ทลายแก๊งปล้นโชว์รูมรถ ตระเวนลงมือทั่วประเทศ จนมุมตร.ภูธร6-คดีอื้อ

แก๊งคนร้ายตระเวนลักทรัพย์ตามโชว์รูมรถยนต์ยังคงออกอาละวาดไปทั่ว

ก่อนหน้านี้ตำรวจภาค 7 รวบแก๊งลักทรัพย์ตามโชว์รูมไว้ได้ยกแก๊ง ทำกันทั้งครอบครัว ออกโจรกรรมทรัพย์ในเขตท้องที่จ.นครปฐม และอีกหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯและชานเมือง

แต่แล้วในที่สุดก็ถูกจับยกแก๊ง!!

มาคราวนี้เป็นคิวของแก๊งปล้นโชว์รูมรถที่ตำรวจภาค 6 รวบตัวได้ พวกนี้ลงมือหนักหน่วงไม่แพ้กัน ออกตระเวนลักทรัพย์ตามโชว์รูมรถยนต์และบริษัทชั้นนำทั้งทางภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพฯ เป็นกลุ่มที่ตำรวจกำลังต้องการตัวมานานแล้ว

พอลงมือปล้นทรัพย์ในเขตนครสวรรค์จึงถูกจับ

เหตุคนร้ายบุกปล้นทรัพย์โชว์รูมรถยนต์กลางเมืองนครสวรรค์ เกิดขึ้นกลางดึกวันที่ 8 ส.ค. คนร้าย 6 คน อาวุธครบมือสวมหมวกไหมพรมบุกปล้นทรัพย์บริษัท อีซูซุเสนีย์ยนต์ จำกัด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จับยามเฝ้าโชว์รูมมัดไว้ ก่อนยกตู้เซฟเอาเงินไปได้ 3 แสน

ตำรวจวางแผนแกะรอยคนร้ายทันที

ด้วยเพราะเมืองนครสวรรค์ไม่ค่อยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนใหญ่คนร้ายจะอาละวาดในเขตภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑลมากกว่า มาคราวนี้บุกถึงนครสวรรค์แสดงว่าพวกมันกำลังขยายแหล่งหากินมาถึงที่นี่

พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.ภาค 6 จึงสั่งการให้พล.ต.ต.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ รอง ผบช.ภาค 6 จัดทีมสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายแก๊งนี้ มอบหมายให้พ.ต.อ.จิระวัฒน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.หน.ศสส.ภาค 6 พ.ต.อ.ธวัชชัย มวญนรา ผกก.สส.ภาค 6 พ.ต.ท.เทียนชัย วิเศษเกรียงไกร พ.ต.ท.สมพร ทองรอด รอง ผกก. และพ.ต.ท.จิรัฎฐ์ ดอกไม้ สว.สส.ภาค 6 เฝ้าดูความเคลื่อนไหวของพวกมัน

เจ้าหน้าที่นำแผนประทุษกรรมการปล้นทรัพย์ตามโชว์รูมรถ

ในท้องที่อื่นมาเป็นไกด์ในการทำงาน พบว่าก่อนหน้านี้มีคดีปล้นทรัพย์ตามโชว์รูมรถยนต์เกิดขึ้นหลายท้องที่ ไม่ว่าจะเป็นจ.นครปฐม สิงห์บุรี อ่างทอง นนทบุรี และกรุงเทพฯ ซึ่งการทำงานของคนร้ายในลักษณะนี้ จะมีอยู่ไม่กี่กลุ่ม เพราะการปล้นโชว์รูมจะต้องใช้คนมากและต้องอาศัยความชำนาญ ซึ่งดีตรงที่ความเคลื่อนไหวของพวกมันเป็นที่รู้กันในกลุ่มมิจฉาชีพ เลยทำให้ง่ายต่อการติดตาม

ตำรวจจึงเข้าใกล้ตัวมันมากขึ้น

หลังจากตำรวจภาค 6 เดินตามแนวนี้ไม่นาน ก็ได้รับรายงานจากสายที่คลุกคลีอยู่ในวงการ ว่าห้วงนั้นมีนายอานนท์ สอาดศรี อายุ 33 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 232/2 หมู่ 7 ต.ถอนสมอ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี หัวหน้าแก๊งปล้นทรัพย์ทั่วภาคกลางและตะวันออก และพรรคพวกได้เข้ามาป้วนเปี้ยนในเขตนครสวรรค์ เจ้าหน้าที่จึงเช็กความเคลื่อนไหวในการใช้โทรศัพท์ของพวกมัน พบว่ามากันทั้งแก๊ง เกือบ 10 คน

พอเกิดเหตุปล้นโชว์รูมอีซูซุเสนีย์ยนต์ คนร้ายแก๊งนี้ก็ล่าถอยกลับไปตั้งหลักอยู่ที่อ.บ่อไร่ จ.ตราด ซึ่งเป็นแหล่งกบดาน

เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐานอย่างอื่นเพิ่มเติมอีกจนเริ่มแน่นหนาพอ จึงขออนุมัติออกหมายจับนายอานนท์ก่อน

วันที่ 12 ส.ค. ชุดสืบสวนภาค 6 นำทีมโดยพ.ต.อ.จิระวัฒน์ พ.ต.ท.เทียนชัย เข้าชาร์จจับกุมนายอานนท์ไว้ได้ แถมยังได้ตัวพรรคพวกร่วมแก๊งอีก 2 คน คือ น.ส.นิภาภัทร สูติยะพันธุ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 232/2 หมู่ 7 ต.ถอนสมอ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี และนายทองหล่อ แพรเขียว อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 6 ต.ราษฎรพัฒนา อ.สามโก้ จ.อ่างทอง ขณะกำลังกบดานอยู่ด้วยกัน

จากการสอบปากคำนายอานนท์ ให้การว่า

ร่วมกับพวกที่ยังหลบหนีอยู่อีก 6 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ที่โชว์รูมอีซูซุเสนีย์ยนต์จริง พร้อมแฉรายชื่อเพื่อนร่วมแก๊งที่เหลือ ประกอบด้วย นายนุช สอาดศรี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 290 หมู่ 8 ต.หนองไผ่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์, นายพรเทพ แพรเขียว อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 6 ต.ราษฎรพัฒนา อ.สามโก้ จ.อ่างทอง, นายมนัส สอาดศรี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 290 หมู่ 8 ต.หนองไผ่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ นายสุรชาติ หรือโด่ง ตลาดเงิน , นายกฤษณะ หรือนะ โสภักดี, และนายประคอง แพรเขียว

ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธ

หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยไม่มีเหตุอันควร, ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น หรือรับของโจร

เตรียมล่าตัวพวกที่เหลือเข้าคุกตามลูกพี่

สำหรับพฤติการณ์การโจรกรรมทรัพย์นั้น นายอานนท์เล่าว่า จะเน้นเฉพาะบริษัท สำนักงาน และโชว์รูมรถใหญ่ๆ เท่านั้น เพราะทำแล้วคุ้มค่าเหนื่อย ก่อนหน้านี้ทำมาแล้วหลายท้องที่ วันที่ 14 พ.ค. ก่อเหตุปล้นทรัพย์ศูนย์บริการอีซูซุ สาขาอ.แกลง จ.ระยอง ได้เงินสดไปกว่า 1 แสน วันที่ 15 พ.ค. ปล้นทรัพย์บริษัท บุญถาวรเซรามิค จ.สมุทรสาคร ได้เงินสด 1 แสน วันที่ 18 มิ.ย. ปล้นโชว์รูมเบนซ์ จ.ชลบุรี ได้ทรัพย์สินไปจำนวนหนึ่ง วันที่ 24 มิ.ย. ลักทรัพย์ที่บริษัท ชลบุรี ฮอนด้า เมืองชลบุรีได้ทรัพย์สินไปกว่า 2 แสน วันที่ 28 มิ.ย. ปล้นทรัพย์บริษัท กวงไถ่มอเตอร์เซล ได้เงินสดและทรัพย์สินไปอีก

วันที่ 18 ก.ค. ปล้นโชว์รูมโตโยต้าปราจีนบุรี ได้เงินสดไปร่วมแสน วันที่ 19 ก.ค. ก่อเหตุลักทรัพย์ห้างหุ้นส่วนนางรองเคหะภัณฑ์โฮมมาร์ท จ.บุรีรัมย์ รุ่งขึ้นอีกวันลักทรัพย์บริษัท จึงคงเฮงอีซูซุ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้ทรัพย์สินไปร่วมแสน ขนาดร้านเสริมสวยในเมืองจันทบุรีก็ยังไม่เว้น มันยังแอบเข้าไปขโมยคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไป 1 เครื่อง วันที่ 8 ส.ค. พยายามปล้นทรัพย์ที่บริษัท ฮอนด้าพิจิตร ก่อนจะมาลงมือปล้นทรัพย์ที่โชว์รูมรถยนต์ในจ.นครสวรรค์ อันเป็นสถานที่ลงมือแห่งสุดท้ายของพวกมัน

หลังจากนั้นไม่นานก็เดินชักแถวเข้าตะราง

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์