ปฏิกิริยาจากสื่อ-คนทั่วโลก อัศจรรย์ใจ พลังภักดีต่อในหลวงของชาวไทย

มติชน

วันมหามงคลของคนไทยเมื่อ 9 มิถุนายน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ในพระราชพิธีฉลองครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เพื่อรับการถวายพระพรจากพสกนิกรทั่วประเทศที่สวมเสื้อสีเหลืองอร่าม และโบกธงทรงพระเจริญปลิวไสว นอกจากจะสร้างความปีติแก่ชาวไทยจนน้ำตาไหล เปล่งเสียงถวายพระพร "ทรงพระเจริญ" กึกก้องยาวนานแล้ว เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ยังได้สร้างความฉงน ฉงาย ทึ่ง แปลกใจให้กับสื่อต่างประเทศอย่างมาก

ความทึ่งและแปลกใจนี้ ส่งผลให้สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักจำเป็นต้องเสริมข้อเขียนเกี่ยวเนื่องกับราชพิธีครั้งนี้ออกไปจากที่ตั้งใจไว้ ทั้งนี้ เพื่อแสวงหาคำตอบว่า เหตุใด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงครองสิริราชสมบัติยาวนานที่สุดในโลก จึงได้รับความเคารพรักและเทิดทูนจากชาวไทยมากมายขนาดนั้น

"โจนาธาน เฮด" ผู้สื่อข่าว บีบีซี นิวส์ แห่งประเทศอังกฤษ แสดงสีหน้าแปลกใจไม่น้อยเมื่อได้รับคำตอบจากสาวรุ่นชาวไทยผู้หนึ่งซึ่งกำลังเดินออกมาหลังจากใช้เวลาเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จฯออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคมเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา คำตอบเป็นภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่นแต่จับใจความได้ว่า "รักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาก รักจนตายแทนพระองค์ท่านได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา"

ร็อบ โคเฮน ผู้สื่อข่าวของวิทยุเสียงอเมริกา (วีโอเอ) ปักหลักรายงานข่าวพิธีเฉลิมฉลองครั้งนี้จากกรุงเทพมหานคร ข้อเขียนชิ้นหนึ่งของผู้สื่อข่าวอเมริกันผู้นี้นำเสนอในเว็บไซต์ของวีโอเอเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา สะท้อนถึงความพยายามที่จะอธิบายต่อบุคคลภายนอกที่ยังไม่กระจ่างชัดนักว่า เหตุใดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งประเทศไทย จึงได้รับความภักดีอย่างถึงที่สุดจากปวงชนชาวไทย พร้อมๆ กับที่ได้รับคำสรรเสริญอย่างยิ่งใหญ่จากต่างประเทศ

"พระมหากษัตริย์ของไทย ซึ่งฉลองวโรกาสครองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปีในสัปดาห์นี้ เป็นที่รู้จักกันในประเทศของพระองค์ว่าทรงเป็น "กษัตริย์นักพัฒนา" จากการที่ทรงให้การสนับสนุนโครงการเพื่อการพัฒนาในชนบทต่างๆ เป็นจำนวนมาก การอุทิศพระองค์เพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรส่งผลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงได้รับความเคารพและยกย่องจากทุกๆ ภาคส่วนของสังคมไทย"

ย่อหน้าถัดมาผู้เขียนบอกเอาไว้ว่า ในการเสด็จพระราชดำเนินออกมหาสมาคม มีคนไทยเรือนล้านเข้าร่วมรับเสด็จฯ และคาดว่าจะมีคนไทยอีกหลายล้านคนร่วมในพิธีฉลองยิ่งใหญ่ในช่วง 3 วันนี้

"ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะความพระอุตสาหะพยายามของพระองค์ในการขจัดความยากจนให้กับคนในประเทศของพระองค์ ทำให้องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงได้รับความเคารพเทิดทูนอย่างกว้างขวาง และนอกจากนั้นยังทรงเป็นองค์ประกอบสำคัญอันทำให้สังคมไทยยังคงความเป็นปึกแผ่น เป็นเอกภาพอยู่ในขณะนี้"

ร็อบ โคเฮน ระบุเอาไว้ในข้อเขียนว่า องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริริเริ่มโครงการต่างๆ มากกว่า 3,000 โครงการ ในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาแหล่งน้ำ และการส่งเสริมสภาวะแวดล้อมให้เหมาะสมกับสภาพการอยู่อาศัย

"ในปี 2493 กษัตริย์หนุ่มให้การสนับสนุนความพยายามในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของอหิวาตกโรค นับตั้งแต่บัดนั้นโครงการของพระองค์ได้วิวัฒน์ขึ้นไปหลากหลายตั้งแต่การให้ความช่วยเหลือในยามฉุกเฉินเรื่อยไปจนถึงการพัฒนาเกษตรกรรม

"โครงการต่างๆ เหล่านี้รวมถึงความพยายามของพระองค์ในอันที่จะเพิ่มขีดผลผลิตในการทำนาข้าว, การปรับปรุงการผสมพันธุ์ปศุสัตว์ และโครงการที่มีนัยสำคัญในด้านแหล่งทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เช่น การพัฒนาพื้นที่ชุ่มน้ำ โครงการแพทย์ประจำหมู่บ้าน, โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ แม้กระทั่งการที่ทรงคิดค้นกระบวนการทำฝนเทียมเพื่อใช้ในระหว่างหน้าแล้งยาวนานในประเทศไทย ล้วนแล้วแต่ได้รับความสนับสนุนจากพระองค์ท่านทั้งสิ้น"

โคเฮนระบุว่า ปรัชญา "เศรษฐกิจพอเพียง" อันหมายถึงการส่งเสริมให้เกิดการเจริญเติบโตอย่างได้สมดุลในระยะยาวและยืนนานคือหัวใจของพระราชภาระเหล่านี้ เพราะกว่าครึ่งหนึ่งของคนไทย 64 ล้านคน ยังคงใช้ชีวิตของตนขึ้นอยู่กับผลผลิตที่ได้จากผืนดิน แม้ว่าอีกส่วนหนึ่งของประเทศจะแปรผันไปเป็นอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วแค่ไหนก็ตาม

"สังคมไทยแทบทั้งหมดได้รับผลประโยชน์จากพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาขององค์พระมหากษัตริย์ไทย ไม่เว้นแม้กระทั่งชนกลุ่มน้อยชาวเขาทั้งหลายทางตอนเหนือของประเทศ

"โครงการปลูกพืชทดแทนต่างๆ สำหรับชาวเขาเหล่านี้ส่งผลให้ไทย ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นประเทศแหล่งผลิตเฮโรอีนแหล่งใหญ่ เกือบจะปลอดจากการปลูกฝิ่นแล้วในขณะนี้ ในขณะที่อีกหลายโครงการกระตุ้นให้ชาวเขาเหล่านี้ยุติการตัดไม้ทำลายป่า เผาพื้นที่ป่าเพื่อทำการเกษตร" ข้อเขียนของ ร็อบ โคเฮน ระบุ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงได้รับการทูลเกล้าฯถวายรางวัลอันเนื่องมาจากผลงานการพัฒนาชนบทของพระองค์มากมาย รวมทั้ง รางวัลล่าสุดที่ทรงได้รับการทูลเกล้าฯถวายจาก นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งกล่าวสดุดีพระองค์ไว้ในโอกาสดังกล่าว ว่า

"พระองค์ทรงเอื้อมพระหัตถ์เอื้อไปยังบรรดาผู้ที่ยากจนที่สุดและเปราะบางที่สุดในสังคมไทย ทรงรับฟังปัญหาของพวกเขาเหล่านั้น และให้ความช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นให้สามารถยืนหยัดดำรงชีวิตของตนเองต่อไปได้ด้วยกำลังของตัวเอง...โครงการเพื่อการพัฒนาชนบทต่างๆ ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังประโยชน์ให้กับประชาชนนับเป็นล้านๆ ทั่วทั้งสังคมไทย"

นั่นไม่เพียงทำให้พระองค์ทรงดำรงสถานะเป็น "กษัตริย์นักพัฒนา" ในสายต่างๆ ของบุคคลภายนอกประเทศเท่านั้น หากแต่ยังส่งผลให้องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงสถิตอยู่ในดวงใจของคนไทยทั้งปวงไปตลอดกาลนาน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในทรรศนะของชาวต่างประเทศ

หมายเหตุ - คัดบางตอนจากการแสดงความคิดผ่านทางเว็บไซต์ของ บีบีซี นิวส์ 9 มิถุนายน 2549

@ เดวิด โมห์เซนี่ -นิวยอร์ก,สหรัฐอเมริกา

"กษัตริย์ของประเทศไทย เป็นพระประมุขพระองค์เดียวที่ยังคงสามารถรักษาอำนาจอธิปไตยของประเทศของพระองค์ไว้ได้ ซึ่งถือเป็นสิ่งพิเศษมากสำหรับประเทศไทย นอกเหนือจากข้อเท็จจริงที่ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชบัลลังก์อยู่ยาวนานกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดเท่าที่มีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ ดูเหมือนว่าคนไทยมีเหตุผลดีพอที่จะรักพระองค์อย่างไม่จางหาย..."

@ แอนดี้ แคนฟีลด์,ร้อยเอ็ด

"ผมใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย และผมจะสวมเสื้อเหลืองในวันนี้ (9 มิถุนายน 2549) พระมหากษัตริย์ไทยของเราเป็นบุคคลอัศจรรย์ เป็นนักบุญ สามารถเทียบเคียงได้กับองค์ทะไลลามะ หรือองค์พระสันตะปาปา พระองค์ทรงพระราชทานแรงบันดาลใจทุกอย่างให้กับเรา แม้กระทั่งกับผู้ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับผม ที่ถือกำเนิดในดินแดนอื่นแต่มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี้"

@ เดวิด-ยอร์ก,สหราชอาณาจักร

"ควรตั้งข้อสังเกตไว้ด้วยว่า ในขณะที่คนไทยนั้นให้ความเคารพในสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสูงสุด แต่กลับเป็นบุคลิกภาพและการอุทิศพระองค์โดยปราศจากเงื่อนไขขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันที่กอรปกันขึ้นเป็นรากฐานของความชื่นชมเคารพยกย่องในพระองค์อย่างลึกซึ้งและใหญ่หลวงอย่างที่พระองค์สมควรได้รับ"

@ สตีฟ-ลอนดอน,สหราชอาณาจักร

"ผมใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯมาเป็นเวลา 4 ปี และผมคงจำเป็นต้องบอกว่า การแสดงออกถึงความเคารพและเทิดทูนที่คนไทยมีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทยนั้น เป็นบางสิ่งบางอย่างที่ประชาชนสหราชอาณาจักรควรเรียนรู้จากพวกเขาให้มากเข้าไว้"

@ โธมัส บราวน์-ว็อกซอลล์,ลอนดอน,สหราชอาณาจักร

"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงดำรงพระองค์อย่างชนิดที่ควรค่าอย่างยิ่งต่อการได้รับความเคารพรักจากปวงชนชาวไทย พระองค์ทรงเป็นศูนย์รวมที่คนไทยทุกคนสามารถพึ่งพิงได้ ไม่ว่าจะมีความแตกต่างระหว่างกันเองมากมายแค่ไหนก็ตาม ซึ่งไม่มีใครอื่นสามารถทำได้เช่นนี้...ผมคิดว่าพระมหากษัตริย์ไทยทรงแสดงบทบาทในแง่ของการให้ความคุ้มครองและยึดถือรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ผู้ที่ปฏิเสธเสรีภาพ ผมอยากให้ทหารของเราต่อสู้เพื่อพระราชาหรือพระราชินีและประเทศชาติ แทนที่จะเป็นรัฐสภาและรัฐบาล"

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์