น้ำลาวที่เชียงรายแห้งขอด อุตรดิตถ์เร่งช่วยภัยแล้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (9 มี.ค.)  ถึงสถานการณ์ภัยแล้งพื้นที่ จ.เชียงราย ว่า  ได้เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นในหลายพื้นที่น้ำเริ่มขาดแคลน

และพบว่าแม่น้ำหลายสายเริ่มแห้งขอด โดยเฉพาะแม่น้ำลาว ในเขตพื้นที่ อ.เวียงชัย น้ำแห้งขอดหลายแห่ง ชาวบ้านที่ทำการเกษตรสองฟากแม่น้ำได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ขณะเดียวกันพื้นที่ ต.แม่อ้อ ต.สันติสุข และ ต. สันมะเค็ด อ.พาน รวมกันจำนวนกว่า 33 หมู่บ้าน กำลังเดือดร้อนเช่นกันเนื่องจากมีการปลูกข้าวนาปรัง กว่า 20,000 ไร่ และมีพื้นที่ประมาณ 7,000 ไร่ ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ


ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย ประกาศให้ 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.พาน อ.ป่าแดด อ.พญาเม็งราย อ.เวียงชัย และ อ.เมือง เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง เพื่อจะนำงบประมาณฉุกเฉินเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
 

นายอนุสรณ์ เห็นถูก เจ้าหน้าที่จัดสรรน้ำฝายเชียงราย กล่าวว่า ฝายเชียงรายเป็นฝายกั้นแม่น้ำกก ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของ จ.เชียงราย เพื่อใช้ในการอุปโภคปริโภคและทำการเกษตร สภาพอากาศที่แห้งแล้งทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ทางฝายจึงได้ทำการเปิดประตูปล่อยน้ำเพียง 4 บาน และปิดประตูปล่อยน้ำไว้ 7 บาน จากทั้งหมด 11 บาน เพื่อชะลอและกักเก็บน้ำไว้ใช้ในพื้นที่ให้เพียงพอตลอดระยะเวลา 2-3 เดือนนี้ โดยฝายเชียงรายสามารถส่งน้ำไปช่วยเกษตรกรจากการสำรวจในพื้นที่รับผิดชอบที่ขาดแคลนน้ำได้ประมาณ 22,500 ไร่
 

ที่จ.อุตรดิตถ์  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธวัชชัย ฟักอังกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ ศาลากลางชั้น 1


พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ รับผิดชอบในการปฏิบัติงานเพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดสถานการณ์ขึ้นโดยเน้นย้ำให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ได้ให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิดกำหนดมาตรการเร่งด่วนเมื่อมีการร้องขอจากราษฎร โดยจัดหาน้ำอุปโภคบริโภค จัดตั้งศูนย์แจกจ่ายน้ำประจำหมู่บ้าน บริหารจัดการประปาชุมชนให้เพียงพอ พร้อมกับจัดหา แหล่งน้ำเพิ่มเติม เป่าล้างบ่อบาดาล และเพื่อป้องกันการอพยพแรงงานเข้าสู่กรุงเทพฯ พร้อมกับการจ้างงานในหมู่บ้าน ในการระวังโรคที่อาจเกิดขึ้นในฤดูแล้ง 
 

ส่วนปัญหาหมอกควันที่ จ.เชียงใหม่ยังวิกฤติช่วงเช้าวันนี้  สถานีตรวจวัดกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม


จุดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ใจกลางเมืองเชียงใหม่ วัดค่าฝุ่นละอองในอากาศ
PM 10วัดค่าได้สูงถึง 164.4 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินจุดวิกฤติที่ 120 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตร ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่168.2 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้ตัวเมืองเชียงใหม่และอำเภอรอบนอกยังมีหมอกควันปกคลุมหนาแน่น
 

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผวจ.เชียงใหม่ ได้เรียกประชุมตั้งคณะกรรมการเข้ามาช่วยแก้ปัญหาหมอกควันที่ปกคลุมจังหวัดเชียงใหม่


ซึ่งมีค่าฝุ่นละอองขณาดเล็กเกินกว่ามาตรฐาน โดยมีการตั้งคณะกรรมการจากหน่วยงานจากภาครัฐในส่วนต่างๆทั้งหมด 14 คน และแบ่งเป็นคณะกรรมการออกเป็น 4 ชุด เพื่อเข้าไปดูแลในพื้นที่ 24 อำเภอ โดยมอบหมายให้ รอง ผวจ.และปลัดจังหวัดเป็นหัวหน้าควบคุมการทำงาน เพื่อประสานงานบูรณการกับหน่วยงานท้องถิ่น

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์