ทุ่ม60ล้านบาททำโดมหิมะให้ลูกแพนด้า

ระทึก!!!"แพนด้าน้อย"ตกพื้นอีก"หลินฮุ่ย"ทำเสียวลื่นไถลจากตัวแม่ตกพื้น ทีมสัตวแพทย์ ชี้ ปล่อย ลูกตะกายพื้นไม่รีบคาบ

ระบุ เป็นวิวัฒนาการอีกขั้นที่ดีขึ้น พร้อมชันตัวยืนเองได้ แพนด้าน้อย  โชว์พัฒนาการที่เร็วกว่ามาตรฐานทั่วไป น้ำหนักถึง 325 กรัม ยาว 19 ซม. เตรียมแยกออกจากอกแม่ สวนสัตว์เชียงใหม่ เร่งสร้างโดมหิมะ 60 ล้าน รับขวัญ  ด้านจังหวัดเตรียมพิธีล้านนายิ่งใหญ่
 
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 4 มิ.ย. นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย และสัตวแพทย์หญิงกรรณิการ์ นิ่มตระกูล และนายเว่ยหมิง ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศจีน

ได้นำแพนด้าน้อย “ไท้ซิน อ้อแอ้” ที่มีอายุครบ 9 วัน ออกมาทำการชั่งน้ำหนักและตรวจวัดร่างกาย พบว่ามีน้ำหนักถึง 325 กรัม และมีความยาว 19 เซนติเมตร มีสภาพที่แข็งแรงมาก ใบหูมีสีดำชัดเจนมาก และที่ตลอดแนวหัวไหล่มีสีดำปรากฏเห็นชัดเจนถึงขาหน้าที่สอง ถือว่าเป็นจุดหนึ่งที่มีพัฒนาการขึ้น นายประเสริฐศักดิ์ เปิดเผยว่า แพนด้าน้อย มีการพัฒนาที่รวดเร็วมาก ถือว่าเร็วกว่ามาตรฐานลูกหมีแพนด้าทั่วไป อีก 1-2 วัน น้ำหนักน่าจะเพิ่มขึ้นไปอีกเฉลี่ยวันละ 30-50 กรัมขึ้นไป คือ น้ำหนักจะก้าวกระโดดไปในแต่ละวัน และเมื่ออายุครบ 10 วัน ก็คงจะแยกจากแม่จากทุก 5 วันก็จะเปลี่ยนเป็น 3 วัน เพราะพัฒนาการแพนด้าเร็วมาก จึงต้องติดตามผลอย่างใกล้ชิด การที่ต้องนำออกมาจากหลินฮุ่ยก็เพื่อต้องการให้หลินฮุ่ยได้ยืดแข้งยืดขาบ้าง เพราะเมื่อมีลูกอยู่หลินฮุ่ยก็เอาแต่อุ้มไม่ยอมนอนยอมกินเพราะห่วงลูก ขณะที่ทางนายเว่ยหมิง ผู้เชี่ยวชาญจีนถึงกับออกปากชมว่า แพนด้าน้อยของไทยแข็งแรง โตไว
 
นอกจากนี้ ในวันเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ยังได้ทำการทดลองเดินเครื่องผลิตหิมะภายในส่วนจัดแสดงแพนด้าเพิ่มเติม

ที่จะมีการจำลองสภาพความเป็นอยู่ตามธรรมชาติของแพนด้าในประเทศจีน ด้วยการสร้างหิมะเทียม และจะมีการนำแพนด้าออกมาจัดแสดงในช่วงฤดูหนาว ส่วนช่วงที่เหลือของปีจะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปใช้บริการและทำกิจกรรมได้ ซึ่งส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าเพิ่มเติมมูลค่า 60 ล้านบาท แห่งนี้ คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในช่วงกลางเดือนนี้ แต่กว่าจะนำแพนด้าเข้าไปจัดแสดงได้คงต้องรอถึงช่วงปลายปีที่เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว
 


สำหรับการจัดตั้งศูนย์วิจัยพัฒนาแพนด้าร่วมไทย-จีนนั้น นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า ตามปกติในประเทศจีนมีศูนย์ในลักษณะดังกล่าวกระจายอยู่หลายแห่งทั่วประเทศ

ทำหน้าที่ในการดูแลและวิจัยแพนด้าเป็นหลัก ซึ่งในส่วนของไทยนั้น หากมีการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวก็จะทำงานประสานสอดคล้องกับศูนย์ที่มีอยู่ของจีน ทั้งนี้ โดยศักยภาพที่มีอยู่ของโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย มั่นใจว่าจะสามารถยกระดับสู่การเป็นศูนย์ได้ และการจัดตั้งศูนย์นี้ก็จะทำให้แพนด้าสามารถอยู่ในประเทศไทยต่อไปได้ เพื่อศึกษาวิจัยระยะยาว
 
นายเมธี พยอมยงค์ บุตรชาย ศ.เกียรติ คุณ ดร.มณี พยอมยงค์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 49 กล่าวว่า ตามที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้ติดต่อขอให้บิดาแนะนำการจัดพิธีรับขวัญแพนด้าน้อย ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมประเพณีล้านนา

เนื่องจากขณะนี้ คุณพ่อยังพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ. จึงไม่แน่ใจว่าจะหายทันเวลาทำพิธีรับขวัญแพนด้าน้อยหรือไม่ แต่หากอาการดีขึ้น ก็จะเข้าร่วมทำพิธีรับขวัญอย่างแน่นอน เท่าที่ทราบพ่อได้แจ้งทางจังหวัดเชียงใหม่ ให้เตรียมการจัดพิธีรับขวัญแพนด้าน้อยแบบล้านนาครั้งนี้แล้ว โดยจะมีพิธีแห่เครื่องบายสี เรียกขวัญอย่างยิ่งใหญ่ รวมทั้งจะมีพิธีผูกข้อมือรับขวัญเหมือนกับคนทั่วไป   แต่เนื่องด้วยแพนด้าทั้ง 3 ตัว อยู่ในกรง และเกรงว่าไม่สามารถเข้าไปผูกข้อมือได้ จึงคิดว่าน่าจะมีการใช้สายสิญจน์ล้อมรอบคอกของหมีแพนด้า จากนั้นก็จะเชิญบุคคลสำคัญ ทำพิธีคล้องสายสิญจน์ พร้อมกับเดินถือสายสิญจน์ วนด้านขวารอบกรง 3 รอบ ก็เสร็จสิ้นพิธี
  
ต่อมาเมื่อเวลา 13.45 น. วันเดียวกัน ขณะที่หลินฮุ่ยกำลังนอนตะแคงซ้ายอยู่ที่พื้น แพนด้าน้อยซึ่งนอนอยู่ในอ้อมกอดแม่

แต่อยู่ในจุดที่ต่ำลงมาที่บริเวณกลางลำตัวหลินฮุ่ยได้ลื่นไถลจากร่างของแม่ลงมาที่พื้น แต่สิ่งที่ทีมสัตวแพทย์สังเกตเห็นคือ ครั้งนี้หลินฮุ่ยไม่ใช้ปากคาบลูกขึ้นมาในทันที แต่กลับจ้องมองไปที่ลูก และทดลองปล่อยให้แพนด้าน้อยได้ใช้แขนขา และตัวตะเกียก ตะกายไปกับพื้นอยู่อึดใจใหญ่ประมาณ 5 วินาที กระทั่งเจ้าหน้าที่ซึ่งเฝ้ามองอยู่ จึงต้องเป็นฝ่ายใช้มือเข้าไปเก็บลูกแพนด้าน้อยขึ้นไปวางไว้บนตัวของหลินฮุ่ยแทน
  
นายประเสริฐศักดิ์  กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้แสดงให้เห็นว่าหลินฮุ่ยเริ่มทดสอบความแข็งแรงของลูก

ซึ่งทุกครั้งหากคลายมืออกแพนด้าน้อยจะส่งเสียงร้องให้รู้ว่าไม่พร้อมที่จะรับกับสภาพภายนอกที่ไม่มีความอบอุ่นของแม่ แต่คราวนี้เมื่อหลินฮุ่ยปล่อยแพนด้าน้อยให้ตะเกียกตะกายอยู่ที่พื้นปรากฏว่าแพนด้าน้อยกลับไม่ร้องแสดงว่าแพนด้าน้อยเริ่มปรับตัวกับสภาพอากาศภายนอกได้ดีขึ้น หลังจากนี้คาดว่าหลินฮุ่ยจะยอมปล่อยลูกมากขึ้น จะไม่ใช่ลักษณะที่ลูกหลุดจากมือแล้วคาบขึ้นทันที

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์