ทนายยัน ธัมมชโย รักษาตัวอยู่ที่วัด ไม่คิดหลบหนี

ทนายยัน ธัมมชโย รักษาตัวอยู่ที่วัด ไม่คิดหลบหนี



16 พ.ค. นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้ายื่นเอกสารต่อคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรณีอาการอาพาธของพระธัมมชโย ว่า ในวันนี้ไม่ได้มีการพูดคุยใดๆกับคณะพนักงานสอบสวน เพียงแต่มามอบเอกสารเพิ่มเติมให้ให้กับคณะพนักงานสอบสวนเท่านั้น ซึ่งเป็นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการรักษาอาการอาพาธของพระธัมมชโย อีกทั้ง ยังได้พาแพทย์ 2 คน ที่ถวายการรักษาพระธัมมชโยมาพบพนักงานสอบสวนด้วย เพื่อให้คณะพนักงานสอบสวนได้สอบถาม ส่วนอาการอาพาธของพระธัมมชโย ขอให้สอบถามทางแพทย์ เนื่องจากตนไม่เข้าใจศัพท์ทางการแพทย์ เพราะแพทย์จะเขียนเป็นภาษาอังกฤษและไทยไว้ จึงอยากให้สอบถามแพทย์ดีกว่า ทั้งนี้ น่าจะเป็นไปตามที่แพทย์ทั้ง 2 คนเคยแถลงไว้ก่อนหน้านี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางวัดยังยืนยันตามเดิมหรือไม่ กรณีที่จะให้พนักงานสอบสวนเดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหาที่วัด นายสัมพันธ์ กล่าวว่า ยินดีและพร้อมที่จะให้คณะพนักงานสอบสวนเดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหาที่วัด เนื่องจากพระธัมมชโยยังอาพาธอยู่ อีกทั้ง ยังยินดีให้คณะพนักงานสอบสวนพร้อมแพทย์ที่เป็นกลางเดินทางไปร่วมตรวจสอบพระธัมมชโยที่วัดด้วย อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่หลังวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมายังไม่ได้เข้าไปพบพระธัมมชโยเลย ส่วนเรื่องคดีนั้น ต้องรอทางคณะพนักงานสอบสวนก่อน เนื่องจากยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากคณะพนักงานสอบสวนจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอออกหมายจับอีกครั้ง ทางทนายความจะเดินทางไปคัดค้านหรือไม่ นายเสริมพันธ์ กล่าวว่า ก็คงจะต้องเดินทางไปคัดค้านเหมือนเดิม เพราะพระธัมมชโยยังอาพาธอยู่ และไม่ได้คิดจะหลบหนี

อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ทำเรื่องขอผัดผ่อน มีแต่กลุ่มลูกศิษย์วัดพระธรรมกายเท่านั้น ที่ขอให้ไปตรวจสอบพระธัมมชโยว่าอาพาธจริง ซึ่งการทำเรื่องผัดผ่อนต้องดูตามใบรับรองแพทย์ และขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะพนักงานสอบสวนด้วย

เมื่อถามว่า ทางวัดจะนำแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจไปตรวจอาการป่วยของพระธัมมชโยหรือไม่ เพื่อเป็นการยืนยัน นายเสริมพันธ์ กล่าวว่า เราคงไม่ทำอย่างนั้น เพราะเราไม่ใช่คนไข้ของโรงพยาบาล หากจะทำเช่นนั้น ต้องให้พนักงานสอบสวนเสนอไปยังโรงพยาบาลของรัฐเองจะดีกว่า

ทั้งนี้ ตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว คณะพนักงานสอบสวนสามารถเดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหาที่ไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ก็ได้ เจอที่ตลาด เจอที่ไหนก็สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ทันที สมมติว่าผู้ต้องหาป่วยนอนอยู่ที่โรงพยาบาลพนักงานสอบสวนสามารถเดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหาที่โรงพยาบาลได้หรือไม่ ซึ่งก็ทำได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่กรณีของพระธัมมชโยเป็นการรักษาอยู่ภายในวัด นายเสริมพันธ์ กล่าวว่า ห้องดูแลพระธัมมชโยเป็นห้องปลอดเชื้ออย่างดี ซึ่งแพทย์ก็ได้ออกมาแถลงข่าวแล้ว หากไม่เชื่อแพทย์ก็ไม่รู้จะต้องไปเชื่อใครแล้ว ซึ่งต้องอย่าลืมว่าแพทย์เขาก็มีจรรยาบรรณแพทย์ มีใบประกอบวิชาชีพ ถ้าเขาทำอะไรโดยมิชอบ เขาสามารถถูกถอนใบประกอบวิชาชีพได้เลย ซึ่งใครจะเอาอาชีพเขามาเสี่ยง ส่วนเรื่องภาพถ่ายที่ปรากฏเพียงขาของพระธัมมชโย แต่ไม่เห็นใบหน้านั้น เนื่องจากเป็นสิทธิของคนไข้ ทั้งนี้ พระธัมมชโยไม่ไปรักษาที่โรงพยาบาล เพราะเรามีการตรวจรักษาและจำลองห้องพยาบาลขึ้นมาเองได้ และมีแพทย์เข้ามารักษาได้

"พระธัมมชโยพูดกับผมอยู่ตลอดว่าจะไม่ไปไหน และจะขอตายอยู่ที่วัด ผมไม่ได้นำเรื่องคดีเข้าไปคุยกับพระธัมมชโยเลย เนื่องจากพระธัมมชโยมีอาการอาพาธ จึงไม่อยากนำเรื่องเครียดไปให้พระธัมมชโยเป็นกังวล ซึ่งเรื่องคดีผมจะเป็นผู้จัดการเอง"นายเสริมพันธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีกลุ่มศิษย์ธรรมกายที่มีการร้องเรียนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะเป็นการกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้ทางวัดเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ นายเสริมพันธ์ กล่าวว่า ตรงนี้ตนตอบไม่ได้ เนื่องจากลูกศิษย์วัดมีหลายกลุ่ม ซึ่งใครจะทำอะไรตนไม่สามารถวบคุมได้ ซึ่งทางวัดไม่เคยปรึกษากับกลุ่มลูกศิษย์ เพราะปรึกษากันทีไรมักทะเลาะกันทุกครั้ง เนื่องจากความเห็นของนักกฎหมายจะไม่ตรงกัน แต่ตนรับรองได้หากพนักงานสอบสวนเดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหาที่วัด ตนจะดูแลความปลอดภัยให้อย่างดี เพราะในวัดตนสามารถควบคุมได้ แต่ถ้านอกวัดไม่สามารถควบคุมได้ เพราะถ้าเขาไม่ฟังเราก็จะเชิญเขาออกไป


ขอบคุณที่มาจาก > > http://www.posttoday.com/crime/432208

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์