บ.ผลิตยาสิงคโปร์ซื้อลิขสิทธิ์ชุดตรวจโรคตับ - มะเร็งตับมช.

บริษัท ออร์ สแวล เทรดดิ้ง ผู้ผลิตยาจากสิงคโปร์

ซื้อลิขสิทธ์ชุดตรวจโรคตับ - โรคมะเร็งตับ จากนักวิจัย มช. ทุ่มเงินกว่า 5 แสนบาททำสัญญา 5 ปี พร้อมแบ่งยอดขาย 5 % ในปีที่ 3 แถมควักเงินอีกปีละ 2 แสน หนุนทำงานวิจัยชุดตรวจข้อเสื่อมต่อ
 

รศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ

หัวหน้าหน่วยวิจัยด้านวิศวกรรมเนื้อเยื้อ ภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เปิดเผยว่า หลังใช้เวลา 15 ปีในการวิจัยค้นคว้าบุกเบิกและพัฒนาชุดตรวจโรคข้อเสื่อม โรคตับ โรคมะเร็งตับ จนได้รับรางวัลผลงานวิจัยดีเด่นของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ประจำปี 2550 ซึ่งได้ มีการจดสิทธิบัตรไว้เรียบร้อยแล้ว และได้จัดทำเอกสารเผยแพร่เพื่อตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศหลายฉบับแล้ว เช่น Journal of Biological Chemistry ฯลฯ


ล่าสุดบริษัท ออร์ สแวล เทรดดิ้ง จำกัด

ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตยาที่มีคนไทยถือหุ้นอยู่ 95 % ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ เข้ามาซื้อสิทธิบัตรงานวิจัยชุดตรวจโรคตับ และโรคมะเร็งตับ เพื่อนำไปผลิตใช้ในวงการแพทย์แล้ว ข้อตกลงเบื้องต้นทำสัญญากันไว้รวม 7 ปี บริษัทดังกล่าวได้ให้เงินจำนวน 5 แสนบาท สำหรับค่าเทคโนโลยี โดยในช่วง 2 ปีแรกที่ทดลองทำตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยยังไม่มีค่าส่วนแบ่งจากยอดขายให้ แต่จะเริ่มให้ส่วนแบ่งยอดขาย 5 % ปีที่ 3 - 7 โดยเงินทั้งหมดทางคณะแพทย์ มช.จะนำไปใช้เป็นทุนในการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ต่อไป
 

นอกจากนี้บริษัท ออร์ สแวล ยังสนับสนุนเงินให้อีกปีละ 2 แสนบาท

เพื่อให้หน่วยวิจัยด้านวิศวกรรมเนื้อเยื้อ ศึกษาวิจัยชุดตรวจโรคข้อเสื่อมเพิ่มเติม สำหรับนำไปผลิตในเชิงพาณิชย์เพื่อใช้ในวงการแพทย์หากพัฒนาสำเร็จบริษัทดังกล่าวพร้อมซื้อสิทธิบัตรนำไปผลิตเพิ่มเติม
 

"นับเป็นความสำเร็จของนักวิจัยและทีมแพทย์ไทย

ที่สามารถค้นคว้าและผลิตชุดตรวจโรคมะเร็ง มะเร็งตับ และโรคข้อเสื่อมได้โดยการศึกษาวิจัยค้นคว้าในห้องปฎิบัติการเป็นรายแรกของประเทศ และยังขยายผลไปสู่เชิงพาณิชย์เพื่อผลิตใช้ในวงการแพทย์อีกด้วย ถือเป็นการต่อยอดงานวิจัยจากห้องปฎิบัติการสู่สาธารณะ"รศ.ดร.ปรัชญา กล่าว
 

รศ.ดร.ปรัชญา กล่าวอีกว่า

ปัจจุบันมีผู้ป่วยด้วยโรคตับ โรคมะเร็งตับ เป็นจำนวนมาก ทั่วโลกพบมีผู้ป่วยสูงถึง 350 ล้านคน สำหรับประเทศไทยพบมีผู้ป่วยเฉลี่ยปีละ 5 หมื่นคนสูงที่สุดในโลก การคิดค้นชุดตรวจจะช่วยให้การวินิจฉัยโรคทำได้เร็วขึ้น และเสียค่าใช้จ่ายเพียง 1,000 - 2,000 บาทเท่านั้น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์