นพดลเปิดห้องห้างทองตาย-ต่อสู้มา11ปี

"นพดล" เปิดบ้านธรรมวัฒนะ เปิดใจตรงจุด "ห้างทอง" ยิงตัวตาย หลังศาลอุทธรณ์พิพากษาให้พ้นมลทิน

คดีฆาตกรรมพี่ชาย เผย 11 ปีที่ผ่านมาต้องสูญเสียทุกอย่าง ค่าทนาย 10 ล้าน ธุรกิจ การดำเนินชีวิต แต่ดีใจที่พี่น้องกลับมาเข้าใจรักใคร่กัน 6 ก.ย. เปิดบ้านทำบุญครบวันตายพี่ชาย เตรียมแถลงพร้อมหน้าแฉผู้อยู่เบื้องหลัง และได้ประโยชน์ จวกยับ"หมอพรทิพย์"ฉวยโอกาสสร้างผลงาน โดยเอาตระกูลธรรมวัฒนะเป็นเหยื่อ ยื่นเอาผิดทั้งแพทยสภา และศาล

เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่บ้านธรรมวัฒนะ ย่านสะพานใหม่ ถ.พหลโยธิน กทม. นายนพดล ธรรมวัฒนะ นักธุรกิจชื่อดัง

ให้สัมภาษณ์หนัง สือพิมพ์ข่าวสด ภายหลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้องกรณีตกเป็นจำเลยคดีฆาตกรรมนายห้างทอง ธรรมวัฒนะ อดีตส.ส. กทม. พรรคประชากรไทย พี่ชาย ซึ่งต้องต่อสู้คดีมาอย่างยาวนานถึง 11 ปี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนพดลเปิดห้องนอนของตนเองภายในบ้านพัก นั่งให้สัมภาษณ์บนเก้าอี้ตรงจุดที่นายห้างทอง พี่ชาย ยิงตัวตายเมื่อ 11 ปีก่อน โดยกล่าวก่อนให้สัมภาษณ์ว่า เดินผ่านจุดที่นายห้างทองเสียชีวิตทุกวัน ทุกครั้งจะตั้งจิตอธิษฐานไปถึงพี่ชายช่วยให้ผ่านพ้นคดีความและเรื่องราวร้ายๆ

จากนั้นนายนพดลเปิดใจให้สัมภาษณ์ว่า ประเด็นสำคัญที่ทำให้ศาลอุทธรณ์พิพากษายื่นยกฟ้องนั้น เนื่องจากความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ซึ่งตนยืนยันมาเสมอโดยตลอด และความเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตนเอง เป็นสิ่งสำคัญในการต่อสู้คดี

ทายาทเจ้าของตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิจารณาว่า ไม่มีประเด็นใดที่จะต้องพิจารณาถึงตัวจำเลยซึ่งก็คือตน

เพราะก่อนจะพิจารณาถึงตัวจำเลยได้ต้องตัดสินให้ได้ว่านายห้างทอง ฆ่าตัวตาย หรือถูกฆาตกรรม เมื่อปรากฏหลักฐานว่า ฆ่าตัวตาย จึงไม่ต้องพิจารณาประเด็นอื่น จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น นายนพดลกล่าวต่อว่า การผ่าชันสูตรศพนายห้างทอง ครั้งที่ 3 ที่มีคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชในประเทศไทยเข้าร่วมผ่า 10 กว่าคน และเข้าร่วมสังเกตการณ์อีกกว่า 20 คน ทุกขั้นตอนทุกอย่างทำตามหลักวิชาการ ถือเป็นข้อพิสูจน์สำคัญ แต่ประเด็นการรื้อฟื้นคดีของพ.ญ. คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ หรือหมอพรทิพย์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ยกขึ้นมาคือเรื่องนิติวิทยาศาสตร์ และนิติเวช ศาสตร์

"11 ปีที่ผ่านมาผมตกเป็นเหยื่อของหมอพรทิพย์ สาเหตุที่หมอพรทิพย์ต้องทำเช่นนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2542 ที่ตำรวจนครบาลแถลงข่าวสรุปการเสียชีวิตของพี่ห้างทอง หลังจากแถลงข่าวหมอพรทิพย์ไปออกรายการหนึ่ง ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี หรือไม่เคยมาดูที่เกิดเหตุ เพราะผู้ที่จะเกี่ยวข้องในตอนนั้นได้ตามกฎหมายคือเจ้าพนักงานท้องที่ แต่หมอพรทิพย์ดูภาพจากหนังสือพิมพ์ก็ไปออกรายการและพูดว่าเป็นการฆาตกรรม และพูดว่ามีการจัดฉาก อ้างว่าถ้าเป็นการฆ่าตัวตายปืนต้องตกพื้น ตามทฤษฎีของหมอพรทิพย์เอง" น้องชายนายห้างทองกล่าว

น้องชายนายห้างทองกล่าวอีกว่า หลังจากนั้นประเทศไทยประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คือฉบับปี 2540 ในรัฐธรรมนูญบัญญัติว่าให้มีการจัดตั้งหน่วยงานใหม่

คือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แต่ว่าในการจะตั้งกระทรวง ทบวง กรมตามรัฐ ธรรมนูญใหม่ได้นั้น จะต้องมีการร่างพ.ร.บ.ขึ้นมารองรับ สำหรับดีเอสไอมีพ.ร.บ.มารองรับจึงตั้งหน่วยงานดีเอสไอได้ แต่สถาบันนิติวิทยา ศาสตร์ เร่งสร้างผลงานเพื่อออกพ.ร.บ. จึงนำตนมาเป็นเหยื่อ แต่ท้ายที่สุดถึงตอนนี้พ.ร.บ.ก็ยังไม่ผ่าน เพราะเป็นพ.ร.บ.รวบอำนาจ ยึดอำนาจนิติเวชต่างๆ ไว้ในมือหมด

"วิธีการสร้างผลงานคือก่อนมาสนิทชิดเชื้อกับพี่น้องฝ่ายที่เป็นปรปักษ์ของผม จะมีผลประโยชน์อย่างอื่นหรือไม่ ถึงแม้รู้ผมก็พูดไม่ได้ โดยใช้สื่อมวลชนเป็นเครื่องมือ เฉพาะในปี 2546 หมอพรทิพย์ได้ออกรายการโทรทัศน์ทุกช่อง กว่า 200 ชั่วโมง ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ถ้านำมาคำนวณเป็นงบประชาสัม พันธ์แล้วต้องใช้เงินเป็นหมื่นๆ ล้านถึงจะทำได้ จึงได้ดำรงตำแหน่งผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์มาจนถึงทุกวันนี้" นายนพดลกล่าว

นายนพดลกล่าวต่อว่า 11 ปีที่ผ่านมา ตนต้องเสียทั้งเงินจ้างทนายความ ค่าดำเนินการคดีมากกว่า 10 ล้านบาท เสียเวลา เสียชื่อเสียง

เสียโอกาสทางธุรกิจที่ต้องขายหุ้นของบริษัทด้วยราคาขาดทุน ถูกประณามจากสังคม รวมถึงกระทบต่อการดำเนินชีวิตทั้งหมด จึงเข้าร้องเรียนเพื่อเอาผิดหมอพรทิพย์ต่อแพทยสภา เป็นเวลาเกือบ 5 ปีแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่หลักฐานแพทยสภาไม่ต้องไปหาที่ไหน ตนมอบให้ทั้งหมด ไม่ว่าการปรากฏตัวในรายการโทร ทัศน์ทุกช่อง หรือเนื้อหาการให้สัมภาษณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาจึงไม่รู้ว่าประเทศชาติสูญเสียงบประมาณไปเท่าไหร่เพื่อจะเอาคนบริสุทธิ์เข้าคุกให้ได้ ไม่มีหลักการกฎหมายที่ไหนในโลกทำแบบนี้ แต่ดีว่าตนยังมีบุญเก่า พอมีทุนทรัพย์ มีความรู้อยู่บ้าง เพราะแค่ค่าประกันตัวก็สูงถึง 6 ล้านบาท ถ้าไม่มีเงินตรงนี้ คงติดคุกเป็นสิบๆ ปีไปแล้ว

นายนพดลกล่าวว่า อยากฝากถามไปถึงแพทยสภาว่า การตัดสินว่าหมอพรทิพย์ถูกหรือผิดมันยากมากใช่หรือไม่

เพราะร้องหมอพรทิพย์ตั้งแต่ปี 2549 ถึงวันนี้ 2553 ยังไม่ตัดสิน ถ้าตัดสินว่าไม่ผิดจากหลักฐานที่ตนยื่นให้ ตนจะได้ไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองต่อไป จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นห่วงว่าแพทยสภาจะมีไว้ทำไม จะมีไว้เพื่อปกป้องแพทย์ของตัวเองหรือดูแลทุกข์สุขของประชาชน

นายนพดลกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้ยื่นฟ้องหมอพรทิพย์ต่อศาลอาญาเรื่องเบิกความเท็จ เพราะเขียนในรายงานต่อศาลอย่างหนึ่ง แต่ไปเบิกความอีกอย่างหนึ่ง

แล้วตกลงว่าอันไหนเป็นของจริง ตอนนี้ศาลอาญามีคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวให้รอผลคดีสังหารนายห้างทองเสร็จสิ้นเสียก่อน จึงจะพิจารณาคดีต่อไป แต่ในส่วนของแพทยสภานั้นในวันที่ 3 ก.ย. ตนจะเดินทางไปยื่นคำพิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์ให้กับแพทยสภา เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาความผิดของ หมอพรทิพย์ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเห็นอย่างไรต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าตระกูลธรรมวัฒนะเป็นตระกูลอาถรรพ์ เพราะมีคนในตระกูลเสียชีวิตไปแล้วหลายคน ทายาทตระกูลธรรมวัฒนะกล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ใช่เช่นนั้น เพราะนางสุวพีร์ ธรรมวัฒนะ มารดา สอนให้ทุกคนเป็นคนดี แต่ยอมรับว่าคนเรามีสามัญสำนึกแตกต่างกัน ย่อมมีความแตกต่างกัน ขั้นตอนความสำเร็จก็แตกต่างกัน คนไม่สำเร็จจึงหันเหไปในทิศทางไม่ถูกต้อง แต่การเสียชีวิตของคนในครอบครัวนั้น เป็นการเสียชีวิตที่แม้จะผิดธรรมชาติ เป็นการฆาตกรรม แต่เหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์เกิดต่างเวลากัน และส่วนใหญ่เกิดจากบุคคลภายนอก แล้วการนำเสนอของสื่อมวลชนก็เหมารวมว่า พี่น้องทำกันเอง ซึ่งมันไม่ใช่

"จุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง เกิดขึ้นจากมีพี่น้องบางคน ที่ต้องพึ่งทรัพย์สินมรดกในการดำรงชีวิต แต่ประกอบธุรกิจไม่สำเร็จจึงย้อนกลับมาตักตวงเอาในกองมรดก นอกจากนี้ยังตักตวงในส่วนของคนอื่นที่สูญหายและเสียชีวิตอีก ผมจึงลุกขึ้นมาห้ามปราม จึงเกิดความไม่พอใจ และคิดกำจัดผมเพื่อไม่ให้มีใครขวาง ที่รื้อฟื้นคดีนี้ขึ้นมาก็เพราะต้องการกลบเกลื่อนเรื่องนี้ แต่วันนี้จิตสำนึกของคนที่คิดถูกมีอยู่บ้าง ในวันที่ 6 ก.ย.นี้จะแถลงรายละเอียดลึกๆ ว่าเป็นอย่างไร จะแถลงถึงข้าราชการหลายระดับ รวมถึงปลัดกระทรวงที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่มาเกี่ยว ข้องอย่างไรจะต้องฟังในการแถลงข่าวอีกที รวมถึงบุคคลที่ได้ประโยชน์จากการเสียชีวิตของนายห้างทองด้วย" นายนพดลกล่าว

นายนพดลกล่าวในตอนท้ายว่า วันที่ 6 ก.ย. ครอบครัวพี่น้องจะทำบุญครบรอบวันเสียชีวิตของนายห้างทอง โดยญาติทั้งหมดที่เคยเป็นปฏิปักษ์กันจะมาเปิดใจแถลงถึงความจริงที่เกิดขึ้นช่วง 11 ปีที่ผ่านมา บรรยากาศจะดีกว่าทุกปี เพราะพี่น้องอีกฝ่ายหนึ่งแสดงความจำนงมาร่วมงานด้วย รวมถึงนายจังหวัด ธรรมวัฒนะ บุตรชายนายห้างทองก็จะมาร่วมงานเช่นกัน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์