ปรับลดราคาดีเซล30สต.ต่อลิตรวันนี้

 

คมชัดลึก :ปตท.-บางจาก ปรับลดราคาน้ำมันดีเซล 30 สตางค์ต่อลิตร เริ่มวันนี้(17ธันวาคม) นายกฯระบุตรึงดีเซลไม่เกินลิตรละ30ถึงก.พ.ปีหน้า

ส่งผลให้ราคาขายปลีกหน้าสถานีบริการน้ำมันของปตท.และบางจาก ปรับลดลงทันที 30 สตางค์ต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2554 โดยราคาน้ำมันดีเซล บี 3 อยู่ที่ 29.69 บาทต่อลิตร และดีเซล บี 5 อยู่ที่ 29.09 บาทต่อลิตร 


ส่วนสาเหตุที่การชดเชยดังกล่าว ทำให้ราคาหน้าปั๊มลดลงได้เพียง 30 สตางค์นั้น

 เนื่องจากขณะนี้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลลดต่ำลงมากอยู่ที่ลิตรละ 1.20 บาทเท่านั้น จากที่ค่าการตลาดอยู่ที่ลิตรละ 1.50 บาท ดังนั้น เงินกองทุนน้ำมันฯที่ใช้ชดเชยดีเซลดังกล่าวจึงต้องนำไปเป็นค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันส่วนหนึ่งด้วย 
"การนำเงินจากกองทุนนำมันเชื้อเพลิง 5,000 ล้านบาทมาพยุงราคาน้ำมันในครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถพยุงราคาน้ำมันดีเซลได้ 1-3 เดือน ซึ่งเงินจำนวนนี้จะพยุงได้นานแค่ไหนก็ขึ้นกับราคาน้ำมันตลาดโลก" นพ.วรรณรัตน์กล่าวและว่า กบง.ประเมินว่าหากราคาน้ำมันอยู่ในระดับ 89- 90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะต้องใช้เงินกองทุนฯ 1,257 ล้านบาทต่อเดือน แต่หากน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มมาอยู่ที่   94-95 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะทำให้กองทุนน้ำมันฯมีภาระเพิ่มขึ้นเป็น 2,600 ล้านบาทต่อเดือน  และหากน้ำมันปรับขึ้นมาอยู่ที่   90-100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล จะทำให้กองทุนน้ำมันฯมีภาระเพิ่มเป็น   4,000 ล้านบาทต่อเดือน


สำหรับสถานกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 14 ธันวาคม 2553 เหลือเงินกองทุนสุทธิ 27,617 ล้านบาท

โดยเมื่อนำเงินกองทุนน้ำมันฯไปอุดหนุนน้ำมันดีเซลและก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) จะทำให้กองทุนน้ำมันฯเหลือเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท  
รมว.พลังงานกล่าวต่อว่า การกำหนดกรอบการใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ไว้ที่ 5,000 ล้านบาท ก็เพื่อต้องการให้มีเงินกองทุนสะสมระดับหนึ่ง สำรองไว้ใช้เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน โดยวงเงินนี้น่าจะช่วยได้ในช่วงฤดูหนาว ที่ราคาน้ำมันมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง เมื่อสิ้นสุดฤดูหนาวของสหรัฐและยุโรป ยอดการใช้น้ำมันดีเซลก็น่าจะลดลง และคงส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกลดลงตามด้วย


ส่วนแนวทางการนำเงินค่าภาคหลวงที่เก็บจากการผลิตปิโตรเลียมมาช่วยชดเชยราคาน้ำมันดีเซลในอนาคตนั้น

นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า เป็นดุลพินิจของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งกระทรวงพลังงานไม่มีอำนาจตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม การจะนำเงินดังกล่าวมาใช้นั้นจะต้องมีการแก้กฎหมายซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร
นพ.วรรณรัตน์ยังกล่าวถึงการแบ่งราคาแอลพีจีเป็น 2 ราคาว่า นายกรัฐมนตรีมีนโยบายชัดเจนให้ตรึงราคาภาคครัวเรือนและภาคขนส่งไว้ระยะหนึ่งจนกว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะดีขึ้น ส่วนแอลพีจีที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมนั้นจะทยอยปรับราคาขึ้นตามราคาตลาดโลก   ซึ่งกรมธุรกิจพลังงานจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแอลพีจีมาหรือ เพื่อเตรียมมาตรการแยกแอลพีจีเป็นสองราคาต่อไป สำหรับการตรึงค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (เอฟที) จะเป็นการเสนอโดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรคกูเลเตอร์)  


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์