ที่แท้ก็ตำรวจ! อุ้มรีดเงินนศ.

ที่แท้เป็นตำ- รวจจริงก่อเหตุทรัพย์ 2 น.ศ.ชาย-หญิงในขนส่งสายใต้

ตร.ตรวจจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพได้ชื่อ"จ่าถวิล-จ่าเชษฐ์"สังกัดบก.น.7 และกองปราบปราม เจ้าทุกข์ชี้รูปยืนยันไม่ผิดตัว แฉจำได้แม่นยำเพราะถูกจับอยู่กับคนร้ายนานกว่า 1 ชั่วโมง เร่งประสานต้นสังกัดส่งตัวมารับทราบข้อกล่าวหา ก่อนส่งเรื่องให้ป.ป.ช.ดำเนินการ เพราะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ

จากกรณีคนร้ายสองคนอ้างตัวเป็นตำรวจจับตัวนายณัฐพงษ์ ภิรมย์รักษ์ อายุ 21 ปี นักศึกษามหา วิทยาลัยเอเชีย ชั้นปี 2 คณะศิลปศาสตร์ และน.ส.ปวศิรา ชัยเดช อายุ 20 ปี นักศึกษาสถาบันเดียวกัน ยัดข้อหาว่ามียากล่อมประสาท 50 เม็ด จับใส่กุญแจมือขังในรถยนต์โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน สษ 9013 กทม.

เหตุเกิดภายในสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ถ.บรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน ข่มขู่ให้โทรศัพท์หามารดา คือนางกัลยา ภิรมย์รักษ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 ต.เกร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เพื่อให้โอนเงิน จำนวน 20,000 บาท เข้าบัญชีแฟนบุตรชายเพื่อแลกกับอิสรภาพตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุได้เรียกนายณัฐพงษ์ ภิรมย์รักษ์ พร้อม มารดาและแฟนสาว มาสอบปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดและรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย ที่อ้างตัวเป็นตำรวจรีดไถเงินจำนวน 20,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว

โดยฝ่ายสืบสวนได้นำกำลังลงพื้นที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ซึ่งพบว่าพื้นที่ขนส่งสายใต้ใหม่นั้น มีตำรวจหลายหน่วยงานร่วมกันรับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าวทั้งตำรวจ 191 ตำรวจกองปราบฯ ตำรวจพื้นที่บก.น.7 และตำรวจปส. เนื่องจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่นั้นเป็นจุดรวมผู้โดยสารที่เดินทางมาลงรถ

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในสถานีขน ส่งสายใต้ใหม่ ผู้เสียหายดูแล้วพบคนร้ายดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าเป็นตำรวจจริง โดยคนหนึ่งชื่อ "จ่าถวิล" สังกัดบก.น.7 อีกคนชื่อ "จ่าเชษฐ์" อยู่กองปราบปราม จึงนำภาพมาให้เจ้าทุกข์ดู

ชี้ยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจริง ซึ่งนักศึกษาทั้ง 2 คนจำหน้าได้แม่นยำเนื่องจากอยู่กับคนร้ายและพูดคุยกันนานกว่า 1 ชั่วโมง เบื้องต้นแจ้งข้อหาทั้งสองว่าร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ซึ่งจะประสานต้นสังกัดและออกหมายเรียก มาทราบข้อหา ก่อนจะส่งเรื่องให้ป.ป.ช.ดำเนินการ เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ