ถกสุดยอดผู้นำเอเปกเห็นชอบ-วางกรอบแก้วิกฤตโลกร้อน

ความคืบหน้าการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย -แปซิฟิค (เอเปค) ครั้งที่ 15 ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 8 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้หารือทวิภาคีกับนายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ที่โรงแรม เดอะ ออบเซอร์เวทอรี่ ที่พักของคณะนายกรัฐมนตรี โดยร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผู้นำทั้ง 2 ได้พูดคุยกันหลายเรื่อง โดย พล.อ.สุรยุทธ์เล่าให้นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ฟังถึงความคืบหน้าในการกลับคืนสู่ประชาธิปไตยของไทย ที่จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ถามว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยจะเข้าสู่ตำแหน่งเมื่อไหร่ นายกรัฐมนตรีก็บอกว่า น่าจะเป็นช่วงปลายเดือนมกราคม 2550

ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ยังได้สอบถามถึงสถานการณ์ในภาคใต้ของไทย ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ชี้แจงว่า สถานการณ์ดีขึ้น เพราะได้รับความร่วมมือจากประชาชน จนมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้มากขึ้น ส่วนผู้ที่ถูกควบคุมตัวก็มีการนำไปฝึกอาชีพ และเชื่อว่าผู้ที่จะมาเป็นรัฐบาลใหม่คงจะสานต่อแนวทางดังกล่าวต่อไปได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีสนใจจะเรียนรู้ประสบการณ์จากสิงคโปร์ เกี่ยวกับการสร้างความสมานฉันท์ระหว่างศาสนาหรือเชื้อชาติต่างๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์บอกว่ายินดีที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตรงนี้


การหารือครั้งนี้ ยังมีการพูดถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งสิงคโปร์จะเป็นเจ้าภาพ พร้อมกับยืนยันว่า ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมีความคืบหน้าไปมาก และน่าจะเสร็จก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยได้แนะนำว่า ควรมีการทำความเข้าใจกับประชาชน เกี่ยวกับปฏิญญาอาเซียน เพราะถือเป็นก้าวที่สำคัญของอาเซียนร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าว

ทั้งนี้ เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล www.thaigov.go.th เผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ถึงการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคว่า ได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งผู้นำแต่ละเขตเศรษฐกิจต่างมีมุมมองที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว และประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และจะนำการหารือในเรื่องนี้ ไปประชุมอีกครั้งในการประชุมของสหประชาติที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในเดือนธันวาคม ทั้งนี้ จะมีแถลงการณ์ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของผู้นำเอเปคด้วย

พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ในโอกาสนี้ ไทยได้ชี้แจงถึงการดำเนินการของประเทศไทยในการแก้ปัญหาดังกล่าวเช่น การประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทดแทน การปลูกป่า การใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อลดการใช้พลังงานธรรมชาติในอนาคต โดยไทยได้เน้นการพัฒนาพลังงานทดแทนใหม่ๆ เพราะไม่สามารถคาดการณ์การใช้พลังงานธรรมชาติได้ว่าจะมีปริมาณสูงมากน้อยเพียงใด ในขณะที่พลังงานธรรมชาติมีจำกัด ซึ่งที่ประชุมได้แสดงข้อกังวลในประเด็นดังกล่าวและเห็นพ้องว่าจะนำไปหารือในที่ประชุมสหประชาชาติ ในเดือนธันวาคมอีกครั้งหนึ่ง

พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า สำหรับการประชุมร่วมกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค ซึ่งมีการแยกออกเป็น 5 กลุ่ม และไทยอยู่กลุ่มเดียวกับผู้นำเขตเศรษฐกิจจีน เม็กซิโก และเปรูนั้น ที่ประชุมมีความเป็นห่วงปัญหาผลกระทบจากปัญหาสินเชื่อคุณภาพต่ำในตลาดอสังหาริมทรัพย์ (ซับไพรม์) ของสหรัฐ เพราะปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการหมุนเวียนของการลงทุน โดยเฉพาะในส่วนของเฮดฟันด์ ตรงนี้น่าจะเป็นจุดหนึ่งที่จะต้องมีการหารือในระดับผู้นำต่อไป ว่าควรทำอย่างไร เพื่อให้สามารถตรวจสอบการเคลื่อนไหวของกองทุนในลักษณะเฮดฟันด์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารกลางของประเทศต่างๆ จะต้องตรวจสอบและสามารถดำเนินมาตรการล่วงหน้าได้ ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม


นอกจากนี้ ที่ประชุมเอเปก ได้พูดคุยถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ หรือปัญหาโลกร้อน ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบในกรอบการทำงาน เพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้น ส่วนรายละเอียดจะนำไปหารืออีกครั้งในเวทีของของสหประชาชาติในเดือนธันวาคมนี้  ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย  เพราะยังมีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่ ระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศที่กำลังพัฒนา  โดยในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.) ทางผู้นำเอเปกจะออกปฏิญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงทางพลังงาน และการพัฒนาที่สะอาด

'ที่ประชุมเป็นห่วงกันมากที่สุด ก็คือ ยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนออกมา เช่น ประเทศที่พัฒนาแล้วก็ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า จะใช้พลังงานในลักษณะไหน หรือการควบคุมก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์จะใช้มาตรฐานในลักษณะไหนอย่างไร เพราะเป็นเรื่องที่จะกระทบต่ออุตสาหกรรมในแต่ละประเทศ ดังนั้น คงจะต้องนำไปหารือกันอีกครั้งในเวทีของสหประชาชาติ' นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.สุรยุทธ์  กล่าวว่า ในส่วนของไทยได้เสนอให้ที่ประชุมทราบเกี่ยวกับการดำเนินการที่ผ่านมา ทั้งเรื่องของการประหยัดพลังงาน การดูแลรักษาป่าไม้  และแนวทางทดแทนพลังงานในอนาคต  รวมทั้งการใช้พลังงานนิวเคลียร์  ประเทศที่พัฒนาแล้ว พร้อมให้การสนับสนุนข้อมูลและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพิ่มเติม เพราะพลังงานที่ได้จากน้ำมันจะค่อย ๆ ลดลงไป และไม่มีใครสามารถพยากรณ์ได้ว่า อัตราการใช้จะเพิ่มมากน้อยเพียงใดในอนาคต จึงจำเป็นที่จะต้องพูดถึงพลังงานทดแทน


นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันด้วยว่า เวทีแก้ปัญหาโลกร้อนของเอเปก จะไม่ซ้ำซ้อนกับเวทีของสหประชาชาติ เพราะจะมีการนำข้อมูลที่ได้จากเวทีเอเปกไปหารือในเวทีของสหประชาชาติต่อไป เพราะในเวทีของเอเปกก็มีประเทศอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย ร่วมอยู่ด้วย ดังนั้น ในเวทีของสหประชาชาติคงไม่มีอะไรแตกต่างจากเวทีเอเปกมากนัก

ด้านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจากปกปิดกันอยู่นานในที่สุดทุกคนก็ได้เห็นชุดประจำชาติที่ผู้นำออสเตรเลียเลือกมาใช้สำหรับถ่ายภาพหมู่ของผู้นำเอเปค ซึ่งก็คือแจ๊คเก็ตกันฝนสีน้ำตาลเข้มยาวระดับเข่าที่เรียกกันว่า ดรีซาโบน ซึ่งมีชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการในหมู่ชาวออสเตรเลียว่า'แจ๊คเกอรู' ซึ่งเป็นเสื้อที่นิยมใช้กันในหมู่คนเลี้ยงแกะและปศุสัตว์ของออสเตรเลีย โดยนายจอห์น ฮาวเวิร์ด นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้เลือกชุดดังกล่าวจากคำแนะนำของนางเจเน็ต ผู้เป็นภริยาที่ยืนยันว่า เป็นชุดที่สามารถแสดงถึงวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมของออสเตรเลียได้ดีที่สุด โดยผู้นำเอเปคสามารถเลือกสีปกที่แตกต่างกัน โดยสีส้มแดงแสดงถึงสภาพชนบทของออสเตรเลีย ส่วนสีเขียวก็คือสีของพุ่มไม้นั่นเอง

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจออสเตรเลียต้องเผชิญกับกลุ่มผู้ประท้วง ราว 3,000 คน ที่เคลื่อนตัวจากที่ทำการของเมืองซิดนีย์ไปยังสวนสาธารณะไฮด์ปาร์ก ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ซิดนีย์ โอเปรา เฮาส์ สถานที่จัดการประชุมและถ่ายภาพหมู่ของผู้นำเอเปค และถือเป็นสัญลักษณ์ของนครซิดนีย์ด้วย


เจ้าหน้าที่พยายามควบคุมและจำกัดบริเวณของผู้ประท้วงไม่ให้ลุกลามไปถึงพื้นที่อื่นๆ ของซิดนีย์ จนทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่เล็กน้อย ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ประท้วงไป 9 คน พร้อมตั้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

อย่างไรก็ดี ภาพรวมของการประท้วงเป็นไปอย่างสันติ แต่เจ้าหน้าที่พยายามขัดขวางการประท้วง โดยในบางจุดมีการนำรถมาขวางเส้นทาง ภายหลังการประท้วงยุติ กลุ่มผู้ประท้วงได้ไปรวมตัวกันที่ไฮด์ปาร์กและฟังดนตรีก่อนที่จะแยกย้ายกันไปในอีกหลายชั่วโมงถัดมา ด้านนายดาเมียน ลอว์สัน ผู้จัดการประท้วงครั้งนี้ระบุว่ามีคนมาร่วมในการประท้วงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์