.44 สตางค์/หน่วย โดยการช่วยเหลือในจุดนี้ จะนำเงินค่าก๊าซเทคออร์เพย์จากแหล่งประเทศพม่า ที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้จ่ายไปซื้อก่อนรับก๊าซธรรมชาติจริง ทำให้มีผลดีจากราคาก๊าซธรรมชาติถูกกว่าอัตราปัจจุบัน โดยนำเงินมาช่วยเหลือในเอฟทีงวดนี้ 300 ล้านบาท
ประธานอนุกรรมการพิจารณาค่าไฟฟ้าเอฟที กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าเชื้อเพลิงทุกประเภทที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันตลาดโลกที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติงวดนี้ปรับขึ้น 9.74 บาท/ล้านบีทียู โดยปรับเป็น 192 บาท/ล้านบีทียู น้ำมันเตา ปรับขึ้น 0.50 บาท/ลิตร โดยปรับเป็น 15.75บาท/ลิตร น้ำมันดีเซลปรับขึ้น 0.81 บาท/ลิตร โดยปรับเป็น 19.37 บาท/ลิตร อย่างไรก็ตาม จากการที่ประชาชนร่วมกันประหยัดการใช้พลังงาน ส่งผลทำให้การใช้ไฟฟ้าลดลงจากประมาณการเดิมที่ขยายตัวร้อยละ 6 เหลือร้อยละ 4 ทำให้ค่าไฟฟ้าเอฟทีไม่ได้ปรับสูงขึ้นมากเกินไป
นายวิชิตกล่าวอีกว่า สำหรับค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดต่อไป (ต.ค.-ม.ค.) หากมีปรับขึ้นตามราคาน้ำมันก็คงจะไม่ขึ้นมากนัก เนื่องจากเป็นช่วงหน้าหนาว การใช้ไฟฟ้าจะไม่เพิ่มสูงขึ้นมาก ความจำเป็นในการใช้น้ำมันที่เป็นต้นทุนผลิตไฟฟ้าที่สูงที่สุดจะน้อยลง ประกอบกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จะส่งก๊าซธรรมชาติ ได้เพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนยิ่งไม่สูงมากนัก รวมทั้ง ค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดหน้าก็คงจะมีความชัดเจนว่า ค่าไฟฟ้าฐานจะลดลงได้หรือไม่ เพราะอนุกรรมการพิจารณาค่าไฟฟ้าเอฟที จะพิจารณาว่าจะปรับเปลี่ยนสูตรโครงสร้างค่าไฟฟ้าฐานเป็นรูปแบบเดิมที่ไม่ได้อิงผลตอบแทนการลงทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
"ค่าเอฟทีงวดนี้ เดิม กฟผ. เสนอปรับขึ้น 15.16 สตางค์/หน่วย แต่เมื่อพิจารณาปรับปรุงตัวเลขใหม่ อาทิ ตัดเรื่องการใช้น้ำมันเตาที่เพิ่มขึ้นจากการส่งก๊าซธรรมชาติของประเทศพม่าที่มีปัญหาการตัดเรื่องเม็ดเงินลงทุนปี 2548 ไม่ได้ลงทุนตามแผน ขณะที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระบุจะส่งก๊าซธรรมชาติ ได้เพิ่มขึ้น ก็ทำให้ค่าเอฟทีในงวดนี้ที่คิดจากค่าเชื้อเพลิงในเดือนเมษายน ปรับเพิ่ม 7.83 สตางค์ต่อหน่วย และเมื่อรวมกับค่าเอฟทีงวดที่แล้ว ที่จะต้องปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุนที่แท้จริงเฉลี่ย 4 เดือน ที่ปรับขึ้นอีก 4.16 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้เอฟทีงวดนี้ปรับขึ้น 9.60 สตางค์/หน่วย" ประธานอนุกรรมการพิจารณาค่าไฟฟ้าเอฟที กล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
