นร.ไทยถึงดอนเมืองรับสุดผวาเหตุร้ายในอียิปต์

นร.ไทยถึงดอนเมืองรับสุดผวาเหตุร้ายในอียิปต์

นักเรียนไทยชุดแรกเดินออกจากอียิปต์ เดินทางถึงกทม.แล้ว เล่าเหตุการณ์นาทีระทึกทหารยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม

วันที่ 19 ส.ค. ที่สนามบินดอนเมือง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในอาคารผู้โดยสารขาออก อาคาร 1 สนามบินดอนเมือง โดยที่เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานดอนเมืองได้อำอวยความสะดวกโดยจัดที่นั่งไว้ให้อยู่บริเวณประตูทางออก 1 ท่ามกลางเหล่าบรรดาญาติของนักเรียนที่ไปศึกษาต่อที่ประเทศอียิปต์มารอรับกันอย่างเนืองแน่น ด้วยความใจจดใจจ่อเป็นจำนวนมาก

นางสาวไอรดา บุญมาเลิศ ฮานาฟี อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า

มารอรับน้องสาวและน้องชายที่ไปศึกษาต่อมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัดที่เมืองไคโร ประเทศอียิปต์ เป็นห่วงน้องเพราะเหตุการณ์ที่นู้นค่อนข้างรุนแรง จะมีการติดต่อกันทางเฟสบุ๊คตลอด แต่ทางน้องจะบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงเพราะอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน ก่อนหน้านี้เพื่อนๆของน้องบางส่วนได้เดินทางกลับมาประเทศไทยแล้ว แต่ส่วนตัวน้องรอคำสั่งจากรัฐบาลไทยที่จะไปรับ

ด้านนายอนันต์ ม่วงอุมิงค์ อายุ 48 ปี ชาวจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า มารอรับหลานชายวัย 23 ปี

ที่ได้ทุนไปศึกษาต่อมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัดที่เมืองไคโร ตอนแรกหลานโทรมาบอกว่าที่พักอยู่ห่างจากเหตุความรุนแรง แต่พอดีทางสถานกงศุลได้ติดต่อมาว่าจะส่งตัวหลานชายกลับเพราะเป็นห่วงความปลอดภัย โดยตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ทางเราจะทราบข่าวจากสถานกงศุลที่จะแจ้งให้ทราบตลอดเวลา ซึ่งจะดูว่าอยู่ที่นู่นมีความปลอดภัยไหม

ส่วนทางด้านนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า  มีนักเรียนไทยที่ไปศึกษาต่อที่เมืองไคโร

ประเทศอียิปต์ 800-900 คน โดยในวันนี้แบ่งเป็นสามรอบเที่ยวบินที่จะมีนักเรียนไทยเดินทางกลับมา 631 คน โดยทางสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาได้มีการตั้งโต๊ะเพื่อรับฟังปัญหาและความต้องการว่าจะกลับไปศึกษาต่ออีกหรือไม่ หรือถ้าไม่กลับไปศึกษาต่อก็สามารถเทียบโอนหน่วยกิตกับทางอียิปต์มาที่ไทยได้ โดยทางคณะกรรมการจะเป็นผู้ประสานงานให้ทั้งหมด โดยติดต่อได้ที่หมายเลข 02-6105200


นร.ไทยถึงดอนเมืองรับสุดผวาเหตุร้ายในอียิปต์

ขณะที่ดร.สรจักร เกษมสุวรรณ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

จากกรณีเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศอียิปต์ รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานจัดเที่ยวบินพิเศษ นำคนไทยอพยพออกจากอียิปต์มาส่งที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมอบหมายให้การบินไทยร่วมจัดเที่ยวบินพิเศษเพื่อรับคนไทยที่ต้องอพยพออกจากประเทศอียิปต์ ณ จุดรับส่งที่เมืองดูไบ เดินทางกลับสู่ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ

สำหรับเครื่องบินที่ใช้ลำเลียงคนไทยในประเทศอียิปต์กลับประเทศไทยจากท่าอากาศยานดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  เป็นเครื่อง 747 ของการบินไทยจำนวน 1 ลำ

และเครื่อง 737 เช่าเหมาลำอีก 2 ลำ เนื่องจากสถานกงสุลใหญ่สามารถจัดให้คนไทยเดินทางกลับไทยด้วยเครื่องบินพาณิชย์ทั้งหมด จึงยังไม่มีความจำเป็นใช้เครื่อง C130 สถานกงสุล ณ นครดูไบแจ้งว่า เครื่องเช่าเหมาทั้งสองลำจะเดินทางถึงสนามบินดอนเมืองเที่ยวแรกจำนวน 368 คน จะถึงท่าอากาศยานดอนเมืองในเวลา  14.05 น. และเวลา 16.30 น. ตามลำดับ

ต่อมาเมื่อเวลา 14.45 น. นักเรียนไทยชุดแรกที่เดินทางด้วยสายการบินไทย
 
เที่ยวบินที่ TG 8477 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานดูไบเมื่อเวลา 05.12 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) วันที่ 19 ส.ค. ถึงท่าอากาศยานกรุงเทพ ดอนเมือง เวลา 14.05 น. ท่ามกลางญาติมารอรับจำนวนมาก เมื่อออกจากประตู 1 ทันทีที่เจอหน้ากันต่างเข้าผวาโผกอดร้องไห้ด้วยความคิดถึง โดยมีเจ้าหน้าที่ ขสมก. จัดรถประจำทางจำนวน 15 คัน มารอรับส่งนักเรียนไทยไปยังในเขตกรุงเทพมหานคร อาทิ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หมอชิต ดินแดง ขนส่งสายใต้ใหม่ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

นายมูฮำหมัด รุสดี อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดปัตตานี หนึ่งในนักเรียนไทยในเมืองไคโร ประเทศอียิปต์

เล่าถึงเหตุการณ์การประท้วงที่ค่อนข้างรุนแรงว่า สถานการณ์ที่อียิปต์ค่อนข้างน่ากลัว และได้ยินเสียงปืน ตัวเองหลบอยู่แต่ในบ้านและแอบดูเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงที่ห่างจากที่พักไม่มากนัก โดยมองเห็นทหารยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมโดยไม่มีการพูดคุยอะไรกัน และสถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้นทุกวัน เงินสดจากตู้เอทีเอ็มที่มีก็เริ่มกดไม่ได้ ราคาอาหารและน้ำก็เริ่มแพงขึ้น เช่น น้ำเปล่าปกติราคา 3 ปอนด์ ปรับเป็น 10 ปอนด์

โดยก่อนหน้านี้มีเพื่อนจากประเทศมาเลเซียได้เดินทางกลับบ้านมาก่อนแล้ว

ส่วนทางผมสถานทูตได้มีการติดต่อกับทางสมาคมนักเรียนทุนเพื่อกระจายข่าวผ่านทางเฟสบุ๊คว่าใครมีความประสงค์จะกลับเมืองไทย จึงรับตัดสินใจเดินทางกลับทันที ต่อจากนี้ก็จะรอดูอีกทีว่าจะกลับไปเรียนต่อไหม เพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรงกว่าที่ผ่านมา

ด้านน.ส.ศรัญญา ชมเผ่า อายุ 24 ปี นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยไคโร ประเทศอียิปต์ เล่าว่า เหตุการณ์เริ่มรุนแรงตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค. โดยมีผู้ชุมนุมจำนวนมากเริ่มทยอยกันร่วมตัวประท้วงตามแหล่งสถานที่ต่างๆ

ต่อมาไม่กี่วันทหารเริ่มมีการสลายการชุมนุม ตนและเพื่อนคนอื่นๆจึงได้หลบอยู่แต่ในหอพักใกล้กับมหาวิทยาลัย
 
โดยได้ยินเสียงปืนพร้อมกับเสียงดังคล้ายระเบิดอยู่เป็นระยะๆ พอตนมองผ่านออกหน้าต่างไปก็เห็นคนนอนตายอยู่เป็นจำนวนมากตามท้องถนน ตนก็เลยตัดสินใจติดต่อกับสถานทูตเพื่อขอเดินทางกลับประเทศไทยทันที ซึ่งตนได้ไปเรียน 6 ปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่รุนแรงอย่างนี้มาก่อน ส่วนถ้ามีโอกาสจะเดินทางกลับไปเรียนต่อนั้นก็คงต้องขอดูอีกที.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์