บอสใหญ่สหพัฒน์ บอกขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เป็นไปไม่ได้

หลังจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศนโยบายการเข้าไปตรวจสอบโครงสร้างต้นทุนสินค้าของผู้ประกอบการ

รวมทั้งการขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำเป็น 300 บาท เพื่อช่วยเหลือเรื่องปากท้องประชาชน ผู้ประกอบการหลาย ๆ ฝ่ายก็มีเสียงสะท้อนต่าง ๆ ตามมา รวมถึงสหพัฒน์ บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่

"บุญชัย โชควัฒนา" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ แสดงทรรศนะถึงนโยบายดังกล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่จะไม่ให้มีการเอาเปรียบ ผู้บริโภคด้วยการค้ากำไรเกินควร แต่ในความเป็นจริงปัจจุบันโครงสร้างราคาสินค้าอุปโภคบริโภคโดยภาพรวมอยู่ในระดับที่ไม่ได้สูงเกินจริง ประกอบกับการแข่งขันในตลาดก็มีความรุนแรงอยู่แล้ว จึงเป็นการยากที่ผู้ประกอบการจะฉวยโอกาสการขึ้นราคา หรือเอาเปรียบผู้บริโภคได้

"คงไม่มีใครกล้าที่จะทำแบบนั้น แม้แต่ค่ายใหญ่ยูนิลีเวอร์ ยังต้องลดราคาลงมา"

บิ๊กบอสสหพัฒนพิบูลย้ำว่า ไม่มีนโยบายเช่นนั้นแน่นอน ยืนยันเสมอว่าจะขึ้นราคาเป็นรายสุดท้าย

"สินค้าที่รัฐบาลควรเข้าไปตรวจสอบ ควรจะเป็นสินค้าที่ผูกขาด หรือมีอำนาจเหนือตลาด ที่สามารถขึ้นราคาได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงคู่แข่ง สินค้าจำเป็น ประเภทอาหารสด ยกตัวอย่างไก่ ไข่ หมู หรือปุ๋ย ฯลฯ ซึ่งธรรมชาติของสินค้าอุปโภคจะไม่เป็นอย่างนั้น"

เขายังได้เสนอว่า หากจะแก้ปัญหานี้ ควรแก้ที่ต้นเหตุที่ทำให้สินค้ามีราคาแพง นั่นคือวัตถุดิบต่าง ๆ ที่เป็นต้นทุนสำคัญของสินค้าอุปโภคบริโภค

ปัญหาส่วนใหญ่มาจากการเก็งกำไรในตลาดโลก อาทิ ราคาน้ำมัน หรือกรณีของแป้งสาลีที่พุ่งขึ้นสูงมากในช่วงที่ผ่านมา โดยรัฐบาลควรเสนอตัวเป็นตัวกลางในการจัดซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ ให้กับภาคเอกชน เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาการเก็งกำไรวัตถุดิบ

ส่วนนโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท ประธานสหพัฒน์ว่า เป็นสิ่งที่เป็นไม่ได้เลย รัฐไม่ควรดำเนินนโยบายเช่นนี้ หากทำจริง จะเป็นเรื่องที่เสียหายมาก ระบบจะพัง นักลงทุนจะหนีหายหมด เหมือนกับกรณีที่นักลงทุนจีนหนีมาลงทุนในตลาดไทย เพราะประเทศจีนมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์