นศ.ปี4 เชื่อนโยบายเงินเดือน15,000 กระทบหางาน


ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ(กรุงเทพโพลล์) เผยผลสำรวจความคิดเห็นของนิสิต นักศึกษาชั้นปีสุดท้ายที่เรียนอยู่ในสถาบันอุดมศึกษาทั้งรัฐและเอกชนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจำนวน 1,185 คน

พบว่าส่วนใหญ่เมื่อเรียนจบแล้วอยากทำงานในหน่วยงานเอกชน (ร้อยละ 39.6) รองลงมา คือ ประกอบธุรกิจส่วนตัว (ร้อยละ 25.7) หน่วยงานราชการ (ร้อยละ 18.2) และ รัฐวิสาหกิจ (ร้อยละ 16.5) ตามลำดับ


ทั้งนี้นิสิตนักศึกษาร้อยละ 41.9 ไม่แน่ใจในนโยบายของรัฐบาล นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ที่ให้ผู้ทำงานวุฒิปริญญาตรีมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาท ว่าจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ ในขณะที่ ร้อยละ 29.5 เชื่อว่าทำได้ และ ร้อยละ 28.6 เชื่อว่าทำไม่ได้

อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางที่รัฐบาลจะดำเนินนโยบายดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น การให้เริ่มมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2555 เป็นต้นไป (เห็นด้วยร้อยละ 61.7) การใช้คุณภาพของบัณฑิตเป็นตัวชี้วัดว่าใครควรจะได้ค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท (เห็นด้วยร้อยละ 57.1) และ สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาตรีขึ้นไปแต่รายได้ยังต่ำกว่า 15,000 บาทใช้วิธีเพิ่มค่าครองชีพ เพื่อให้ได้รับเงินเดือนรวมแล้วเป็น 15,000 บาท ต่อเดือน (เห็นด้วยร้อยละ 56.9)

นิสิตนักศึกษาส่วนใหญ่เห็นว่าหากนโยบายข้างต้นมีผลบังคับใช้จริงจะส่งผลกระทบต่อการหางานเมื่อจบการศึกษาถึง ร้อยละ 69.4 (ได้แก่ อาจทำให้หางานยากขึ้น และเกณฑ์ในการรับสมัครน่าจะเข้มขึ้น ฯลฯ) ขณะที่ร้อยละ 30.6 ระบุว่าไม่ส่งผลกระทบ (โดยให้เหตุผลว่า เรียนในสาขาที่มีงานรองรับอยู่แล้ว มีสถานประกอบการเยอะ และตั้งใจจะเรียนต่อปริญญาโท ฯลฯ) 

สำหรับความกังวลต่อนโยบายดังกล่าวคือกังวลว่าบริษัทเอกชนจะเปิดรับผู้ที่จบปริญญาตรีเข้าทำงานลดลงร้อยละ 30.0 รองลงมาคือกลัวจะถูกเลิกจ้างเมื่อทำงานไปได้ระยะหนึ่ง เพราะหน่วยงานแบกรับภาระเรื่องค่าจ้างไม่ไหว ร้อยละ 18.5 และกลัวจะไม่มีงานทำและว่างงาน ร้อยละ 17.9

ส่วนเรื่องที่อยากฝากบอกรัฐบาล นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มากที่สุดคือ ให้เร่งทำทุกนโยบายให้เป็นจริงตามที่ได้หาเสียงไว้ ร้อยละ 33.0 รองลงมาคือ ให้ประเทศพัฒนายิ่งขึ้น และนึกถึงประโยชน์ของประชาชนมาก่อน ร้อยละ 12.0 และให้ตั้งใจทำงานให้เต็มที่ ร้อยละ 10.4



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์