ทนายเอกยุทธยันบอลแฉสิ้นผู้บงการชื่อส.

ทนายเอกยุทธยันบอลแฉสิ้นผู้บงการชื่อส.


'ทนายเอกยุทธ'พาทีมทนายโต้ตำรวจ ยัน'บอล'แฉสิ้นผู้บงการอดีตเจ้านายชื่อ ส. พันนักการเมือง สั่งอุ้ม แย้ม 'ฮาร์ดดิสก์' ลับยังไม่ถูกทำลาย

 

กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง สำหรับคดีฆาตกรรมโหดนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง โดยก่อนหน้านี้ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ อดีตทนายความของนายเอกยุทธ ออกมาระบุถึงนายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือบอล ผู้ต้องหา ได้กลับคำให้การขณะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยบอกว่ากลุ่มคนมีสีเป็นผู้รับงานสังหารลูกความจำนวน 3 ล้านบาท ขณะเดียวกันในฝั่งของตำรวจได้ออกมาตอบโต้ว่า ได้ส่งพนักงานสอบสวนเข้าไปพูดคุยกับนายบอลที่เรือนจำเช่นกัน พร้อมบอกว่า นายบอลยืนยันว่าเป็นคงลงมือสังหารนายเอกยุทธ และไม่เคยพูดว่า คนมีสีเป็นคนลงมือฆ่า อีกทั้งยังอ้างว่า ได้สำรวจรายชื่อผู้เข้าเยี่ยมจากเจ้าหน้าที่เรือนจำ ไม่พบว่าทีมทนายของนายสุวัตรเข้าไปพูดคุยกับนายบอลแต่อย่างใด

 เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 16 สิงหาคม ที่บริษัทกฎหมายอรุณอมรินทร์ จำกัด นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความนายเอกยุทธ อัญชันบุตร พร้อมด้วย น.ส.อัจฉรา แสงขาว หนึ่งในทีมทนายของนายสุวัตร ออกมาแถลงข่าวพร้อมกับนำเอกสารเกี่ยวกับบริษัทที่นายสันติภาพ หรือบอล เคยทำงานมาก่อนหน้านี้ มาชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ทีมทนายขอยืนยันว่า เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายบอลให้ญาติติดต่อมาหา เพื่อจะบอกข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเรื่องการตายของนายเอกยุทธ ต่อมาได้ส่งตัวแทน ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมทนายความ คือ น.ส.อัจฉรา ไปพบกับนายบอล พร้อมมอบหน้าที่เป็นตัวแทนในการสอบปากคำนายบอล โดยเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา น.ส.อัจฉรา ได้ติดต่อขอเข้าพบนายบอลที่เรือนจำช่วงเวลาประมาณ 14.00น. เมื่อพบกันนายบอลบอกว่า จะเล่าความจริงให้ฟังทุกอย่าง แต่มีข้อแม้คือ อยากให้ทางทนายความช่วยดูแลครอบครัวด้วย 

 น.ส.อัจฉรา เล่าถึงการเข้าพบนายบอลที่เรือนจำว่า เมื่อพบกันได้สอบถามนายบอลว่า ไม่กลัวอันตรายหรือหากเล่าให้ฟัง ซึ่งในขณะที่กำลังสนทนากันอยู่เกรงว่าอาจจะถูกดังฟังอยู่หรือไม่ แต่นายบอลตอบว่า ไม่กลัว เพราะตอนนี้ครอบครัวกำลังลำบาก หากทนายความนายเอกยุทธรับปากจะช่วยดูแลครอบครัวจะเล่าความจริงทั้งหมด จากนั้นนายบอลเล่าว่า เคยทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง โดยเจ้าของบริษัทชื่อนาย ส. เบื้องต้นทราบว่า นาย ส.มีความสนิทสนมกับกลุ่มนักการเมืองคนหนึ่ง ต่อมาเมื่อนายบอลลาออกมาอยู่กับนายเอกยุทธ ปรากฏว่าเจ้าของบริษัทชื่อนาย ส. ได้ติดต่อมาหา พร้อมบอกว่า สนใจรับงานหรือไม่ ซึ่งนายบอลตัดสินใจรับงานดังกล่าว

"จากนั้นให้นายบอลติดต่อกับทีมอุ้ม ซึ่งเป็นคนมีสี โดยก่อนหน้านี้เคยตกลงวางแผนกันมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่สบโอกาส กระทั่งในวันเกิดเหตุเมื่อนายเอกยุทธลืมปืนไว้ในรถ นายบอลจึงตัดสินใจประสานทีมอุ้มเพื่อลงมือกระทำการ โดยนายบอล และนายเบิ้ม เป็นเพียงตัวละคร เพราะมีทีมอุ้มฆ่าอีกทีมมารับช่วงต่อ โดยนายบอลยังบอกว่า ลองคิดดูผมจะนำศพนายเอกยุทธลงไปที่พัทลุงได้อย่างไรโดยที่ไม่เจอด่านตำรวจ เพราะปกติจะขับรถชิดขวาตลอด และเมื่อพบด่านตำรวจกลับปล่อยรถผมผ่านไป ซึ่งการทำงานครั้งนี้นายบอลบอกว่ามีเบอร์พิเศษในการทำงาน ส่วนเรื่องฮาร์ดดิสก์ลับที่หายไป นายบอลบอกว่า ไม่ได้ทุบทำลายตามที่เคยให้การต่อตำรวจไว้ แต่ผมนำไปฝังดิน เนื่องจากฮาร์ดดิสก์ไม่สามารถทำลายได้ง่าย ดังนั้นหลักฐานทุกอย่างยังคงอยู่และสามารถสาวไปยังผู้บงการเรื่องนี้ได้” น.ส.อัจฉรา กล่าว

  นายสุวัตร แถลงต่อว่า ภายหลังจากได้ข้อมูลมาจึงให้ทีมทนายตรวจสอบไปยังบริษัทที่นายบอลอ้างถึงว่า เจ้าของบริษัทชื่อ ส.มีตัวตนจริงหรือไม่ ทางทนายได้คัดหนังสือรับรองพบว่า บริษัทดังกล่าวมีที่ตั้ง และที่อยู่จริงตามที่นายบอลกล่าวอ้าง โดยมีนาย ส.เป็นเจ้าของบริษัทจริง ส่วนข้อเท็จจริงตามที่นายบอลเล่ามาข้างต้นนั้น ยังไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือไม่ แต่หากเป็นข้อมูลที่ถูกต้องจะเป็นประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนคดีนี้" นายสุวัตร กล่าว

 นายสุวัตร กล่าวต่อว่า อยากขอความกรุณาทีมพนักงานสอบสวนช่วยสอบสวนนายบอลใน 5 ประเด็นดังต่อไปนี้ 


1.นายบอลเคยทำงานอยู่ที่บริษัทดังกล่าวหรือไม่ 


2.นาย ส.มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับนักการเมือง 


3.นายบอลและนาย ส.เคยไปที่ทำการของนักการเมืองหรือไม่อย่างไร


 4.ฮาร์ดดิสก์ฝังอยู่ที่ไหน เนื่องจากฮาร์ดดิสก์เป็นหลักฐานที่จะนำไปสู่การหาทีมที่อุ้มฆ่าตัวจริง และขอให้พนักงานสอบสวนค้นหาฮาร์ดดิสก์ดังกล่าวมาให้ได้ และ 


5.เรื่องที่นายบอลอ้างว่ามีรถนำศพนายเอกยุทธไปยัง จ.พัทลุง 3 ช่วง เพื่อเป็นใบเบิกทางมีอยู่จริงหรือไม่ และเป็นรถของใคร ซึ่งวันที่ 17 สิงหาคม จะส่งสำเนาเอกสารที่กล่าวมาไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันพิสูจน์คดีนี้ต่อไป

นายสุวัตร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.น.มาแถลงข่าวว่า ทีมทนายความไม่ได้ไปพบนายบอล ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีนั้น นับเป็นเรื่องตลกมาก คิดง่ายๆ เมื่อนายบอลเคยขอให้ช่วยดูแลพ่อแม่ เพื่อแลกกับการที่นายบอลจะให้ข้อมูลแก่ทางทนาย ส่วนเรื่องที่ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีนี้ ไปแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไปสอบสวนนายบอลถึงในคุกอีกครั้ง โดยนายบอลยืนยันคำให้การเดิม แถมยังนำสำนวนคำให้การในชั้นสอบสวน ซึ่งเป็นความลับในคดีมาแสดงต่อสื่อมวลชน ทั้งที่สำนวนการสอบสวนต้องเป็นความลับ จะเอามาเปิดเผยไม่ได้

 "การเข้าไปเยี่ยมนักโทษ หรือผู้ต้องขังในเรือนจำ มีขั้นตอนคือ ต้องเป็นญาติ หรือเป็นทนายความ ซึ่งเรือนจำจะสอบถามผู้ต้องขังว่า จะยินยอมให้ผู้เยี่ยมเข้าพบหรือไม่ หากผู้ต้องขังไม่รู้จักก็จะไม่ออกมา ดังนั้นการเยี่ยมจึงต้องมีหลักฐานการขอเข้าเยี่ยม วัน เวลาใด ดังนั้นขอให้สื่อมวลชนไปตรวจสอบที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครได้เลยว่า เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2556 เวลา 13.00 น. มีทนายความหญิงชื่อ น.ส.อัจฉรา แสงขาว ไปพบนายสันติภาพ และได้พบในเวลา 14.00 น. จริงหรือไม่" นายสุวัตร กล่าว

 ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวว่า คณะพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้สรุปสำนวนการสอบสวนคดีฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร ส่งมอบให้อัยการเรียบร้อยแล้วในช่วงเช้าที่ผ่านมา ตามกำหนดเวลาที่แจ้งไว้ และได้รายงานผลสรุปการสอบสวนคดีไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว ขอยืนยันว่า คดีนี้ตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐาน โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับทราบแล้ว และไม่มีคำสั่งให้มีการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมทางคดี พร้อมกันนี้ก็มีการพิสูจน์ทราบให้ข้อเท็จจริงปรากฏแล้ว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์