นํ้ามันลดฮวบขนส่งเตรียมบี้รถโดยสาร

กรมขนส่งทางบกเล็งปรับลดค่าโดยสารรถสารสาธารณะหลังราคาน้ำมันลดฮวบ พร้อมถกคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง

ด้าน“บุญชัย” โผล่ขู่คมนาคมบี้ผู้ประกอบการรถโดยสารลดค่าโดยสารอีก 9 สตางค์ต่อ กม.-รถเมล์ลดอีก 1 บาท ดีเดย์ก่อน 17 ธ.ค.  หากไม่ปรับราคาเตรียมนำมวลชนกว่า 600 คนหิ้วพวงหรีดบุกประท้วงถึงกระทรวงฯ ส่วนผู้ประกอบการย้ำปรับได้แค่ 3 สตางค์ต่อ กม. อ้างเหตุค่าอะไหล่-ค่าครองชีพสูง


เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯอยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล

เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันปรับลดลงค่อนข้างมาก โดยอยู่ที่ลิตรละ 19.84 บาท ซึ่งหากราคาน้ำมันดีเซลยังคงราคาไว้ที่ระดับนี้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ กรมฯจะเสนอเรื่องการปรับลดอัตราค่าโดยสารสำหรับรถโดยสารสาธารณะให้ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกพิจารณาต่อไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะปรับลดค่าโดยสารเป็นเท่าใด เพราะมีปัจจัยอื่นนอกเหนือจากราคาน้ำมันเกี่ยวข้องด้วย ไม่ว่าจะเป็น ค่าจ้างแรงงาน ค่าอะไหล่ ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ถือเป็นต้นทุนเดินรถด้วยเช่นกัน
 
นายบุญชัย รุ่งเรืองไพศาลสุข ประธานเครือข่ายคัดค้านการขึ้นค่าโดยสารสาธารณะ เปิดเผยว่า รถโดยสารประจำทาง ต้องปรับลดค่าโดย สารลงอีกกิโลเมตรละ 9 สตางค์

เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลลดลงต่อเนื่อง ซึ่งการที่ผู้ประกอบการรถโดยสารต่าง ๆ ระบุว่า จะปรับลดลงเพียงกิโลเมตรละ 3 สตางค์นั้น ถือว่าน้อยเกินไปไม่เหมาะสม ซึ่งตนได้มีหลักฐานการปรับลดค่าโดยสาร โดยตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. 48 ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 18.19 บาท จนถึงขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 19.84 บาท ซึ่งรถประจำทางได้ปรับขึ้นค่าโดยสารรวม 15 สตางค์แล้ว
 
ส่วนค่าโดยสารรถเมล์ครีมแดง จะต้องปรับลดราคาลงจาก 7.50 บาท ให้เหลือ 6 บาท ขณะที่รถเมล์ขาวน้ำเงินต้องปรับราคาจาก 8.50 บาท ให้เหลือ 7 บาท

โดยค่าโดยสารทั้งหมดจะต้องปรับราคาก่อนวันที่ 17 ธ.ค. หากไม่ปรับราคาสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชน สมาคมฯ จะมีมาตรการขั้นรุนแรงกว่าการฟ้องศาลปกครองเหมือนที่ผ่านมา เช่น จะนำประชาชนกว่า 500-600 คน นำพวงหรีดจากทุกคนเดินทางมาที่กระทรวงคมนาคม และอาจฟ้องร้องข้าราชการบางคน เพราะถือว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
 
“อย่ามาอ้างว่า ค่าอะไหล่แพง ค่าแรงขึ้นแล้วจะปรับลดค่าโดยสารแค่ 3 สตางค์ต่อ กม. เหมือนเป็นการเล่นละครกัน ถือว่าน้อยเกินไป เป็นการเอาเปรียบผู้โดยสาร จริง ๆ มันต้องลดถึง 9 สตางค์ต่อ กม. และถ้าผู้ประกอบการรายไหน  บอกว่าอยู่ไม่ได้ ขาดทุนก็ให้เลิกกิจการไปได้เลย เพราะกิจการนี้มีกำไรมหาศาล” นายบุญชัย กล่าว
 
ด้าน นายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย กล่าวว่า วันที่ 11 ธ.ค. สมาคมฯได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมการขนส่งทางบก


เพื่อให้กรมฯ ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง พิจารณาอนุมัติปรับลดราคาค่าโดยสารรถร่วมบริการของ บขส. ที่วิ่งให้บริการระหว่างกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และรถวิ่งให้บริการระหว่างจังหวัดลงอีก 3 สตางค์ต่อกิโลเมตร เนื่องจากราคาน้ำมันปรับลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามแม้ราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่อง ก็ไม่สามารถปรับลดราคาค่าโดยสารได้มากกว่านี้ เพราะราคาสินค้าไม่ได้ปรับลดลงตาม รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้จำนวนผู้โดยสารต่อรถ 1 เที่ยว ลดลงประมาณ 30% ด้วย ทำให้รายได้ของผู้ประกอบการขณะนี้ลดลงอย่างมาก
  
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. กล่าวว่า บขส.เตรียมพิจารณาปรับลดราคาค่าโดยสารลง 3 สตางค์ต่อกิโลเมตร เพื่อให้ค่าโดยสารสอดคล้องกับต้นทุน

และผ่อนคลายภาวะค่าใช้จ่ายของผู้ใช้รถโดยสาร หลังจากราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนค่าน้ำมันของ บขส.ลดลง โดยต้องรอคณะกรรมการฯอนุมัติ ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ก่อนเทศกาลปีใหม่ ส่วนกรณีที่ผู้โดยสารที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งได้จองตั๋วโดยสารล่วงหน้า 60 วันจนเต็มแล้วนั้น ทางปฏิบัติหากคณะกรรมการฯ อนุมัติปรับลดค่าโดยสาร ผู้โดยสารที่จองตั๋วเมื่อมาออกตั๋วโดยสารก่อนเดินทาง ก็จะได้รับส่วนลดตามสัดส่วน 3 สตางค์ต่อกิโลเมตรด้วย.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์