น่านวิกฤติหนัก ท่วมมิด 2 เมตร

"น้ำท่วมมิดหลังคา"


สถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือยังวิกฤติ โดยเฉพาะที่ จ.น่าน ซึ่งฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องมานานติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างครอบคลุมเกือบทั้งจังหวัด ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 1-3 เมตร ประชาชนได้รับความเดือดร้อนนับแสนคน ล่าสุด ระดับน้ำในแม่น้ำน่านที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนในเขตเทศบาลเมืองน่าน จนกลายสภาพเป็นเมืองบาดาลแล้ว

โดยเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 21 ส.ค. ผู้สื่อข่าว จ.น่าน รายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำน่านได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนในเขตเทศบาลเมืองน่านอย่างรวดเร็ว ระดับน้ำโดยเฉลี่ยประมาณ 50 ซม. ถึง 2 เมตร ส่งผลให้ชาวบ้านขนของหนีน้ำไม่ทัน รถยนต์ที่จอดอยู่ริมถนน เฉพาะในเขตเทศบาล ถูกน้ำท่วมแทบมิดหลังคา รวมแล้วกว่า 1,000 คัน นายปริญญา ปานทอง ผวจ.น่านได้สั่งการให้ระดมกำลัง อปพร. และ นปพ. กว่า 2,000 คน ออกให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะชาวบ้านใน 28 ชุมชนของเขตเทศบาล

ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปอยู่ในที่สูง อย่างเช่นที่ทำการสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และสนามบินจังหวัดน่าน เป็นต้น ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ตัดกระแสไฟฟ้าเป็นการชั่วคราว เพราะระดับน้ำท่วมสูงเกินกว่า 1 เมตร ในส่วนของโรงพยาบาลน่าน ทางเจ้าหน้าที่ต้องขนย้ายผู้ป่วยที่พักอยู่ชั้นล่างขึ้นไปอยู่ชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 แทน นอกจากนี้ ยังขอรับการสนับสนุนเครื่องปั่นไฟสำรองของ อปพร. มาช่วยปั่นกระแสไฟใช้ในโรงพยาบาล โดยเฉพาะห้องผู้ป่วยไอซียู และห้องผ่าตัดด้วย


"ย้ายนักโทษหนีน้ำกว่า 800 คน"


ขณะเดียวกัน นายประเสริฐ ปํ้ากระโทก ผบ.เรือนจำจังหวัดน่าน ได้ประสานมายัง สภ.อ.เมืองน่าน และกองทัพภาคที่ 3 จัดส่งยานพาหนะพร้อมกำลัง ไปขนย้ายนักโทษในเรือนจำกว่า 800 คน ไปอยู่เรือนจำเขาน้อย ที่อยู่ห่างไปประมาณ 2 กม. เป็นการชั่วคราว เนื่องจากเรือนจำจังหวัดน่านมีน้ำท่วมสูงเกินกว่า 1 เมตร บรรดานักโทษต้องยืนแช่น้ำมาตั้งแต่กลางดึกคืนวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมาแล้ว และตลอดทั้งวันยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแต่อย่างใด ขณะที่ความช่วยเหลือจากทางจังหวัดเป็นไปด้วยความยากลำบาก

บรรดาฝีพายแข่งเรือจากชุมชนต่างๆ ได้นำเรือยาวที่ใช้แข่งขันออกมาช่วยเหลือประชาชนตามจุดต่างๆนับสิบลำ สร้างความประทับใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกัน ทางบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้แจ้งงดการเดินรถสายกรุงเทพฯ-ทุ่งช้าง เป็นการชั่วคราว โดยจัดจุดจอดรถรับส่งบริเวณสามแยกเข้า อ.เวียงสา ห่างจาก อ.เมืองน่าน ประมาณ 24 กม.

ต่อมาเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน นายปริญญา ปานทอง ผวจ.น่าน กล่าวภายหลังออกตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในครั้งนี้ถือว่าหนักมาก ในรอบเกือบ 50 ปี ระดับน้ำสูงสุดอยู่ที่ 8.35 เมตร พื้นที่ จ.น่าน ตกอยู่ในสภาพจมบาดาลเกือบทั้งหมด ทั้ง อ.ท่าวังผา ปัว เชียงกลาง ทุ่งช้าง สองแคว เฉลิมพระเกียรติ บ่อเกลือ บ้านหลวง แม่จริม เวียงสา กิ่ง อ.ภูเพียง และ อ.เมืองน่าน โดยมีอยู่ 4 แห่ง ที่ถือว่าวิกฤติมากที่สุดคือ อ.เมืองน่าน ท่าวังผา เวียงสา และกิ่ง อ.ภูเพียง ส่วน อ.นาน้อย และนาหมื่น เป็นพื้นที่สูงไม่มีน้ำท่วมแต่อย่างใด


"การช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก"


ขณะนี้ทางจังหวัดได้ระดมกำลังออกให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่แล้ว แต่ติดขัดตรงที่ความเสียหายเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง เรือท้องแบนและกำลังคนมีไม่เพียงพอ ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก สิ่งที่ต้องการอย่างเร่งด่วนในเวลานี้คือเรือท้องแบน อาหารสำเร็จรูป น้ำดื่ม ไฟฉายพร้อมแบตเตอรี่ ขณะนี้ ระดับน้ำที่ อ.ท่าวังผา และ อ.เมืองน่าน ยังคงมีทีท่าว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากมีน้ำเหนือใน อ.เชียงกลางไหลบ่าลงมาสมทบอีกในช่วงค่ำของวันนี้ (21 ส.ค.)

จึงน่าเป็นห่วงประชาชนที่ยังติดค้างอยู่ตามบ้าน อาจจะเดือดร้อนมากกว่าเดิม ขณะนี้ได้ประสานไปทางกองทัพภาคที่ 3 ขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์และเรือท้องแบนมาเพิ่มเติม ปัญหาอีกอย่างคือพาหนะที่มาช่วยขาดแคลนน้ำมัน เนื่องจากปั๊มน้ำมันถูกน้ำท่วมไม่สามารถให้บริการได้ โรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมประกาศหยุดการเรียนการสอนแล้ว ผวจ.น่านกล่าว

ส่วนที่ จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำยังคง ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่กิ่ง อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย อย่างหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ ต.โชคชัย จำนวน 10 หมู่บ้าน ต.หนองป่าก่อ 6 หมู่บ้าน และที่ ต.ปงน้อย อีก 6 หมู่บ้าน โดย ระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ยประมาณ 30 ซม. และหลายแห่งสูง กว่า 1 เมตร นายกมล ห่อนบุญเหิม ปลัดหัวหน้ากิ่ง อ.ดอยหลวง ได้นำเรือท้องแบนไปประจำตามหมู่บ้านต่างๆอย่าง เร่งด่วนแล้ว ส่วนที่หมู่บ้านแม่บงใต้ หมู่ 5 ต.หนองป่าก่อ น้ำได้ไหลบ่าท่วมถนนภายในหมู่บ้านถูกตัดขาด


"น้ำไม่มีทีท่าว่าจะลดลง"


เจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือท้องแบนขนอาหารและน้ำดื่มไปส่งให้ชาวบ้าน ด้วยความยากลำบาก และระดับน้ำยังไม่มีทีท่าว่าลดลงเนื่องจากยังคงครึ้มฟ้าครึ้มฝนตลอดทั้งวัน ขณะที่พื้นที่ทางการเกษตรที่ส่วนใหญ่เป็นนาข้าว ถูกน้ำท่วมขังประมาณ 10,000 ไร่ เพราะการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขง เป็นไปด้วยความลำบาก เพราะแม่น้ำโขงหนุนสูงกว่าระดับปกติประมาณ 5.20 เมตร

ด้านนายสุเทพ เดชศรีชัย หัวหน้าสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย กล่าวว่า ได้เกิดดิน สไลด์ตัวเข้าทับบ้านจนพัง 1 หลัง ที่หมู่บ้านห้วยหยวกป่าโซ ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง โดยเป็นบ้านหลังเดิม ที่เคยเกิดเหตุการณ์ดินถล่มทับบ้านจนทำให้สองแม่ลูกเสียชีวิตเมื่อปี 2547 แต่ครั้งนี้โชคดีกว่าตรงที่ไม่มีคน เสียชีวิต ส่วนปัญหาดินถล่มลงมาปิดถนนทางเข้าหมู่บ้านห้วยหยวกป่าโซได้แจ้งให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่สลองใน นำเจ้าหน้าที่ไปตักดินออกเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.แพร่ นายสัมฤทธิ์ วิชัยทา ป้องกันจังหวัดแพร่ เผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำยมยังไม่น่าห่วง แต่ก็ได้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่การเกษตรในที่ลุ่มไปแล้วนับพันไร่ ส่วนใหญ่เป็นไร่ข้าวโพดที่ปลูกกันติดลำน้ำยม พื้นที่ที่เสียหายมากที่สุด คืออำเภอสอง ส่วนสะพาน หมู่ที่ 8 ตำบลหัวเมือง ถูกน้ำยม ท่วมจนใช้การไม่ได้ ด้านศูนย์อุทกวิทยา จ.แพร่ รายงานว่า มีประชาชนจำนวนมากทยอยกันไปเฝ้าตรวจสอบและดูความเคลื่อนไหวของระดับน้ำ ซึ่งล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. วัดได้ที่ศูนย์อุทกวิทยา 7.42 เมตร หากน้ำเหนือไม่เสริมและน้ำทรงตัวก็จะไม่เกิดอันตราย


"หวั่นท่วมสูงเกิน 8 เมตร ท่วมถึงแพร่"


แต่หากน้ำเหนือหนุนฝนยังตก ปริมาณน้ำเกินกว่า 8 เมตร ก็จะไหลเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองแพร่บางส่วน และอำเภอที่จะได้รับผลกระทบคือ อ.สูงเม่น ลอง หนองม่วงไข่ วังชิ้น ส่วนจังหวัดพิษณุโลกและสุโขทัยจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนหากปริมาณแม่น้ำยมที่แพร่สูงเกิน 8 เมตร จึงขอให้ประชาชนเฝ้าฟังประกาศเตือนเป็นระยะๆด้วย

นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย เผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในภาคเหนือว่า ร่องฝน กำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เกิดน้ำท่วมหนักใน จ.น่าน 10 อำเภอ และ 1 กิ่งอำเภอ ถนนสายหลักถูกตัดขาดถึง 7 สาย ได้ระดมกำลังพร้อมเรือท้องแบน 25 ลำ และถุง ยังชีพอีก 2,000 ชุด เข้าไปช่วยเหลือแล้ว ส่วนที่ จ.เชียงรายมีน้ำท่วม 2 อำเภอ และ 1 กิ่งอำเภอ คือ อ.เชียงแสน อ.แม่สาย และกิ่ง อ.ดอยหลวง

เย็นวันเดียวกัน ทางกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสถานการณ์ฝนตกหนักในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ว่า ร่องความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรง ยังคงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาวตอนบน ทำให้ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย และพิษณุโลก มีฝนตกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ต่อเนื่องไปอีก 1-2 วัน ขอให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ ในพื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ลุ่มบริเวณจังหวัดที่กล่าวมาระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย


"เร่งระดมความช่วยเหลือด่วน"


ที่ท่าอากาศยานกรุงเทพ เช้าวันที่ 21 ส.ค. พล.อ. เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในหลายจังหวัด ว่า ได้สั่งการ ให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบัญชาการทหารสูงสุด ไปแบ่งมอบงานต่างๆให้กับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของทุกเหล่าทัพเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย โดยจะส่งทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะเรือท้องแบน เข้าไปช่วยเป็นการด่วน

ทางด้าน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 3 และหน่วยต่างๆในพื้นที่เร่งช่วยเหลือประชาชนให้รอดพ้นจากภัยพิบัติในครั้งนี้โดยด่วน โดยแบ่งความรับผิดชอบให้มณฑลจังหวัดทหารบกน่านช่วย เหลือในพื้นที่ อ.เมืองน่าน และ อ.เวียงสา กองพันทหารม้าที่ 10 ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ อ.ท่าวังผา กองพันทหารม้าที่ 15 ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่บ้านสบยาว บ้านอาชาม บ้านนาหนุน อ.ท่าวังผา และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 32

ช่วยเหลือประชาชนใน ต.แสงทอง ต.สบเปือ อ.ท่าวังผา ต.ชนแดน อ.สองแคว ต.ปอน อ.ทุ่งช้าง นอกจากนี้ กองทัพบกได้จัดส่งเฮลิคอปเตอร์จากศูนย์การบินทหารบก จ.ลพบุรี ได้แก่ ฮท.47 (ชินุค) ฮท.1 (เบลล์ 412 อีพี) ติดรอกและอุปกรณ์กู้ภัยทางอากาศ และ ฮ.แบล็กฮอร์ค (ยูเอช-60 ดี) จำนวน 6 ลำ รวมทั้งชุดกู้ภัยใต้น้ำจากกรมรบพิเศษที่ 4 อีก 1 ชุดปฏิบัติการกำลังพล 300 นาย รถยนต์บรรทุก 21 คัน ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้ รับความเดือดร้อนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก หมายเลข 0-2280-2533 และ 0-2297-7771


"เร่งสูบระบายน้ำอย่างเต็มที่"


ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ เมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ที่มีระดับน้ำสูงมากว่า ได้ติดตามสถานการณ์จากผู้ว่าราชการจังหวัดน่านมาโดยตลอด มั่นใจว่าภายในวันนี้น้ำจะลดลง และต้องใช้เวลาอีกสักระยะจึงเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ เป็นห่วงพื้นที่ อ.เมือง ที่สถานการณ์น้ำท่วมยังทรงตัว โดยได้มีการสั่งอพยพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว

และคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาในอีก 2-3 วันนี้ สถานการณ์น่าจะคลี่คลายลงบ้าง ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมขังมีหลายปัจจัย ที่สำคัญคือ การสร้างสาธารณูปโภคกีดขวางเส้นทางน้ำไหล ประกอบกับฝนตกหนักเฉพาะจุด ทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้ยากลำบาก ดังนั้น จากนี้ไปจึงขอเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะมีการก่อสร้างสิ่งต่างๆต้องมีการวางผังเมืองให้ ถูกต้องด้วย

ในส่วนของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว. เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ ว่า จากรายงานพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ จ.น่าน บางส่วนของ จ.พะเยา และเชียงราย ได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งระบายน้ำในพื้นที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ที่มีฝนตกรุนแรงที่สุด 259 มม. น้ำท่วมสูงกว่า 2 ม. ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4 วันกว่าน้ำจะลด ทางกรมชลฯได้ระดมเครื่องสูบน้ำ 1,200 เครื่องเร่งสูบน้ำในพื้นที่ดังกล่าวระบายน้ำลงสู่แม่น้ำน่าน จากนั้นจะผันน้ำทั้งหมดลงสู่เขื่อนสิริกิติ์


"ใช้งบประมาณ 580 ล้านบาท"


ซึ่งสามารถรับน้ำได้อีก 3,062 ล้าน ลบ.ม. เพราะปริมาณน้ำในเขื่อนมีเพียง 60% เท่านั้น นอกจากนี้ ในวันที่ 22 ส.ค. จะเสนอ ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเรื่องการแก้ไขปัญหาถนนขวางกั้นทางน้ำไหล ซึ่งมีทั้งหมดทั่วประเทศ 3,848 แห่ง จะเร่งดำเนินการในปี พ.ศ.2550 จำนวน 402 แห่ง ใช้งบประมาณ 580 ล้านบาท โดยจะทำเป็นท่อลอด เพื่อระบายน้ำผ่านถนนต่างๆ

ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงผลกระทบจากน้ำท่วมในภาคเหนือ ว่า ขณะนี้โรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมขังได้สั่งหยุดการเรียนการสอนหมดแล้ว รอจน กว่าสถานการณ์จะคลี่คลายจึงจะเปิดการเรียนการสอนตามปกติ สำหรับความเสียหายทางด้านอุปกรณ์การเรียนการสอนนั้นเท่าที่ทราบมีเพียงเล็กน้อย เพราะมีการขนย้ายอุปกรณ์การเรียนการสอนและเครื่องคอมพิวเตอร์ไปอยู่ในที่สูงหมดแล้ว แต่ก็มีบางส่วนที่ย้ายไม่ทัน ตรงจุดนี้จะจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าต่อไป ในส่วนของนักเรียนนั้นจะมีการสอนชดเชยในภายหลังเช่นกัน


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์